วันนี้เรามากับ
HUAWEI MatePad Pro 12.6 นิ้ว พี่ใหญ่ตระกูลแท็บเล็ตจากหัวเว่ยที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ เมื่อเดือนมิถุนายน 2021 นี้ กับสเปกจัดเต็มจนทึ่ง ด้วยหน้าจอ OLED HUAWEI FullView Display ขนาดใหญ่สุด ๆ ที่ 12.6 นิ้ว ความละเอียด 2K มีระดับความแม่นยำของสีสูง ชิปเซ็ต Kirin 9000E รับประกันความเร็วแรง พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานแท็บเล็ตที่เหนือชั้นในทุกด้านด้วย HarmonyOS รุ่นแรกของทางหัวเว่ย รองรับทั้ง HUAWEI M-Pencil และ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียนรู้ หรือความบันเทิงก็สามารถตอบโจทยได้ครบถ้วนทั้งสิ้น
HUAWEI MatePad Pro 12.6 นิ้ว วางจำหน่ายแล้ว
- สี Matte Grey ในราคา 28,990 บาท
- สี Olive Green ในราคา 34,990 บาท
พิเศษสุด! เมื่อซื้อสินค้าในช่วง Early Bird รับฟรีทันที HUAWEI Smart Magnetic Keyboard, HUAWEI M-Pencil, HUAWEI Cloud (200GB ระยะเวลา 3 เดือน), HUAWEI VDO (ระยะเวลา 1 เดือน), WPS VIP (ระยะเวลา 3 เดือน) และ FilmoraGo VIP (ระยะเวลา 3 เดือน) มูลค่ารวม 11,517 บาท! สามารถสั่งซื้อเป็นเจ้าของได้
ที่นี่ รวมถึง HUAWEI Store, JD Central, Lazada, Shopee, HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ
เปิดตัวด้วยการเป็นแท็บเล็ตระดับพรีเมียม พร้อมจัดหนักจัดเต็มของแถมขนาดนี้ เท่ากับว่าเราได้เป็นเจ้าของ HUAWEI MatePad Pro 12.6" ในราคาไม่ถึงหนึ่งหมื่นแปดพันบาทเลยทีเดียว มาดูกันต่อเลยดีกว่า ว่าแท็บเล็ตรุ่นใหญ่ตัวนี้น่าสนใจอย่างไร
การเชื่อมต่อ และรายละเอียดสเปคของ HUAWEI MatePad Pro 12.6"
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac รองรับ Wifi-6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
- Bluetooth 5.2, A2DP, LE
- GPS, A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS
- USB Type-C 3.1, USB On-The-Go
- หน้าจอ OLED ขนาด 12.6 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 pixels (240 ppi), อัตราส่วน 16:10, DCI-P3, รับการรับรองจาก TUV Rheinland Full Care Display 2.0
- HarmonyOS 2.0
- Kirin 9000E 5G
- CPU Octa-core (1x3.13 GHz Cortex-A77 & 3x2.54 GHz Cortex-A77 & 4x2.05 GHz Cortex-A55)
- GPU Mali-G78 MP22
- RAM 8GB / ROM 256GB รองรับ Nano Memory สูงสุด 256GB
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, gyro, proximity, compass
- กล้องหน้าความละเอียด 8MP F2.0
- กล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 13MP F1.8, (wide), PDAF + 8MP F2.4, (ultrawide) + 3D Sensing Camera
- มาพร้อมเลนส์ Zeiss Optics และเทคโนโลยี Pixel Shift
- บันทึกวีดีโอความละเอียด 4K 30FPS
- ลำโพง harman/kardon 8 ตัว และไมโครโฟน 4 ชุด
- แบตเตอรี่ความจุ 10,050 mAh รองรับชาร์จเร็ว Fast charging 40W, Reverse charging 5W, Wireless charging 27W, Wireless reverse charging 10W
