ก่อนเกมการแข่งขันในเจแปนีสจีพีซึ่งเป็นสนามโฮมเรซของค่ายจักรยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง
ยามาฮ่า 2 นักบิด
มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี อย่าง
ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และ
อเล็กซ์ รินส์ เตรียมลงดวลความเร็วในโมโตจีพี สนาม 16 รายการ เจแปนีส กรังด์ปรีซ์ หวังสานต่อการพัฒนารถแข่ง M1 หลังเจอสัญญาณบวกช่วง 3 สนามที่ผ่านมา สำหรับศึก
โมโตจีพี เวิลด์ แชมเปียนชิพ 2024 สนาม 16 มีคิวดวลความเร็วกันที่ โมบิลิตี้ รีสอร์ท โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น
2 นักบิดของทีมอย่าง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร อดีตแชมป์โลกชาวฝรั่งเศสเจ้าของหมายเลข 20 และทีมเมทชาวสแปนิช อเล็กซ์ รินส์ หมายเลข 42 ได้เดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น และเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ รวมถึงเยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการใหญ่ของ ยามาฮ่า
กวาร์ตาราโร กล่าวก่อนเข้าสู่สุดสัปดาห์การแข่งขันว่า “หลังภาพรวมในเชิงบวกที่ อินโดนีเซีย เรากำลังอยู่กันใน โฮม กรังด์ปรีซ์ ของ ยามาฮ่า ที่ ญี่ปุ่น ในช่วง 2-3 เรซที่ผ่านมาเป็นไปในทิศทางที่ดี เราได้รับสัญญาณในการปรับปรุงหลายอย่าง เราจะพยายามอย่างเต็มที่อีกครั้ง เพื่อให้ได้ผลงานที่ดี”
รินส์ เผยว่า “หลังผ่านเรซที่ยากลำบากใน อินโดนีเซีย เราก็เดินทางมาต่อที่ ญี่ปุ่น ผมชอบที่จะเก็บความคิดในเชิงบวกไว้ และในสุดสัปดาห์นี้ก็เป็นการเริ่มต้นใหม่ เราได้กลับมาวิเคราะห์ว่าทำไมจึงไม่สามารถรักษาแนวทางที่ดีในการแข่งขันที่ มันดาลิกา และตอนนี้เราตั้งตารอเข้าสู่ เจแปนีส กรังด์ปรีซ์ ใน โมเตกิ ซึ่งเป็นสนามที่ดีต่อเรา รวมถึงการสนับสนุนจากสำนักงานใหญ่ของ ยามาฮ่า และแฟนๆ ดังนั้น มาดูกันว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง”
ขณะเดียวกัน ยามาฮ่า ยังส่ง เรมี การ์ดเนอร์ นักบิดชาวออสเตรียลงแข่งขันในสนามนี้ด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ด เพื่อเก็บข้อมูลสำคัญให้กับทีม เพื่อเดินหน้าพัฒนารถแข่ง M1 ด้วย
ทว่า ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และ อเล็กซ์ รินส์ กลับเจอสถานการณ์ท้าทายกับการซ้อมวันแรก โดยสภาพอากาศภาพรวมไม่มีฝนตกหนัก ซึ่ง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร เจ้าของรถแข่ง M1 หมายเลข 20 รั้งอันดับ 14 จากการซ้อมวันแรกด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 44.401 วินาที ตามหลังหัวแถว 0.965 วินาที ส่วนทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง อเล็กซ์ รินส์ หมายเลข 42 จบวันแรกในอันดับ 20 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 44.950 วินาที ตามหลัง 1.514 วินาที
กวาร์ตาราโร กล่าวหลังจบวันแรกว่า "เรามีปัญหาในวันแรก ดูเหมือนสภาพแทร็กจะส่งผลต่อศักยภาพรถแข่งของเรา ถ้าการยึดเกาะดีสถานการณ์ของเราก็ไม่ได้แย่แบบนี้ แต่ถ้าแทร็กมีการยึดเกาะต่ำ เราจะห่างไกลจากหัวแถวมาก เราขาดการยึดเกาะที่ล้อหลัง นั่นทำให้การแข่งขันของเรายากขึ้น"
