หุ้นกู้ของบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 4/2564
หุ้นกู้ของบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 4/2564 เปิดจองซื้อทางเว็บไซต์ K-My Invest วันที่ 20 และ 23 - 25 สิงหาคม 2564
จุดเด่น - MTC ดำเนินธุรกิจประเภทสินเชื่อมาตั้งแต่ปี 2535 โดยเน้นการปล่อยสินเชื่อ ประเภทสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์และครองส่วนแบ่งตลาด micro finance มากที่สุดในประเทศไทย (พิจารณาจากวงเงินสินเชื่อคงค้าง)*
- MTC มีสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ต่อสินเชื่อรวมอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันและมีอันดับความน่าเชื่อถือใกล้เคียงกัน โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2564 มีสัดส่วนดังกล่าวอยู่ที่ร้อยละ 1.05
- MTC เคยออกหุ้นกู้มาแล้วทั้งหมด 57 ชุด ตั้งแต่ปี 2561** และมีประวัติชำระหนี้ที่ดีมาโดยตลอด
* ข้อมูลจาก http://investor.muangthaicap.com
** ข้อมูลจาก www.thaibma.or.th ณ วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2564
วัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้ :ผู้ออกหุ้นกู้มีวัตถุประสงค์จะนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปใช้ภายในปี 2564 เพื่อ
- ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และ/หรือ หนี้จากการออกหุ้นกู้
- ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
คำเตือนและความเสียงที่สำคัญ - MTC พึ่งพิงเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และ/หรือการออกเสนอขายหุ้นกู้ เพื่อใช้ในการปล่อยสินเชื่อเป็นหลัก
- ลูกค้าหลักของ MTC เป็นกลุ่มที่มีรายได้ไม่แน่นอน ทำให้มีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ค่อนข้างสูง และส่งผลให้ MTC อาจมี NPL สูงขึ้น
- หากลูกค้าต้องการขายก่อนครบกำหนด ให้ติดต่อธนาคารพาณิชย์/บริษัทหลักทรัพย์เพื่อให้หาผู้ซื้อให้ (ธนาคาร/บล.อาจมิได้รับซื้อไว้เอง) แต่ตลาดอาจไม่มีสภาพคล่องซึ่งทำให้ขายไม่ได้ในทันที และ/หรือ อาจไม่ได้ราคาเท่ากับที่ซื้อมาหรือไม่ได้ราคาที่ต้องการ กรณีขายได้กำไร กำไรที่ได้จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 15 ตามหลักเกณฑ์กรมสรรพากร
- ตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ การขายหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอนในตลาดรองนั้นอาจได้รับมูลค่าขายหุ้นกู้ลดลงหรือเพิ่มขึ้นได้ โดยขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยและความต้องการของตลาดในขณะนั้น หรืออาจจะไม่สามารถหาผู้ซื้อได้เลยก็ได้
จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อ วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท เสนอขายให้กับผู้ลงทุนทั่วไป การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ขอรับจองซื้อที่สำนักงานใหญ่หรือสาขาของธนาคารเฉพาะกรณี
- ผู้จองซื้อประเภทบุคคลธรรมดาสัญชาติต่างด้าวและ
- ผู้จองซื้อประเภทนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศหรือต่างประเทศเท่านั้น
ในกรณีผู้จองซื้อประเภทบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยที่บรรลุนิติภาวะแล้วโปรดดำเนินการจองซื้อผ่านทางเว็บไซต์ www.kasikornbank.com/kmyinvest ทั้งนี้ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับวิธีการจองซื้อและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม
คำเตือน : ทำความเข้าใจในลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
คำถามที่พบบ่อย
ใครซื้อหุ้นกู้นี้ได้บ้าง :
บุคคลทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่จะทำรายการจองซื้อ
