กองทุน SCBST555B ทริกเกอร์ฟันด์แนวใหม่ ตัดขาดทุนเมื่อตลาดหุ้นปรับตัวลง เสนอขาย 23 - 25 ส.ค. 59
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ สมาร์ทเทรด 555 ฟันด์ บี (SCBST555B) ทริกเกอร์ฟันด์แนวใหม่ ตัดขาดทุนเมื่อตลาดหุ้นปรับตัวลง เสนอขายระหว่างวันที่ 23 - 25 ส.ค. 59 จาก บลจ.ไทยพาณิชย์
ทำไมถึงควรลงทุนในกองทุน SCBST555B - มีการตั้งเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน
- มีการนำกลยุทธ์การซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ มาบริหารความเสี่ยง ในสภาวะที่ตลาดผันผวน
- มีการบริหารความเสี่ยงในช่วงตลาดขาลง เมื่อตลาดปรับตัวลงผู้จัดการกองทุนจะขาย ตัดขาดทุน (Stop loss) ทำให้ผู้ลงทุนลดความเสี่ยงในช่วงตลาดปรับตัวลงได้
นโยบายการลงทุน
เน้นกระจายการลงทุนในตราสารแห่งทุน ตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก หน่วยลงทุนของกองทุนรวมได้ตั้งแต่ร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ซึ่งสัดส่วนการลงทุนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนและตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ทั้งนี้ อาจลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน พร้อมโอกาสทริกเกอร์รับผลตอบแทนระหว่างทาง 2 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี
กองทุนนี้เหมาะสำหรับ - ผู้ลงทุนที่แสวงหาโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นอย่างมีเป้าหมาย โดยให้ทางผู้จัดการกองทุนบริหาร
- ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนด้วยกลยุทธ์ตัดขาดทุน (Cut Loss) เมื่อตลาดหุ้นปรับตัวลดลง
- ผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงและความผันผวนจากตลาดหุ้น
- ผู้ลงทุนที่ไม่ค่อยมีเวลาติดตามสถานการณ์การลงทุนในตลาดหุ้น
จำนวนเงินขั้นต่ำในการลงทุน
10,000 บาท
การป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
กองทุนอาจลงทุนหรือมีไว้ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ตามความเหมาะสมสำหรับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการลงทุน เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยง จากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวนผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
นโยบายการรับซื้อคืนอัตโนมัติเงื่อนไขที่ 1 เงื่อนไขทริกเกอร์กองทุนภายใน 1 ปีแรก - กรณีที่ 1 หาก ณ วันทำการใดที่มูลค่าหน่วยลงทุนน้อยกว่าหรือเท่ากับ 9.5000 บาท/หน่วย
- กรณีที่ 2 เมื่อเข้าเงื่อนไขมูลค่าหน่วยลงทุนมีมูลค่าตามที่กำหนด ดังต่อไปนี้
ครั้งที่ 1 หากมูลค่าหน่วยลงทุน มากกว่าหรือเท่ากับ 10.50 บาท/หน่วย ณ วันทำการใด บริษัทจัดการจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท)
ครั้งที่ 2 ขึ้นกับดุลยพินิจของบริษัทจัดการ
- หากมูลค่าหน่วยลงทุน มากกว่าหรือเท่ากับ 11.3626 บาท/หน่วย เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน และสามารถรับซื้อคืนอัตโนมัติได้ มากกว่าหรือเท่ากับ 11.1486 บาท/หน่วย หรือ
- ณ วันทำการใดก็ตามที่ทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสด และ/หรือเงินฝาก และ/หรือทรัพย์สินอื่นใดที่เทียบเท่าเงินสดบางส่วนหรือทั้งหมด และสามารถรับซื้อคืนอัตโนมัติได้ มากกว่าหรือเท่ากับ 11.1486 บาท/หน่วย
ทั้งนี้ บลจ.ไทยพาณิชย์ จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
เงื่อนไขที่ 2 เงื่อนไขทริกเกอร์กองทุนหลังจากระยะเวลา 1 ปี - กรณีที่ 3 หากครบกำหนดระยะเวลา 1 ปีนับแต่วันจดทะเบียนกองทุนรวม ไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น บลจ.ไทยพาณิชย์ จะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการซื้อขาย
หาก ณ วันทำการใดก็ตามที่ทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสด และ/หรือเงินฝาก และ/หรือทรัพย์สินอื่นใดที่เทียบเท่าเงินสดบางส่วนหรือทั้งหมด และสามารถรับซื้อคืนอัตโนมัติได้ มากกว่าหรือเท่ากับ 11.1486 บาท/หน่วย บลจ.ไทยพาณิชย์ ขอสงวนสิทธิที่จะทำการเลิกกองทุนโดยจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
ระดับความเสี่ยง
ระดับ 5 กองทุนรวมผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนในตราสารแห่งทุน
คำเตือน
ช่วง 1 ปีแรกหากกองทุนไม่ทริกเกอร์ ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ ซึ่งการกำหนดมูลค่าหน่วยลงทุนที่เป็นเป้าหมาย เป็นเพียงเหตุให้มีการเลิกกองทุนหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเป็นไปตามเป้าหมายนั้น การกำหนดเป้าหมายดังกล่าว ไม่ใช่การประมาณหรือการรับประกันว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนตามมูลค่าที่กำหนด เมื่อเลิกกองทุนหรือเมื่อมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ทั้งนี้หากภาวะตลาดหรือภาวการณ์ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปจากการคาดการณ์ กองทุนรวมอาจไม่ดำเนินการเลิกกองทุนหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติก็ได้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือ
www.scbam.com