- วางจำหน่ายในสี Matte Grey
HUAWEI MatePad Pro 12.6" มีให้เลือกด้วยกัน 2 สี ได้แก่ Matte Grey และ Olive Green ซึ่งในตอนนี้วางขายในประเทศไทยเพียงแค่สี Matte Grey เท่านั้น ครั้งแรกที่ได้เห็นตัวเครื่องต้องบอกเลยว่าค่อนข้างตกใจกับขนาดที่ใหญ่เกือบเท่ากระดาษเอสี่ แต่ด้วยความบางเพียง 6.7 มิลลิเมตร ทำให้ไม่รู้สึกถึงความหนาหรือเทอะทะเลยแม้แต่น้อย ด้านหลังตัวเครื่องเป็นสีเทาเข้ม วัสดุทำจากพลาสติกแข็งทนทาน มีผิวสัมผัสด้าน ทั้งยังใช้เทคนิคพิเศษในการออกแบบให้ลดรอยนิ้วมือบนตัวเครื่อง แต่ส่วนตัวใช้แล้วพบว่าแม้ไม่ติดรอยนิ้วมือ แต่ติดคราบไขมันอะไรพวกนี้ค่อนข้างง่ายและเช็ดออกยากมาก ๆ แต่สำหรับใครที่ใส่เคสอยู่แล้ว ตรงนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหาเท่าไหร่ ส่วนตรงกลางด้านหลังพิมพ์โลโก้หัวเว่ย ถัดมาด้านล่างเป็นเครื่องหมายรับรองการจูนเสียงโดย harman/kardon
มุมขวาบนเป็นกล้องหลังที่จัดวางสไตล์คล้ายกับสมาร์ตโฟนของทางหัวเว่ย ซึ่งจะประกอบไปด้วยกล้องหลัง 3 ตัวและแฟลช พร้อมไมโครโฟนกล้องอีกหนึ่งตัวค่ะ
สำหรับหน้าจอ มาพร้อมจอแสดงผล OLED HUAWEI FullView Display ขนาด 12.6 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 16:10 ขอบจอที่บางเฉียบเพียง 5.6 มิลลิเมตร ในอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่ 90% ทำให้ได้จอภาพที่กว้างใหญ่ไพศาลสุดลูกหูลูกตามากค่ะ (ฮ่า) ผนวกกับการซ่อนกล้องหน้าไว้บริเวณกึ่งกลางตรงกรอบหน้าจอด้านบน ทำให้ไม่มีอะไรมารบกวนสายตาระหว่างใช้งานเลย ถือว่าสอบผ่านเรื่องดีไซน์หน้าจอฉลุย
เลื่อนขึ้นไปด้านบนตัวเครื่องพบปุ่มพาวเวอร์ (Power) และลำโพงขนาดใหญ่ 4 ตัวแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ส่วนด้านล่างจะเจอกับพอร์ต USB Type-C และลำโพงขนาดใหญ่อีก 4 ที่เหลือ ตัวแบ่งออกเป็นสองฝั่งเช่นกัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกกับแท็บเล็ตที่มีลำโพงสูงสุดถึง 8 ตัวเลยทีเดียว แบ่งเป็นลำโพงความถี่สูง 4 ตัว และลำโพงความถี่ครบทั้ง สูง-กลาง-ต่ำ อีก 4 ตัว
สำหรับด้านข้าง ขวามือจากหน้าจอจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และรูไมโครโฟน 3 ตัว ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นช่องถาดสำหรับใส่เมมโมรี่การ์ด 1 ช่อง รองรับความจุดสูงสุดที่ 256GB ซึ่งต้องขอเสริมเล็กน้อย เพราะหลายคนอาจจะสับสนว่านี่เป็นช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด เนื่องจาก HUAWEI MatePad Pro 12.6" ที่วางขายในประเทศไทยจะรองรับ Wifi เท่านั้นค่ะ
แม้จะออกตัวไปตั้งแต่ต้นว่า HUAWEI MatePad Pro 12.6" เป็นแท็บเล็ตที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่กลับมีน้ำหนักที่รวมแบตเตอรี่แล้วเพียง 609 กรัม ซึ่งถือว่าเบามากเมื่อเทียบกับแท็บเล็ตขนาดพอ ๆ กันในท้องตลาด สามารถถือได้ด้วยมือเดียวกับสบาย ๆ พกพาไปไหนมาไหนได้ไม่ยากเลยค่ะ
กล่อง และอุปกรณ์
