-
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)-ธนาคารกรุงไทย (KTB)
ดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมต่อปี : 1 %- ข้อมูล ณ วันที่ 19 เม.ย. 66
- 82,095
จุดเด่น- ธนาคารกรุงไทยมุ่งเน้นส่งเสริมด้านการศึกษา โดยเข้าช่วยบริหารจัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับของกระทรวงการคลัง ให้กู้ยืมแก่นักเรียน นักศึกษา ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อเป็นค่าเล่ารียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเนื่องกับการศึกษา และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการครองชีพระหว่างการศึกษา โดยได้รับดอกเบี้ยต่ำ 1% ต่อปี
- แอปฯ เป๋าตัง รู้ทุกความเคลื่อนไหวของบัญชี กยศ. พร้อมฟีเจอร์ใหม่!! เรียกดูข้อมูลบัญชีเงินกู้ กยศ.
รายละเอียดสินเชื่อ
ชื่อสินเชื่อ:กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)จุดเด่น:- ธนาคารกรุงไทยมุ่งเน้นส่งเสริมด้านการศึกษา โดยเข้าช่วยบริหารจัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับของกระทรวงการคลัง ให้กู้ยืมแก่นักเรียน นักศึกษา ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อเป็นค่าเล่ารียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเนื่องกับการศึกษา และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการครองชีพระหว่างการศึกษา โดยได้รับดอกเบี้ยต่ำ 1% ต่อปี
- แอปฯ เป๋าตัง รู้ทุกความเคลื่อนไหวของบัญชี กยศ. พร้อมฟีเจอร์ใหม่!! เรียกดูข้อมูลบัญชีเงินกู้ กยศ.
รายละเอียดหลักประกัน:ผู้ค้ำประกันในสัญญากู้ยืมเงิน (ข้อใดข้อหนึ่ง)- บิดา มารดา หรือผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือคู่สมรส หรือ
- บุคคลที่ประกอบอาชีพมีรายได้น่าเชื่อถือตามที่คณะกรรมการพิจารณาให้กู้ยืมประจำสถานศึกษากำหนดให้เป็นผู้ค้ำประกันได้
บุคคลผู้รับรองรายได้ในสัญญากู้ยืมเงิน (ข้อใดข้อหนึ่ง)- เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับบำเหน็จบำนาญ ตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2542 (พระราชบัญญัติบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2542)
- สมาชิกสภาเขต สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
- หัวหน้าสถานศึกษาที่ผู้ขอกู้ยืมศึกษาอยู่
ผู้มีสิทธิ์กู้:นักเรียนหรือนักศึกษาคุณสมบัติผู้กู้:- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (สายสามัญและสายอาชีพ)
- ระดับอุดมศึกษา (อนุปริญญา ปริญญาตรี) ทั้งภาคปกติ ภาคพิเศษ
- เป็นผู้มีสัญชาติไทย
- เป็นผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษากำหนด ดังนี้
- ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หมายความว่า ผู้ที่มีรายได้ต่อครอบครัวไม่เกิน 360,000 บาทต่อปี รายได้ต่อครอบครัวพิจารณาตามหลักเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
- รายได้รวมของนักเรียนหรือนักศึกษาผู้ขอกู้ยืม รวมกับรายได้ของบิดามารดา ในกรณีที่บิดา มารดาเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง
- รายได้รวมของนักเรียนหรือนักศึกษาผู้ขอกู้ยืม รวมกับรายได้ของผู้ปกครอง ในกรณีที่ผู้ใช้อำนาจปกครองมิใช่บิดา มารดา
- รายได้รวมของนักเรียนหรือนักศึกษาผู้ขอกู้ยืม รวมกับรายได้ของคู่สมรสในกรณีที่ผู้ขอกู้ยืมได้ทำการสมรสแล้ว
- มีคุณสมบัติอื่นตามที่คณะกรรมการกำหนด ดังนี้
- เป็นผู้ที่มีผลการเรียนดีหรือผ่านเกณฑ์การวัดและประเมินผลของสถาบันการศึกษา
- เป็นผู้ที่มีความประพฤติดี ไม่ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษาขั้นร้ายแรง หรือไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย เช่น หมกมุ่นในการพนัน เสพยาเสพติดให้โทษ ดื่มสุราเป็นอาจิณหรือเที่ยวเตร่ในสถานบันเทิงเริงรมย์เป็นอาจิณ เป็นต้น
- เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามระเบียบหรือประกาศการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในโรงเรียนสถานศึกษา หรือสถาบันการศึกษาที่อยู่ในสังกัดการควบคุม หรือกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวง หรือส่วนราชการ
- อื่นๆ ทบวงมหาวิทยาลัย รัฐวิสาหกิจ
- ไม่เคยเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาใด ๆ มาก่อน
- ไม่เป็นผู้ที่ทำงานประจำในระหว่างศึกษา
- ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
- ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
- ต้องมีอายุในขณะที่ขอกู้ โดยเมื่อนับรวมกับระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปี และระยะเวลาผ่อนชำระอีก 15 ปีรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 60 ปี
วงเงินกู้:เงินให้กู้ยืม
- ค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา จ่ายเข้าบัญชีของสถานศึกษา
- ค่าครองชีพ ซึ่งได้แก่ ค่าที่พักและค่าใช้จ่ายส่วนตัว จ่ายเข้าบัญชีของนักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืม โดยผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทยที่ผู้กู้เปิดบัญชีได้
ระยะเวลากู้:15 ปีวิธีการคิดดอกเบี้ย:อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกอัตราดอกเบี้ยผู้กู้ จำนวนเงินกู้ ดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมต่อปี นักเรียน นักศึกษา ทุกจำนวน 1 % รายละเอียดอัตราดอกเบี้ย:ผู้กู้ยืมจะต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปีของเงินต้นคงค้างของปีที่ 1 เป็นต้นไป โดยจะต้องชำระหนี้ภายในวันที่ 5 กรกฎาคมของทุกปี และจะต้องชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 15 ปี จากวันครบกำหนดชำระหนี้งวดแรกหมายเหตุอัตราดอกเบี้ย:อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอาจเปลี่ยนแปลงตามจำนวนเงินกู้ อาชีพและเงินเดือนของผู้กู้ดอกเบี้ยผิดนัด:ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับหรือค่าธรรมเนียม กรณีผิดนัดชำระเงินคืน จากเดิม 7.5% ต่อปี เหลือ 0.5% ต่อปีค่าธรรมเนียม ค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้:ไม่มีค่าธรรมเนียมค่าธรรมเนียมเบิกถอน:ไม่มีค่าธรรมเนียมค่าการทวงหนี้:ไม่มีค่าธรรมเนียมค่าอากรแสตมป์:ไม่มีค่าธรรมเนียมค่าธรรมเนียมอื่นๆที่สำคัญ:โปรดสอบถามผู้ให้บริการสินเชื่อการชำระคืนเงินกู้ ยอดชำระขั้นต่ำ:โปรดสอบถามผู้ให้บริการสินเชื่อสิทธิชำระเกินค่างวด:โปรดสอบถามผู้ให้บริการสินเชื่อสิทธิชำระคืนก่อนกำหนด:โปรดสอบถามผู้ให้บริการสินเชื่อหมายเหตุ:คณะกรรมการกองทุนฯ ได้มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือและให้โอกาสผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ดังนี้
-
ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิม 1% ต่อปี เป็น 0.01% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้
-
ลดเงินต้น 5% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้และต้องการปิดบัญชีในคราวเดียว
- ลดเบี้ยปรับ หรือค่าธรรมเนียมกรณีผิดนัดชำระเงินคืน 100% สำหรับผู้กู้ยืมทุกรายที่ชำระหนี้ปิดบัญชีในครั้งเดียว
- ลดเบี้ยปรับ หรือค่าธรรมเนียมกรณีผิดนัดชำระเงินคืน 80% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ)
- ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระหนี้เหลือ 0.5% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
สอบถามเพิ่มเติม:Tel. 0-2111-1111คำแนะนำการใช้ข้อมูล:รายละเอียดที่นำเสนอเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น และอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบอัตราดอกเบี้ย เงื่อนไข และรายละเอียดกับผู้ให้บริการสินเชื่อทุกครั้งก่อนตัดสินใจupdate ณ วันที่:19 เม.ย. 66แนะนำสินเชื่อเงินสดสมัครออนไลน์