ปิดฉากศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2023 ที่สนามช้างฯ นักบิดไทยผลงานเยี่ยม ระเบิดฟอร์มพาเหรดคว้าชัยชนะในโฮมเรซ

การแข่งขันชิงเจ้าความเร็วทวีปในรายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2023 เดินทางมาถึงสนามสุดท้ายของฤดูกาลที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยมี 20 นักบิดไทย ลงล่าชัยชนะโฮมเรซมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ นำโดย ชิพ-นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ที่มีลุ้นแชมป์ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เต็มตัว โชว์ฟอร์มดุรั้งหัวแถว ตามด้วย แสตมป์-อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จาก ยามาฮ่า เจนบลู เรซซิ่ง ทีม เอเชียน นอกจากนี้ยังมี นิว-ปัณณสรณ์ แก้วสนธิ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์, โฟลท-รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม และ เหลียง-ชานนท์ อินต๊ะ จาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม ขณะที่ในรุ่นใหญ่อย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี มีนักบิดจอมเก๋าชาวไทยหนึ่งเดียวอย่าง บอล-จักรกฤษณ์ แสวงสวาท จาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม ลงแข่งขัน ด้านรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี มี มุกข์-มุกข์ลดา สารพืช และ มิกซ์-ธนัช ละอองปลิว รวมถึง 3 นักบิดจาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม อย่าง บอล-สุหทัย แช่มทรัพย์, การ์ฟิว-วัชรินทร์ ทับทิมอ่อน และ บิว-วริทธิ์ ทองนพคุณ นอกจากนี้ยังมีชื่อของ อธิศ กังแฮ จาก วิคเตอร์ เรซซิ่ง ด้วย ส่วนรุ่น ทีวีเอส เอเชีย วันเมค เรซ แชมเปี้ยนชิพ นำโดย เอ้-วรพงศ์ มาลาหวล, ฟิล์ม-ปิยวัฒน์ ประทุมยศ และ ดรัณภพ ทองย้อย ขณะที่รุ่นอันเดอร์โบน 150 ซีซี ประกอบด้วย แฟรงค์-ภาสกร แสนหลวง จาก ทีม วัน ฟอร์ ออลล์ และทีมเมทรุ่นพี่อย่าง เติ้ล-พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง, กัน-พชรกร ทองเกิดหลวง จาก เอสซีเค ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม และ พีไนท์-กันตพัฒน์ แยบการไถ จาก ยามาฮ่า อาร์ซีบี อูม่า เบิร์ด เพชรเกษม

 

เริ่มต้นโปรแกรมการแข่งขันด้วยการลงซ้อม 2 ครั้ง ก่อนที่จะเข้าสู่เกมการแข่งขันหลักของศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2023 

 

 

หลังผ่านการซ้อมครั้งแรกของทุกรุ่น นำโดยรุ่นใหญ่ที่สุดอย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี ปรากฏว่าจ่าฝูงบนตารางคะแนนสะสมอย่าง มาร์คุส ไรเตอร์แบร์เกอร์ นักบิดเยอรมันจาก วันซ็อกซ์ บีเอ็มดับเบิลยู ทีเคเคอาร์ ทีม รั้งหัวแถวด้วยเวลา 1 นาที 35.990 วินาที เหนือทีมเมทจอมเก๋าชาวมาเลเซียอย่าง อาซลัน ชาห์ อันดับ 2 เพียง 0.357 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ซัควาน ไซดี้ นักบิดมาเลเซียจาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท โชวะ 

 

 

ขณะที่สถานการณ์ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ซึ่งต้องลุ้นแชมป์กันอย่างเข้มข้นในสนามสุดท้าย ระหว่างนักบิดถึง 4 คน โดย ชิพ-นครินทร์ และ โซอิชิโร มินามิโมโตะ นักบิดญี่ปุ่นจาก ยามาฮ่า เจน บลู เรซซิ่ง ทีม เอเชียน มีแต้มจี้จ่าฝูงอย่าง ไครูล อิดฮาม ปาวี นักบิดมาเลเซียจาก บุนซิว ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม เพียง 7 คะแนนเท่านั้น รวมถึง เฮลมี ฮัซมาน นักบิดมาเลเซียจาก บุนซิว ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ซึ่งตามหลังจ่าฝูงเพียง 14 คะแนน ผลการซ้อมครั้งแรกในรุ่นนี้ ปรากฏว่า ชิพ-นครินทร์ รั้งจ่าฝูงด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 39.709 วินาที เฉือน แสตมป์-อภิวัฒน์ อดีตแชมป์เอเชียชาวไทย อันดับ 2 เพียง 0.240 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ อัซรอย อานัวร์ นักบิดมาเลเซียจาก บุนซิว ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 0.523 วินาที ตามด้วย โฟลท-รัฐพงษ์ ในอันดับ 4 ตามหลัง 0.800 วินาที และอันดับ 5 ไครูล อิดฮาม ปาวี จ่าฝูงบนตารางคะแนนสะสม ตามหลัง 0.824 วินาที

 

 