HUAWEI MatePad Pro 12.6" มาพร้อมกล่องสีขาวขนาดใหญ่ดีไซน์เรียบหรู ปั้มโลโก้แบรนด์, ระบุชื่อ และรุ่นของอุปกรณ์ พร้อมข้อมูลเบื้องต้น ข้อมูลหน่วยความจำ และสีของตัวเครื่อง โดยอุปกรณ์ภายในกล่องจะประกอบไปด้วย
- ตัวเครื่องแท็บเล็ต (พร้อมแบตเตอรี่ในตัวเครื่อง)
- อะแดปเตอร์รองรับชาร์จไว 40 วัตต์
- สายเคเบิล USB Type-C
- เข็มจิ้มถาดเมมโมรี่การ์ด
- คู่มือการใช้งาน
- ใบรับประกัน
อุปกรณ์เสริม (Gadget)
สำหรับอุปกรณ์เสริมที่รองรับสำหรับ HUAWEI MatePad Pro 12.6" โดยเฉพาะ จะประกอบไปด้วย HUAWEI Smart Magnetic Keyboard สี Dark Gray และ HUAWEI M-Pencil (2nd Generation) สี Metallic Silver
HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ออกแบบมาได้บางเฉียบ และมีน้ำหนักน้อยมาก ใช้วัสดุที่ให้เนื้อสัมผัสคล้ายหนัง จับติดมือ เมื่อสวมเข้ากับตัวเครื่องก็หนาขึ้นมาเพียงเล็กน้อย ไม่ทำให้รู้สึกเทอะทะ ส่วนตัวชื่นชอบการออกแบบแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดของหัวเว่ยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะสามารถจัดวางระยะห่างแป้นพิมพ์ได้พอดีมือ แถมตัวนี้ยังมากับคีย์คำสั่งลัดบนแป้นพิมพ์ที่ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้น ทั้งคำสั่งเพิ่ม-ลดเสียง, เพิ่ม-ลดความสว่างของหน้าจอ, คำสั่งล็อกหน้าจอ และคำสั่งจับภาพหน้าจอ ซึ่งไม่ต้องตกใจไปนะคะ ตัวที่วางขายมีเวอร์ชันภาษาไทยด้วย
สำหรับ HUAWEI M-Pencil ตัวนี้เป็น 2nd Generation ซึ่งออกแบบได้สวยพรีเมียมและจับถนัดมือมาก ให้สัมผัสเหมือนการจับปากกาจริง ๆ เลย สามารถชาร์จไฟได้ด้วยการวางไว้ด้านบนของตัวเครื่อง (ตามภาพ) แม่เหล็กบนตัวปากกาก็จะยึดเข้ากับแท็บเล็ต แต่ต้องระวังนิดนึงนะคะ เพราะว่าตัวแม่เหล็กไม่ได้ดูดแน่นมาก แนะนำว่าถ้าจะถือไปข้างนอกให้เก็บปากกาไว้ในกระเป๋าจะดีกว่าค่ะ
HUAWEI MatePad Pro 12.6" หน้าจอ OLED HUAWEI FullView Display ขนาด 12.6 นิ้ว ความละเอียดสูง 2K QHD ที่มีระดับความแม่นยำของสีสูง ด้วยช่วงสี DCI-P3 ที่กว้าง และความคอนทราสต์ที่มากถึง 1,000,000:1 ทำให้สามารถแสดงสีที่ชัดเจนและสมจริงยิ่งขึ้น โดยมีระดับความแม่นยำของสีที่ AE < 0.5 ซึ่งเป็นระดับความแม่นยำที่ให้ในจอภาพระดับโปร บอกเลยว่าถูกใจและตอบโจทย์งานสายกราฟิกดีไซน์อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีโซลูชันฮาร์ดแวร์กรองแสงสีฟ้าที่ช่วยลดค่าแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตา ซึ่งถือว่าเป็นแท็บเล็ตเครื่องแรกของโลกได้รับการรับรองจาก TUV Rheinland Full Care Display 2.0 ช่วยลดอาการล้าของดวงตาได้อีกด้วย
มาพูดถึงระบบปฏิบัติการกันบ้าง HUAWEI MatePad Pro 12.6" เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกของทางหัวเว่ยที่ทำงานบน HarmonyOS (2.0) ซึ่งหน้าตาสวยงาม สะอาด สบายตาสุด ๆ มีโหมดถนอมสายตาให้เลือกได้ตามการใช้งานเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น Dark mode (โหมดกลางคืน), Eye Comfort (โหมดสบายตา) และ eBook mode (โหมดอ่านหนังสือ)
นอกจากนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนหน้าตาของโฮมสกรีนได้อิสระมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความสว่างของแสง, โทนสีของหน้าจอ, รูปแบบและขนาดของตัวหนังสือ, ธีมและรูปแบบของไอคอน รวมไปถึงการจัดเรียงไอคอนตามหมวดหมู่อีกด้วย ความพิเศษยังไม่หมดแค่นี้ เมื่อเจ้าOSตัวใหม่ยังมาพร้อมกับวิดเจ็ตให้เราสามารถตกแต่งหรือตั้งค่าหน้าจอใช้งานได้สนุกยิ่งขึ้น โดยวิธีใช้งานให้เราวางนิ้วบนหน้าจอโฮมสกรีนแล้วรวบนิ้วมาไว้ยังจุดกึ่งกลาง เมนูตั้งค่าก็จะแสดงขึ้นให้เราทันทีค่ะ
ขอพูดถึงหน้าตาอินเตอร์เฟสกันต่ออีกสักนิดค่ะ โดยส่วนตัวชื่นชอบ Desktop mode (โหมดเดกส์ท็อป) ของทางหัวเว่ยมาก ซึ่งเป็นโหมดที่จะแปลงร่างแท็บเล็ตของเราให้มีหน้าตาเหมือนกับคอมพิวเตอร์ แต่ใน HarmonyOS ที่ให้มันนั้นได้ตัดเอาโหมดดังกล่าวนี้ออกไป เพราะว่าตัวมันเองคือ Harmony Desktop ที่ถูกออกแบบให้เอื้อต่อการใช้งานในหลากหลายรูปแบบอยู่แล้ว โดยเราสามารถเลือกแอปพลิเคชันที่ใช้บ่อยมาไว้ยังแถบด้านล่าง (ตามรูป) โดยถัดไปขวามือจะเป็นแอปพลิเคชันล่าสุดที่เราเปิด ซึ่งนอกจากนี้ยังสามารถลากนิ้วจากขอบจอเพื่อเปิดแถบด่วนให้เราเลือกแอปพลิเคชันสำหรับใช้งานสองหน้าต่างได้ทันที
เมื่อพูดถึงการทำงานหลายหน้าต่าง หรือฟีเจอร์ Multi-Window เจ้า HUAWEI MatePad Pro 12.6" ก็สามารถไปไกลได้ถึงความสามารถในการเปิดใช้งานหน้าต่างได้สูงสุดถึง 4 แอปพลิเคชัน 4 หน้าต่าง (เต็มจอ 2 แอปฯ หน้าต่างลอย 2 แอปฯ) จากการทดลองใช้งานดูแล้ว สามารถสลับใช้งานได้โดยไม่มีปัญหาติดขัดเลยสักหน้าต่างค่ะ ถือว่าทำได้ดีเยี่ยมมาก ๆ และนอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกให้ด้วยการเก็บหน้าต่างลอยในแท็บเมนูด้านข้างได้มากถึง 10 หน้าต่างเลยทีเดียว
จุดเด่นอีกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของหัวเว่ย คือฟีเจอร์ App-Multiplier ที่หนึ่งแอปพลิเคชันสามารถเปิดได้สองหน้าต่าง เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์เล็ก ๆ ที่สร้างความสะดวกได้อย่างมหาศาล คือเราสามารถกดดูข้อมูลที่อยู่อีกหน้าต่างได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนกลับไปมาให้เสียเวลาหรือสับสนเลย โดยแอปพลิเคชันที่ซัพพอร์ตฟีเจอร์ตัวนี้มีถึง 4000+ แอปฯ เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Pantip, Lazada, JD Central, Line TV, SE-ED, BBTV CH7, Joox Music, WeChat, Bugaboo.TV, Rabbit Rewards, The 1 และ 3BB เป็นต้น
ฟีเจอร์เด่น HUAWEI Multi-screen Collaboration with Laptop
HUAWEI Multi-screen Collaboration with Laptop คือ ฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้เราสามารถผสานการทำงานระหว่างแท็บเล็ตกับแล็ปท็อปเข้าด้วยกัน พูดง่าย ๆ ก็คือ เราสามารถเปลี่ยนแท็บเล็ตให้เป็นหน้าจอแยกสำหรับใช้งานแล็ปท็อปได้อีกหนึ่งจอนั่นเอง
