หากย้อนกลับไปช่วงเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ในงานเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่ ทาง Apple ได้ประกาศบนเวทีว่า iPad Pro ของพวกเขาเนี้ยแหละ ที่จะมาเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนทำงานให้ง่ายกว่าที่เคยเป็น เพราะนับจากนี้ไม่ต้องพก Notebook หรือ Laptop ไปทำงานหรือประชุมให้เมื่อยและหนักอีกต่อไป เพียงพก iPad Pro ไว้เครื่องเดียวจบ!!
ฟังดูแล้ว นับเป็นสิ่งที่น่าสนใจเลยทีเดียว เพราะถ้าหากเรามองตามข้อมูล หน้าตา สเปค และความสามารถของ iOS แล้วนำมารวมเข้าด้วยกัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าจะเป็นไปตามที่ Apple บอกไว้ ทำให้น่าจะตัดสินใจซื้อได้ง่าย แต่ด้วยราคาวางจำหน่ายของ iPad Pro เทียบเท่ากับ Laptop สเปกดีๆ แรงๆ เครื่องหนึ่งได้เลยเหมือนกัน หรือจะอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำถ้าบวก accessories เข้าไปด้วย ดังนั้นจึงทำให้หลายคนเกิดความลังเลใจจนนำไปสู่คำถามที่ว่า "จ่ายเงินครั้งนี้ เลือก iPad Pro หรือ Laptop ดี?" Checkraka มีคำตอบมาแนะนำกัน
iPad Pro ก็คือ iPad
ถึงแม้ Apple จะยืนยันว่า iPad Pro ของพวกเขาจะมีความสามารถมากมาย รวมทั้งทาง Apple ก็มีการพัฒนา และใส่ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่คิดออกแบบมา เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานสะดวกมาโดยตลอด ในขณะที่ด้านสเปกตัวเครื่องเอง ก็ปรับให้แรงในระดับเดียวกับ Laptop ด้วย ซึ่งฟังดูแล้ว Apple เองก็ไม่ได้โกหกแต่อย่างใด เพียงแต่..... iPad Pro ก็คือ iPad
ที่ยังคงรันการทำงานบน iOS ระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์พกพาของ Apple อยู่ ดังนั้นทำให้ยังมีข้อจำกัดในการทำงาน ที่ยังไม่สามารถก้าวข้ามไปยัง Mac OS หรือ Windows ได้อย่างเต็มตัว แต่!! เราไม่ต้องลงลึกขนาดนั้นครับ เพียงแต่จะบอกว่า ถึงแม้ iPad Pro รุ่นใหม่ของ Apple จะมีความสามารถมากมาย แต่สุดท้ายแล้วยังไม่สามารถที่จะทดแทนการใช้งานแบบเต็มรูปแบบแทน Laptop หรือ PC ได้อย่าง 100%
เหมือนคำถามที่เราชอบถามกันว่า กล้องบนสมาร์ทโฟน ใช้แทนกล้อง DSLR ได้หรือยัง? ซึ่งหลายคนก็ทราบดีว่า คำตอบก็คือ "ยัง" ถึงแม้กล้องบนสมาร์ทโฟนในปัจจุบันจะถ่ายออกมาได้สวย คม พร้อมใช้งานมากๆ แล้ว แต่ถ้าเราลงลึกไปในรายละเอียด และความต้องการใช้ในด้านเฉพาะทาง ก็จะเห็นว่า ภาพถ่ายจากสมาร์ทโฟนนั้น ยังไม่สามารถแทนที่ภาพจากกล้องใหญ่ได้
ภาพจาก Pocketint
เพราะฉะนั้นแล้ว iPad Pro ที่มาพร้อมความสามารถมากมาย เก่งมากแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็ขึ้นกับลักษณะการใช้งานและความต้องการนำไปใช้ของตัวเราอยู่ดี ที่ถ้าหากไม่ได้เน้นเฉพาะทางอะไรมาก แค่พิมพ์งาน ทำงานออนไลน์ ออกแบบ Creative สิ่งต่างๆ รวมไปถึงการทำงานทั่วๆ ไป iPad Pro ก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว และเป็นทางเลือกที่ดีมากๆ ในตอนนี้ แต่ถ้าคุณต้องเขียนโปรแกรมเฉพาะด้าน, ตัดต่อภาพระดับสูง และอื่นๆ ยังไง Laptop ก็คือคำตอบที่รู้ใจมากกว่า
งบบานปลาย
อีกสิ่งหนึ่งที่ iPad Pro เหนือกว่า Laptop อย่างเห็นได้ชัดเจนมากๆ ถึงมากที่สุดก็คือ เรื่องของงบบานปลาย ที่ถ้าหากคุณต้องการนำ iPad Pro ไปใช้ทำงานจริงๆ คุณต้องจำเป็นเลือกซื้ออุปกรณ์เสริมอย่าง คีย์บอร์ดบูลทูธ และ Apple Pencil สองอุปกรณ์เสริมที่ทาง Apple ออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกัน เพื่อการทำงานที่ลงตัวและสะดวก
ภาพจาก 9to5mac.com
ตัว Keyboard เราสามารถเลือกซื้อจากผู้ผลิต Third-party ได้ โดยมีราคาให้เลือกตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป ส่วนถ้าเป็นของ Apple เองก็จะเป็นตัว Smart Keyboard ที่สามารถใช้งานเป็นเคสแบบ Cover ได้ในตัวไปพร้อมๆ กับใช้งานเป็นคีย์บอร์ดบูลทูธแบบ 2 in 1 แต่ราคาเองก็โหดไม่หยอก วางจำหน่ายในราคา 5,900 บาท เท่านั้น!
