การแข่งขันในศึก มาเลเซีย ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 เดินทางมาถึงสนามสุดท้ายแล้ว โดย ชิพ-นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ยอดนักบิดไทยจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เดินหน้าล่าแชมป์หลังครองจ่าฝูงจ่อคว้าแชมป์ประจำปี ด้วยคะแนนเหนือคู่แข่ง 23 คะแนน แม้จะเป็นเพียงฤดูกาลแรกที่เข้าร่วมการแข่งขัน พร้อมควงทัพนักบิดดาวรุ่งอย่าง มิกซ์-ธนัช ละอองปลิว, ไฮเปค-กฤษฎา ธนโชติ และ อุ้ม-นพรุธพงษ์ บุญประเวศ ลงดวลสนามระดับโลกอย่าง เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย
เริ่มกันที่รุ่นใหญ่ที่สุดอย่าง MSBK1000 อดีตนักบิดโมโตทรีชาวไทยอย่าง ชิพ-นครินทร์ เจ้าของรถแข่ง Honda CBR1000RR-R หมายเลข 41 รั้งจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 124 คะแนน จากการคว้าชัยชนะ 4 ครั้ง และโพเดียม 5 ครั้ง จาก 3 สนามแรก
ส่วนในรุ่น MSBK600 นักแข่งดาวรุ่ง มิกซ์-ธนัช แจ้งเกิดในรายการนี้อย่างยอดเยี่ยม จากการคว้ามาได้ 5 โพเดียม และปลดล็อกคว้าชัยชนะมาได้ 1 ครั้งจากสนามที่ผ่านมา โดยรั้งอันดับ 2 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 97 คะแนน
นอกจากนี้ ยังส่ง 2 ดาวรุ่งจากโครงการ ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ ลงแข่งขันในรุ่น MSBK250 ซึ่ง บิดรถแข่ง Honda CBR250RR โดย ไฮเปค-กฤษฎา หมายเลข 7 คว้าโพเดียมมาครองได้ 3 ครั้ง จาก 2 สนามที่ลงแข่งขัน ทะยานขึ้นมารั้งท็อป 4 บนตารางคะแนนสะสม มีทั้งสิ้น 65 คะแนน ส่วน อุ้ม-นพรุธพงษ์ หมายเลข 8 รั้งอันดับ 11 มีทั้งสิ้น 30 คะแนน
หลังจากจบการซ้อมและเข้าสู่ช่วงจับเวลารอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ตทัพนักบิด ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ สร้างโอกาสลุ้นชัยชนะเต็มตัว หลังพาเหรดคว้ากริดสตาร์ตแถวหน้าทุกรุ่น นำโดยรุ่นใหญ่อย่าง MSBK1000 ปรากฏว่า ชิพ-นครินทร์ ควบรถแข่ง Honda CBR1000RR-R หมายเลข 41 คว้ากริดที่ 3 มาครองด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 6.854 วินาที ได้ลุ้นจากแถวหน้า โดยเจ้าตัวมีลุ้นแชมป์ประจำปีในรุ่นนี้เต็มตัว จากการเป็นผู้นำบนตารางแชมเปี้ยนชิพ
ส่วนผลควอลิฟายในรุ่น MSBK600 มิกซ์-ธนัช หมายเลข 31 พารถแข่ง Honda CBR600RR รั้งกริดที่ 3 ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 11.578 วินาที
ส่วนรุ่น MSBK250 บิดรถแข่ง Honda CBR250RR ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม โดย ไฮเปค-กฤษฎา หมายเลข 7 คว้ากริดที่ 2 ด้วยเวลา 2 นาที 25.713 วินาที ส่วนทีมเมทอย่าง อุ้ม-นพรุธพงษ์ หมายเลข 8 ได้ออกตัวจากกริดที่ 9 ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 27.726 วินาที
เริ่มเกาการแข่งขันในเรซที่ 1 ของ MSBK250 ไฮเปค-กฤษฎา หมายเลข 7 ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 2 ขณะที่ อุ้ม-นพรุธพงษ์ ทีมเมทหมายเลข 8 ออกสตาร์ตจากกริดที่ 9 โดยทั้งคู่เริ่มเกมได้อย่างดุดัน และมีจังหวะแซงขึ้นไปอยู่ในกลุ่มผู้นำ ซึ่งไล่บดกันอย่างหนักถึง 7 คัน