โดยวิธีการเชื่อมต่อ ให้เราไปที่โปรแกรม PC Manager บนแล็ปท็อป เลือกที่ Tablet แล้วกด Connect (เชื่อมต่อ) จากนั้นโปรแกรมก็จะให้เราใส่รหัส ซึ่งรหัสนี้จะแสดงบนหน้าจอแท็บเล็ตที่เราต้องการจะเชื่อมต่อ เมื่อกรอกเรียบร้อยแล้วให้กด OK (ตกลง) ได้เลย
ความเก่งของเจ้าฟีเจอร์นี้ คือมีให้เลือกใช้งานด้วยกันทั้งหมด 3 โหมด คือ Mirror Mode หรือจอเสมือนที่เราสามารถควบคุมคำสั่งต่าง ๆ บนแล็ปท็อปผ่านแท็บเล็ตได้ง่าย ๆ Extend Mode หรือจอแยก เปลี่ยนแท็บเล็ตให้เป็นจอภาพสำหรับขยายการทำงานสองจอ หรือใช้เป็น Presentation ก็ได้ และ Collaboration Mode ที่ช่วยให้เราโยกย้ายข้อมูลไฟล์ต่าง ๆ ระหว่างแท็บเล็ตและแล็ปท็อปได้ง่ายดาย ซึ่งถ้าเราใช่งานร่วมกับปากกา HUAWEI M-Pencil ก็สามารถแก้ไขไฟล์ด้วยปากกาผ่านแท็บเล็ตได้เลยทันที
หลังจากที่ได้ทดลองใช้งานฟีเจอร์นี้ ต้องชื่นชมเลยว่าทางหัวเว่ยสามารถทำ Eco System ของตัวเองได้เสถียรและใช้งานได้แบบไร้รอยต่อจริง ๆ ถือเป็นจุดแข็งหนึ่งที่น่าพิจารณาซื้อเลยค่ะ
และสำหรับใครที่มีสมาร์ตโฟนหัวเว่ยอยู่ในมือ สามารถใช้งานในฟีเจอร์ HUAWEI Share เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานได้ ด้วยการแชร์หน้าจอสมาร์ตโฟนไปบนแท็บเล็ต จะโยนไฟล์ไปมาระหว่างดีไวซ์หรือการใช้ปากกาในการจดบันทึก ตอบข้อความระหว่างแอปฯ ก็สามารถทำได้บนแท็บเล็ตที่เดียวเลยได้แบบครบวงจร
ประสิทธิภาพ และการใช้งาน (Performance)
HUAWEI MatePad Pro 12.6" มาพร้อมขุมพลัง Kirin 9000E ขนาด 5 นาโนเมตร ซึ่งให้ความเร็วแรงพอสมควรเลยค่ะ สามารถใช้งานฟีเจอร์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้ลื่นไหล พร้อมด้วย GPU Mali-G78 MP22 สำหรับการแสดงผลกราฟิกที่ดีขึ้น สามารถเล่นเกมด้วยกราฟิกคุณภาพสูงหรือชมคลิปที่มีความละเอียดได้สบาย ๆ ไม่ติดขัด สำหรับระบบความปลอดภัย HUAWEI MatePad Pro 12.6" รองรับการปลดล็อคด้วยการแสกนใบหน้า และการปลดล็อคแบบอัจฉริยะด้วยการเชื่อมต่อไอดีของเรากับอุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อปลดล็อค และตามที่ได้บอกไว้ในตอนต้นว่าตัวเครื่องที่วางขายในประเทศไทยจะไม่รองรับการใส่ซิมการ์ด แต่ให้การรองรับ Wifi-6 ค่ะ โดยเจ้า HUAWEI MatePad Pro 12.6" ได้คะแนนทดสอบผลออกมาดังนึ้
คะแนนทดสอบประสิทธิภาพการใช้งาน
- ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 703,100 คะแนน
- ทดสอบ MultiTouch รองรับ 10 จุด
- ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AndroBench ทำความเร็ว Storage ในการอ่านอยู่ที่ 2030.23 MB/s และการเขียน 1549.14 MB/s (UFS 2.1) ทำความเร็ว RAM ในการอ่านอยู่ที่ 318.61 MB/s และการเขียน 379.72 MB/s (LPDDR4X)
- รองรับ DRM L1 สามารถรับชม Netflix FHD
- ทดสอบการจับสัญญาณ GPS ภาคพื้นดินด้วยแอปพลิเคชัน GPS Tester พบว่าจับสัญญาณได้ 28 ดวงจาก 55 ดวง
ต้องบอกเลยว่าเป็นคะแนนโดยรวมที่ทำได้ดีมากเลยทีเดียวค่ะสำหรับแท็บเล็ต
แอปพลิเคชั่น และการดาวน์โหลด