จองซื้อหุ้นกู้ผ่านช่องทางออนไลน์ K-My Invest มีเงื่อนไขอะไรบ้าง ชำระเงินอย่างไร :
บุคคลที่จะจองซื้อหุ้นกู้ผ่านช่องทางออนไลน์ K-My Invest จะต้องเป็นลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยที่มีสัญชาติไทย และมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และจ่ายชำระค่าจองซื้อหุ้นกู้ผ่าน K PLUS เท่านั้น (ต้องชำระภายใน 10 นาที ไม่เช่นนั้นรายการจองจะยกเลิกโดยอัตโนมัติ) โดยสามารถชำระได้ 10 ล้านบาทต่อวัน หากต้องการจองซื้อมากกว่านี้ สามารถมาทำรายการในวันต่อไปในช่วงการจองซื้อ
ไม่ได้เป็นลูกค้าของ KBank ถ้าจองซื้อหุ้นกู้ผ่านช่องทางออนไลน์ K-My Invest ต้องทำอย่างไร :
ในกรณีที่ยังไม่ใช่ลูกค้า KBank สามารถเป็นลูกค้า KBank ได้โดยการเปิดบัญชี K-eSaving ที่ https://kbank.co/2AdhTHz และไปยืนยันตัวตนที่ตู้ ATM หรือ ตัวแทนธนาคาร โดยไม่ต้องไปสาขา (เช่น ถ้าเปิดบัญชีช่วง 20:00 ของวันที่ 1 ถึง 6:00 ของวันที่ 2 จะใช้ได้หลัง 6:00 ของวันที่ 2)
ผู้เยาว์ ซื้อหุ้นกู้ที่เสนอขายครั้งนี้ได้หรือไม่ :
ผู้เยาว์ไม่สามารถจองซื้อหุ้นกู้ได้ บุคคลที่จะจองซื้อต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่จะทำรายการจองซื้อ
เมื่อจองซื้อหุ้นกู้เรียบร้อยแล้วได้เลยหรือไม่ หรือต้องรอจัดสรรอีกหรือไม่ :
รายการจองซื้อจะสำเร็จเมื่อผู้จองซื้อหุ้นกู้ชำระเงินค่าจองซื้อครั้งเดียวเต็มจำนวนที่จองซื้อ
วิธีการรับหลักทรัพย์สามารถเลือกรับได้กี่แบบ : สามารถเลือกรับหลักทรัพย์ได้ 2 วิธี คือ
- รับเป็นใบหุ้นกู้ : นายทะเบียนจะจัดส่งใบหุ้นกู้ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ภายใน 15 วันทำการนับตั้งแต่ปิดการเสนอขายหุ้นกู้
- รับเข้าบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้า : นายทะเบียนจะฝากหุ้นกู้ให้ภายใน 7 วันทำการนับตั้งแต่ปิดการเสนอขายหุ้นกู้
หุ้นกู้ที่เสนอขายครั้งนี้ จ่ายดอกเบี้ยทุกกี่เดือน และจ่ายดอกเบี้ยครั้งแรกเมื่อไหร่ :
ชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ทุกๆ 3 เดือน วันที่ 26 กุมภาพันธ์ วันที่ 26 พฤษภาคม วันที่ 26 สิงหาคม และวันที่ 26 พฤศจิกายน ของแต่ละปีตลอดอายุหุ้นกู้ โดยเริ่มชำระครั้งแรกในวันที่ 26 พฤศจิกายน และจะทำการชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายในวันครบกำหนดไถ่ถอนของหุ้นกู้แต่ละชุด
วันครบกำหนดที่จะได้รับเงินต้นคืนของหุ้นกู้ที่เสนอขายครั้งนี้ คือเมื่อใด : - หุ้นกู้อายุ 3 ปี 1 วัน ครบกำหนดไถ่ถอน วันที่ 27 สิงหาคม 2567
- หุ้นกู้อายุ 4 ปี ครบกำหนดไถ่ถอน วันที่ 26 สิงหาคม 2568
- หุ้นกู้อายุ 4 ปี 11 เดือน 30 วัน ครบกำหนดไถ่ถอน วันที่ 25 สิงหาคม 2569
หุ้นกู้ที่เสนอขายครั้งนี้มีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับใด :
หุ้นกู้มีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 4 ทั้งนี้หุ้นกู้ทั่วไปโดยปกติระดับความเสี่ยงจะอยู่ที่ 2 - 4 จากความเสี่ยงทั้งหมด 8 ระดับ (ระดับความเสี่ยงตามเกณฑ์ กลต. บังคับใช้ก่อนปี 2564)
สามารถขายหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดได้หรือไม่ :
สามารถทำได้ โดยติดต่อธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อให้ลองหาผู้ซื้อให้ได้ (ธนาคาร/บริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ อาจไม่ได้รับซื้อไว้เอง) อย่างไรก็ตาม ตลาดอาจไม่มีสภาพคล่อง ซึ่งทำให้ขายไม่ได้ในทันที และอาจไม่ได้ราคาเท่ากับที่ซื้อมาหรือไม่ได้ราคาที่ต้องการ
ใครคือนายทะเบียนของหุ้นกู้ที่เสนอขายในครั้งนี้ :
นายทะเบียน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เบอร์ติดต่อ 02-296 4808, 02-296 5557
สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ : K-Contact Center Tel. 02-888-8888 กด 819