จบการแข่งขัน 8 รอบสนาม ไฮเปค-กฤษฎา ที่ขึ้นนำได้ในรอบสุดท้าย บิดเข้าป้ายอันดับ 2 คว้าตำแหน่งรองแชมป์ไปครอง พลาดชัยชนะอย่างเฉียดฉิวเพียง 0.104 วินาทีเท่านั้น ส่วน อุ้ม-นพรุธพงษ์ คว้าอันดับ 5 ตามหลังเพียง 0.798 วินาทีเท่านั้น เป็นการสร้างผลงานสุดร้อนแรง ผงาดคว้ารองแชมป์เรซแรกในรุ่น MSBK250
ด้านศึก MSBK600 เกมเรซนี้ดวลกันทั้งสิ้น 10 รอบสนาม โดย มิกซ์-ธนัช เจ้าของรถแข่ง Honda CBR600RR หมายเลข 31 ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 3 และรักษาความเร็วได้อย่างยอดเยี่ยม บิดเข้าป้ายในอันดับ 3 ตามหลังผู้ชนะ 30.237 วินาที คว้าโพเดียมต่อเนื่องเป็นเรซที่ 6 ของฤดูกาล
ส่วน MSBK1000 ซึ่งมี ชิพ-นครินทร์ เจ้าของรถแข่ง Honda CBR1000RR-R หมายเลข 41 ออกสตาร์ตกริดที่ 3 โดยช่วงแรกมีเหตุธงแดง ส่งผลให้มีการลดจำนวนรอบลงเหลือ 8 รอบสนาม และนักบิดไทยก็ยังคงเริ่มเกมได้อย่างยอดเยี่ยม จนจบการแข่งขัน 8 รอบสนาม ก็บิดเข้าป้ายเป็นคันแรกของรุ่น
เก็บแต้มขาดลอยพร้อมผงาดครองแชมป์ประจำปีไปครองอย่างยิ่งใหญ่กับการแข่งขันฤดูกาลแรกในรายการนี้ ขณะที่ยังเหลือการแข่งขันอีก 1 เรซ โดยนับเป็นความสำเร็จอย่างมากของ ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์
จากนั้นเกมการแข่งขันเข้าสู่เรซที่ 2 มิกซ์-ธนัช ยังคงโชว์ฟอร์มเยี่ยมในรุ่น MSBK600 ออกตัวจากกริดที่ 3 และรักษาตำแหน่งอย่างยอดเยี่ยม คว้าท็อปทรีเมื่อจบเรซ ตามหลังผู้ชนะ 19.767 วินาที พร้อมกับเก็บโพเดียมไปครองทั้ง 2 เรซ ส่งท้ายปีด้วยครองตำแหน่งรองแชมป์ประจำปีในรุ่นนี้ เก็บไปได้ทั้งสิ้น 129 คะแนน
ส่วนเกมในรุ่น MSBK250 นักบิดดาวรุ่งชาวไทยมีลุ้นที่จะคว้าชัยชนะอีกครั้ง โดย ไฮเปค-กฤษฎา หมายเลข 7 ออกสตาร์ตจากกริดที่ 2 ทะยานขึ้นนำได้จนถึงโค้งสุดท้าย ก่อนจะพลาดล้มอย่างน่าเสียดายแต่ไม่ยอมแพ้ ยกรถขึ้นมาเข้าป้ายในอันดับ 7 ตามหลังผู้ชนะ 13.697 วินาที ส่วนทีมเมทอย่าง อุ้ม-นพรุธพงษ์ ทีมเมทหมายเลข 8 ออกสตาร์ตจากกริดที่ 9 บิดเข้าป้ายในอันดับ 6 ตามหลังผู้ชนะ 11.920 วินาที หลังจบฤดูกาล ไฮเปค-กฤษฎา รั้งอันดับ 3 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ เก็บไปทั้งสิ้น 94 คะแนน แม้จะไม่ได้ลงทำการแข่งขัน 2 เรซแรกก็ตาม ขณะที่ อุ้ม-นพรุธพงษ์ รั้งอันดับ 9 มีทั้งสิ้น 51 คะแนน
ปิดท้ายกันที่รุ่นใหญ่สุดใน MSBK1000 ชิพ-นครินทร์ ออกสตาร์ตกริดที่ 3 ระเบิดฟอร์มวินเนอร์ 100% โดยเกมเรซนี้ดวลกันทั้งสิ้น 10 รอบสนาม ก่อนจะโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมขยับขึ้นเป็นผู้นำ และบิดเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 21 นาที 15.661 วินาที เหมาชัยชนะไปครองได้อีกครั้ง ถือเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมกับการแข่งขันฤดูกาลแรกในรายการนี้ ด้วยการคว้าชัยชนะ 6 เรซติดต่อกัน จาก 3 สนามล่าสุด ขึ้นโพเดียมได้ทั้งหมด 7 ครั้ง ผงาดคว้าแชมป์ประจำปีไปครองอย่างยิ่งใหญ่ เก็บไปทั้งสิ้น 174 คะแนน ถือเป็นการสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมและพิสูจน์ได้ถึงมาตรฐานระดับสูงของ ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้เป็นอย่างดี รวมถึงความแข็งแกร่งของรถแข่ง Honda CBR1000RR-R และการยกระดับอย่างต่อเนื่องของนักบิดไทยด้วยเช่นกัน