เดาว่าหลายคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าผลิตภัณฑ์ของทางหัวเว่ยในปัจจุบันไม่มีการรองรับ Google Mobile Service (GMS) จากทาง Google ซึ่งทางเราก็ได้บอกเสมอว่าจุดนี้เป็นเพียงข้อพิจารณาเล็ก ๆ เท่านั้น เพราะทางหัวเว่ยได้พัฒนา AppGallery ขึ้นมาให้สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ในนาม Huawei Mobile Service (HMS) ซึ่งตอนนี้มีการอัปเดตแอปพลิเคชันหลัก ๆ ที่ใช้งานกันเป็นส่วนใหญ่ให้สามารถดาวน์โหลดกันได้เกือบทั้งหมดแล้ว และทางหัวเว่ยยืนยันว่าจะยังมีการอัปเดตต่อไปอีกเรื่อย ๆ นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชันอื่น ๆ ขึ้นมาทดแทนในส่วนของการทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น WPS Office, Petal Search สำหรับการค้นหา และ Petal Map สำหรับการนำทาง ทำให้การใช้งานในเรื่องของแอปพลิเคชันไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับการใช้งานแท็บเล็ตเลยแม้แต่น้อยค่ะ
สำหรับ Petal Search ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับการค้นหา (ซึ่งแน่นอนว่ามาแทนที่ Google Search) แต่ความดีงามของมันคือนอกจากจะสามารถค้นหาทั่วไปได้แล้ว ยังสามารถค้นหาแอปพลิเคชันต่าง ๆ ไม่ว่าจะมีรองรับอยู่ใน AppGallery หรือรองรับจากแหล่งดาวน์โหลดอื่น ๆ ให้เราสามารถเสิร์ชหาแอปฯที่ต้องการจะติดตั้งได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องเสียเวลาเข้าเบราว์เซอร์ด้วยตัวเอง เรียกว่าหัวเว่ยพัฒนาฟีเจอร์มาได้แก้ปัญหาของผู้ใช้งานได้ตรงจุดสุด ๆ เลยค่ะ
การใช้งาน HUAWEI M-Pencil และ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ส่วนตัวชื่นชอบ คือการใช้งาน HUAWEI M-Pencil และ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ร่วมกับแท็บเล็ต ที่่ช่วยให้เรายืดหยุ่นการทำงานได้หลากหลายมากขึ้น สามารถใช้งานแท็บเล็ตได้แบบเต็มประสิทธิภาพครบฟังก์ชัน ซึ่งการทำงานของปากกาและคีย์บอร์ดในเบื้องต้น สามารถทำงานได้เสถียร เชื่อมต่อง่าย ยังไม่เจอจุดไหนที่ติดขัดค่ะ
HUAWEI M-Pencil (2nd generation) สำหรับตัวนี้เป็นปากการุ่นสอง ที่เพิ่มเซนเซอร์ความแม่นยำในการเขียน และมีความหน่วงน้อยลง รองรับแรงกดได้ที่ 4,096 ระดับ ให้การเขียนที่ลื่นไหลและสัมผัสเหมือนการจับปากกาเขียนบนกระดาษจริง ๆ ค่ะ HUAWEI M-Pencil ตัวนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการช่วยปรับรูปทรงเลขาคณิตและตารางจากการวาดลายมือแบบฟรีสไตล์ให้โดยอัตโนมัติ เหมาะสำหรับสายกราฟฟิกและวาดรูปที่ต้องการตัวช่วยสำหรับสร้างสรรค์ผลงาน
และฟีเจอร์ Double-tap ที่เมื่อเราใช้นิ้วเคาะตรงหัวปากกาที่จับอยู่สองที อุปกรณ์ก็จะสลับการใช้งานเครื่องมือให้เราง่าย ๆ ทันที เช่น สลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ปัจจุบันและอุปกรณ์ก่อนหน้านี้ หรือเปลี่ยนชุดสีต่าง ๆ จากการทดลองใช้งานจดโน้ต พบว่าใช้งานได้สะดวกมาก ถือว่าเป็นฟีเจอร์เล็ก ๆ ที่ช่วยย่นเวลาการทำงานได้อย่างเหลือเชื่อเลยค่ะ