รินส์ เปิดเผยว่า "มันยากมากที่จะบริหารจัดการสถานการณ์ในวันแรก ผมก็พยายามเค้นเต็มร้อย แต่บางสิ่งยังไม่ลงตัว ฟาบิโอ และผมต่างก็เจอปัญหาเดียวกัน เราขาดแทรคชั่นและการยึดเกาะ คาแร็กเตอร์หลักๆ ของสนามนี้คือเบรกหนัก แต่เรามีปัญหามากกว่าที่คิด โดยเฉพาะกับยางฮาร์ดหน้า ดังนั้น เราต้องตรวจสอบมันว่าเพราะอะไร"
ในรอบสปรินต์เรซของศึก เจแปนีส กรังด์ปรีซ์ ในช่วงบ่ายวันเสาร์ ภายใต้การขับเคี่ยวอย่างเข้มข้นซึ่งมีสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็น จากฝนที่ปรอยลงมาบางๆ เป็นระยะตลอดทั้งวัน แต่ กวาร์ตาราโร เจ้าของรถแข่งหมายเลข 20 ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 12 ส่วนทีมเมทอย่าง รินส์ หมายเลข 42 ออกตัวในกริดที่ 19 เกมเรซนี้ยังคงเป็นงานหินของ 2 นักบิด ยามาฮ่า ที่เจอปัญหาการยึดเกาะตลอดทั้งสุดสัปดาห์ ผลปรากฏว่า กวาร์ตาราโร จบเรซในอันดับ 12 ตามหลังผู้ชนะ 14.645 วินาที ส่วน รินส์ ตามเข้าป้ายในอันดับ 16 ตามหลัง 24.415 วินาที โดยทั้งคู่ต่างก็ใช้เรซนี้ในการวิ่งเก็บข้อมูลสำคัญ เพื่อส่งต่อให้ทีมวิศวกรสำหรับการพัฒนารถแข่ง M1 สำหรับการแข่งขันในวันอาทิตย์
กวาร์ตาราโร กล่าวหลังจบ สปรินต์ เรซ ในวันเสาร์ว่า "มันเป็น สปรินต์ เรซ ที่ยากมาก สภาพแทร็กแบบนี้มีผลต่อรถแข่งของเรา คือถ้าแทร็กมีการยึดเกาะบ้าง ผลงานของเราจะโอเค แต่ถ้าไม่มีการยึดเกาะ เราจะห่างจากกลุ่มหน้าเยอะมาก แน่นอนว่ามีฝนตกมาบางๆ และด้วยเงื่อนไขเหล่านั้น มันยากสำหรับเราอย่างมาก เราจะต้องเอาประสบการณ์นี้มาศึกษา ว่าจะสามารถปรับปรุงอะไรได้บ้าง มันไม่ได้เกี่ยวกับการเซ็ตอัป แต่เกี่ยวกับการยึดเกาะมากกว่า"
ด้าน รินส์ เปิดเผยว่า "เราพยายามสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บนรถแข่ง มีบางสิ่งที่แตกต่างจากรอบควอลิฟาย เพราะมีความคืบหน้าน้อยไปหน่อยหากเทียบกับวันศุกร์ และไม่สามารถสัมผัสได้ถึงการปรับปรุง ดังนั้น เราจึงต้องลองเสี่ยงเพื่อทำบางสิ่งในรอบ สปรินต์ และก็ค้นพบข้อมูลบางอย่าง ตอนนี้เรายังห่างจากกลุ่มหน้าเยอะมาก แต่วิศวกรของเราก็กำลังวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพราะดูเหมือนว่าการสัมผัสกับพื้นแทร็กของล้อหลังจะยกระดับขึ้นมาเล็กน้อย"
ถัดมาในช่วงเมนเรซ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลก โมโตจีพี ปี 2021 หมายเลข 20 จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 12 ส่วนทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง อเล็กซ์ รินส์ หมายเลข 42 ออกตัวจากกริดที่ 19 ในเกมเรซนี้มีจุดเปลี่ยนหลายอย่าง โดยเฉพาะสภาพอากาศที่ค่อนข้างชื้น ส่งผลโดยตรงกับการยึดเกาะในรถแข่ง M1
แม้ กวาร์ตาราโร จะออกตัวได้ดีจนขยับขึ้นมาเกาะท็อปเท็น แต่ก็ต้องเค้นศักยภาพอย่างหนักในการไล่บี้กับกลุ่มกลาง ก่อนจะบิดคว้าอันดับ 12 มาครอง หลังจากที่น้ำมันหมดในโค้งสุดท้ายอย่างน่าเสียดาย ส่วน รินส์ จบเรซในอันดับ 16 ตามด้วย เรมี การ์ดเนอร์ นักบิดออสเตรเลียน เจ้าของหมายเลข 87 ที่ลงบิดด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดเพื่อเก็บข้อมูลในการพัฒนารถแข่งให้กับ ยามาฮ่า เข้าป้ายในอันดับ 17
ทั้งนี้ ศึก โมโตจีพี 2024 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 ตุลาคมนี้ ที่ ฟิลลิป ไอลส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ในรายการ ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์