ในขณะที่ Apple Pencil เป็นอุปกรณ์ที่เลือกตามการใช้งานของแต่ละคน เพราะ Apple Pencil เสมือนกับการมีเมาส์บน Laptop ซึ่งมีก็ได้ ทำให้ทำงานได้ดี และเร็วขึ้น หรือ ไม่มีก็ได้ ก็ทำงานได้เหมือนกัน สำหรับราคาก็เปิดเบาๆ ที่ 3,400 บาท ซึ่งเมื่อรวมอุปกรณ์เสริมสองตัวเข้าด้วยกันราคาสุทธิก็อยู่ที่ราวๆ 9,xxx บาท เรียกได้ซื้อมือถือเครื่องใหม่ได้เลย ส่วนถ้าเป็น Laptop และก็....ไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่ม!! หรือถ้าซื้อก็คงซื้อแค่เมาส์ดีๆ สักรุ่นที่ราคาก็คงไม่เกิน 1,xxx บาทเท่านั้น
Application
อย่างที่ได้เกริ่นไปว่า iPad Pro ยังไงก็ยังคงมีเงื่อนไขในด้านการทำงานอยู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของ Application ที่บางแอปฯ ยังคงมอง iPad Pro เป็นอุปกรณ์ประเภทเดียวกับ Mobile หรือมือถืออยู่ ดังนั้นทำให้บางฟังก์ชั่นของ App เราจะไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะการทำงานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ผู้พัฒนาจำเป็นที่ต้องลดพื้นที่ ลดขั้นตอนการแสดงผลลง เพื่อเน้นการใช้งานที่รวดเร็ว รวมทั้งบางครั้งเราก็ต้องหา Application เฉพาะทางมาใช้งาน เพื่อตอบรับการอุปกรณ์เสริม และยกระดับการทำงานของเราให้สะดวกขึ้นเช่น การเลือกแอปพลิเคชั่นประเภทจดบันทึก เพื่อมาใช้งานคู่กับ Apple Pencil
การเชื่อมต่อ
นอกจากเรื่องของ Application ที่ต้องหาเพิ่มเติมแล้ว การเชื่อมต่อก็เป็นอีกสิ่งที่ถ้าหากเราทำงานที่มีการนำเสนอบ่อยๆ ถ้าเป็น Laptop ก็ไม่ต้องกังวลอะไร เพราะส่วนมากจะให้พอร์ตการเชื่อมต่อพื้นฐานอย่าง USB, SD Card Reader, HDMI หรือ VGA มาครบอยู่แล้ว แต่!! ถ้าเป็น iPad Pro ก็ต้องไปเลือกซื้ออุปกรณ์เสริมเชื่อมต่ออีก ซึ่งก็มีราคาไล่ไปตั้งแต่หลักพันต้นๆ จนถึง 5-6,000 บาทเลยทีเดียว
บทสรุป
ถีงแม้การใช้งาน iPad Pro จะมีเงื่อนไข และข้อจำกัดการใช้งานที่มาก แต่ก็ต้องอย่าลืมว่า ถ้าหากความต้องการ หรือไลฟ์สไตล์ของเรา ใช้งานแค่ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม เขียนงานผ่าน Document หรือทำงานผ่านระบบออนไลน์ ที่เข้าผ่าน Browser ได้ รวมไปถึงการนำไปเรียนหนังสือ จดบันทึกต่างๆ สิ่งความต้องการเหล่านี้ก็ต้องยอมรับ iPad Pro สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด และทำได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าหากใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์พกพา และมีไลฟ์สไตล์บวกความต้องการตามที่กล่าวมา รวมทั้งมีงบประมาณที่พอ ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากครับ iPad Pro ก็คำตอบที่ใช่ แต่ถ้านอกเหนือจากนี้ก็แนะนำว่า ลองมาหา Laptop แนวๆ Ultrabook หรือทั่วไป ดีๆ สักแบรนด์ใช้งานได้เลยครับ