อีกหนึ่งฟังก์ชันที่มากับปากกา คือ HUAWEI FreeScript ที่ช่วยเปลี่ยนลายมือให้เป็นตัวพิมพ์ เพียงแค่เราเขียนคำที่ต้องการบนช่องค้นหา หรือช่องตอบข้อความ ลายมือก็จะถูกเปลี่ยนให้เป็นตัวพิมพ์แบบอัตโนมัติ ซึ่งให้ความแม่นยำได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว ตอนนี้รองรับการใช้งานในช่องการค้นหาผ่านเบราว์เซอร์ หรือการจดบันทึกในแอปฐ HUAWEI Notepad, WeNote แอปพลิเคชันสนทนายอดนิยมอย่าง Line และ Facebook Messenger
HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ถูกออกแบบให้มีระยะห่างระหว่างตัวอักษรอยู่ที่ 1.3 มิลลิเมตร ให้สัมผัสที่ได้เหมือนแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์พีซีทั่วไป ทำให้เวลาพิมพ์รู้สึกว่าพอดีมือมาก และที่สำคัญ มีขนาดที่บางเฉียบและน้ำหนักเบาเพียง 350 กรัมเท่านั้น คีย์บอร์ดใช้แม่เหล็กในการยึดกับตัวเครื่อง สามารถสวมหรือถอดออกได้ง่ายและรวดเร็ว ก่อนหน้านี้เราพบปัญหาที่ผู้ใช้งานคีย์บอร์ดหัวเว่ยมักพบ นั่นคือ
การพิมพ์ตัวอักษร ข และ ช ไม่ได้ ซึ่งทางเราก็ได้หา Tips เล็ก ๆ มาเป็นทางแก้ให้ไว้เรียบร้อยแล้วในบทความรีวิว
HUAWEI MatePad 10.4" ค่ะ
สำหรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมทั้งสอง ส่วนตัวประทับใจมาก ๆ มองว่าเป็นการเสริมแรงกันและกัน ด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงความสะดวกในการพกพา และฟังก์ชัน/ฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่สามารถใช้งานได้จริง ทำให้ HUAWEI MatePad Pro 12.6" กลายเป็นแท็บเล็ตที่สามารถใช้ทำงานหนัก ๆ ได้อย่างเต็มรูปแบบ ให้เรายกงานไปทำที่ไหนก็ได้ เพียงแค่กางออกมาวางบนตักก็สามารถทำงานต่อได้แล้ว สะดวก ง่าย และเก่งมาก ๆ
การเล่นเกม
ด้วยชิปเซ็ต Kirin 9000E ขนาด 5 นาโนเมตร ทำให้เจ้า HUAWEI MatePad Pro 12.6" สามารถเล่นเกมหนัก ๆ ได้ลื่นไหล ไม่มีปัญหาเลยค่ะ จากการทดสอบด้วย PUBG Mobile ปรับกราฟฟิกสูงสุดได้ระดับ HDR HD เฟรมเรตที่ Ultra ลงสนามไปวิ่งก็ไม่มีอาการกระตุกให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว สิ่งที่ได้พ่วงมาคือเสียงรอบทิศทางจากลำโพง 8 ตัว ทำให้เล่นเกมได้สนุกมากยิ่งขึ้น เสียงวิ่ง เสียงฝีเท้าทางทิศทางไหน ได้ยินหมดเลย ถือเป็นแท็บเล็ตตัวหนึ่งที่ถือว่าทำได้ดีในเรื่องของเกมเลยทีเดียว
การรับชมความบันเทิง
สายดูคลิปวิดีโอ สายดูหนัง-ซีรีส์ต้องชอบ HUAWEI MatePad Pro 12.6" แน่นอนค่ะ ด้วยหน้าจอที่ใหญ่มากและสัดส่วนที่พอดีกับกรอบวิดีโอ ทำให้เหลือขอบจอบน-ล่างเพียงเล็กน้อย เวลารับชมความบันเทิงก็สามารถดูได้อย่างเต็มจอเต็มตา ผนวกกับความละเอียดหน้าจอสูง 2560 x 1600 พิกเซล ทำให้สามารถรับชมภาพแบบ 2K QHD คมกริบได้สบาย ๆ และยังให้สีสันที่สวยสดใสอีกด้วย
และที่สำคัญคืออรรถรสทางเสียงที่ได้จากลำโพงทั้ง 8 ตัวรอบตัวเครื่องที่ได้รับการจูนเสียงจาก harman/kardon ให้เสียงกระหึ่มรอบทิศทาง ดังมากขึ้นถึง 79dB และให้ความถี่ของเสียงกว้างขึ้น สมจริงขึ้น ได้ความรู้สึกเดียวกับการนั่งดูหนังในโรงภาพยนตร์เลยทีเดียว ถือว่าได้คะแนนเต็มสิบเรื่องอรรถรสในการชมคอนเทนต์
กล้องถ่ายรูป
HUAWEI MatePad Pro 12.6" ให้กล้องหลังมาถึง 3 เลนส์ ความละเอียด 13MP รูรับแสง F1.8, เลนส์ Ultra-wide 8MP รูรับแสง F2.4 พร้อมเซ็นเซอร์ 3D Depth รองรับการใช้งานด้าน AR สามารถบันทึกวีดีโอความละเอียด 4K 30FPS พร้อมโหมดถ่ายภาพที่ครอบคลุมการใช้งานเกือบทุกมิติ กล้องหน้าความละเอียด 8MP รูรับแสง F2.0 พร้อมโหมดบิวตี้ที่ให้ผลลัพธ์เซลฟี่เนียนสวยเป็นเอกลักษณ์ของหัวเว่ย ถือว่าคุณภาพกล้องเทียบเท่ากับสมาร์ตโฟนระดับกลางเลยทีเดียว ซึ่งน้อยมากที่แท็บเล็ตจะให้ความสำคัญกับกล้องขนาดนี้ ซึ่งภาพที่ได้มีความคมชัดและทำการเบลอขอบได้เนียน ถึงแม้สีสันจะไม่ได้สดใสมาก แต่ทำออกมาได้ดีเลยค่ะ
สำหรับหน้าอินเตอร์เฟสของกล้องจะประกอบไปด้วย
- โหมดออโต้
- โหมดรูรับแสง
- โหมดกลางคืน
- โหมดภาพถ่ายบุคคล
- โหมดถ่ายวิดีโอ
- ส่วนเมนู เพิ่มเติม จะประกอบไปด้วย โหมดถ่ายเอกสาร, โหมดจับเวลา (หน่วงเวลา), โหมดภาพขาวดำ, โหมดโปร (Pro), โหลดสโลว์-โมชัน (Slow-motion) และพาโนรามา เป็นต้น
ตัวอย่างรูปถ่ายจากกล้อง HUAWEI MatePad Pro 12.6"
การใช้พลังงานแบตเตอรี่
HUAWEI MatePad Pro 12.6" ให้แบตเตอรี่มาที่ความจุ 10,050 mAh ซึ่งถือว่าใหญ่มากเลยทีเดียว และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีประหยัดพลังงานจากชิปเซ็ต ผนวกกับการทำงานของระบบปฏิบัติการตัวล่าสุด ทำให้เป็นแท็บเล็ตที่บริหารศัพยากรแบตเตอรี่ได้ดีมากตัวหนึ่งเลย ด้วยหน้าจอแสดงผลที่ค่อนข้างใหญ่ทำให้แบตไม่ได้อึดมาก แต่ก็ไม่ได้ไหลลดลงเร็วจนรับไม่ได้ จากการทดลองใช้ทำงานในหนึ่งวัน เล่นเกมบ้าง ดูวิดีโอบ้าง พบว่าแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้เต็มวันแบบสบาย ๆ ถือว่าสอบผ่านค่ะ
ทั้งนี้ HUAWEI MatePad Pro 12.6" ยังรองรับการชาร์จเร็วที่ 40 วัตต์ ใช้เวลา 2 ชั่วโมงนิด ๆ ในการชาร์จให้เต็มเครื่อง รองรับการชาร์จไร้สายที่ 27 วัตต์ และเป็นหนึ่งในแท็บเล็ตไม่กี่ตัวที่รองรับการเป็นแบตเตอรี่สำรองไร้สายให้กับอุปกรณ์อื่น ๆ (Reverse Wireless Charge) อีกด้วย ซึ่งจะอยู่ที่ 10 วัตต์ค่ะ
บทสรุป
HUAWEI MatePad Pro 12.6" เป็นแท็บเล็ตเรือธงที่ให้ฟีเจอร์มาครบในทุกด้านจริง ๆ ไม่ว่าจะเรื่องหน้าจอ ชิปเซ็ต คุณภาพเสียง กล้อง และฟีเจอร์การใช้งานต่าง ๆ รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมที่เข้ามาขยายกรอบการใช้งานให้กว้างและหลากหลายขึ้น ซึ่งทุกองค์ประกอบสามารถทำงานได้อยู่ในระดับที่ดี ความได้เปรียบของหัวเว่ยคือการที่อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ ให้การใช้งานผ่านหลายดีไวซ์เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมาก เสริมแรงด้วย M-Pencil และ Smart Keyboard ลดข้อจำกัดของการทำงานบนแท็บเล็ตลงไปได้มาก ในส่วนของราคามองว่าอาจจะแรงไปสักหน่อย แต่สำหรับใครที่มองหาแท็บเล็ตดี ๆ สักเครื่องไว้ใช้งานหรือพกพาไปไหนมาไหนสะดวก ไม่ว่าจะทำงาน เรียนรู้ หรือเพื่อความบันเทิง หากตัดสินใจซื้อในช่วงโปรโมชัน Early Bird นี้ มองว่าเป็นอะไรที่คุ้มมาก ๆ เลยค่ะกับสิ่งที่จะได้กลับมา