ด้านผลการซ้อมในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ปรากฏว่า เวด้า พราทาม่า นักบิดดาวรุ่งชาวอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง รั้งจ่าฝูงด้วยเวลา 1 นาที 52.346 วินาที เหนือทีมเมทอย่าง เรซ่า อาห์เรนส์ และ เฮอร์จุน เฟอร์ดาอุส อันดับ 2 และ 3 เพียง 0.275 วินาที และ 0.538 วินาที ส่วน มุกข์-มุกข์ลดา รั้งอันดับ 4 จากการลงสนามครั้งแรก ตามหลังหัวแถว 0.607 วินาที ตามด้วยทีมเมทรุ่นน้องอย่าง มิกซ์-ธนัช ละอองปลิว ในอันดับ 5 ตามหลัง 0.685 วินาที

 

 

จากนั้นการแข่งขันในเรซที่ 1 ก็เริ่มต้นขึ้น โดยผลการแข่งขันในรุ่นใหญ่ที่สุดของทวีปอย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี มาร์คุส ไรเตอร์แบร์เกอร์ ที่คว้าแชมป์เอเชียไปก่อนหน้านี้จากแต้มขาดลอย บิดเข้าป้ายเป็นคันแรก แต่โดนปรับ 1 อันดับ ส่งผลให้ แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ ขยับขึ้นมาคว้าชัยชนะไปครอง ส่วนอันดับ 3 เป็นของทีมเมทชาวมาเลเซียอย่าง ซัควาน ไซดี้ ตามหลัง 0.831 วินาที

 

 

ไฮไลต์อยู่ที่เกมในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ซึ่งอยู่ในสถานการณ์ชิงแชมป์ประจำปีอย่างเข้มข้น ปรากฏว่ากลุ่มนักบิดที่ลุ้นแชมป์เอเชีย ไล่บี้กันอย่างสุดมัน โดยมี แสตมป์-อภิวัฒน์ เป็นตัวสอดแทรกและเป็นตัวแปรสำคัญของเรซนี้ ผลปรากฏว่า โซอิจิโร มินามิโมโตะ ที่บิดคว้าชัยชนะด้วยเวลา 19 นาที 53.372 วินาที เฉือน แสตมป์-อภิวัฒน์ เพียง 0.150 วินาทีเท่านั้น ส่วนจ่าฝูงบนตารางคะแนนสะสมอย่าง ไครูล อิดฮาม ปาวี คว้าอันดับ 3 ตามด้วย ชิพ-นครินทร์ ในอันดับ 4 หลังผ่านเรซที่ 1 เป็นผลให้ โซอิจิโร มินามิโมโตะ นักบิดญี่ปุ่นจาก ยามาฮ่า เจน บลู เรซซิ่ง ทีม เอเชียน ขยับขึ้นรั้งจ่าฝูงบนตารางคะแนนสะสมรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี มีทั้งสิ้น 181 คะแนน เหนือ ไครูล อิดฮาม ปาวี เพียง 2 แต้มเท่านั้น ส่วน ชิพ-นครินทร์ รั้งอันดับ 3 ตามหลัง 12 คะแนน  ต้องไปตัดสินแชมป์กันในเรซสุดท้ายวันอาทิตย์นี้

 

 

ขณะที่ผลการแข่งขันในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ชัยชนะตกเป็นของ เวด้า พราทาม่า ด้วยเวลา 18 นาที 41.898 วินาที โดย 2 นักบิดไทยจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ สร้างผลงานยอดเยี่ยม ข้าวกล้อง-จักรีภัทร และ มุกข์-มุกข์ลดา ได้ขึ้นโพเดียมโฮมเรซในอันดับ 2 และ 3 ตามหลังหัวแถว 6.039 วินาที และ 6.042 วินาที ตามลำดับ จากผลการแข่งขันเรซที่ 1 ส่งผลให้การลุ้นแชมป์ในรุ่นนี้ต้องยืดเยื้อไปถึงเรซที่ 2 โดย เรซ่า เดนิก้า อาห์เรน รั้งจ่าฝูงมีทั้งสิ้น 198 คะแนน โดยมีแต้มเหนืออันดับ 2 อย่าง เฮอร์จุน เฟอร์ดาอุส อยู่ 20 คะแนน

 

 

ส่วนผลในรุ่น ทีวีเอส วัน เมค แชมเปียนชิพ ปรากฏว่าชัยชนะตกเป็นของ ฮิโรกิ โอโนะ นักบิดญี่ปุ่นด้วยเวลา 14 นาที 46.399 วินาที เฉือน มูฮัมหมัด มูซัคคีร์ โมฮัมเหม็ด นักบิดมาเลเซียอันดับ 2 เพียง 0.034 วินาที ขณะที่นักบิดจอมเก๋าชาวไทยอย่าง เอ้-วรพงศ์ ไล่บี้จบเรซในอันดับ 3 ตามหลังเพียง 0.261 วินาทีเท่านั้น สำหรับการลุ้นในรุ่นนี้ยังต้องไปตัดสินกันในเรซสุดท้าย โดย มูฮัมหมัด มูซัคคีร์ โมฮัมเหม็ด นักบิดมาเลเซียรั้งจ่าฝูง มีทั้งสิ้น 168 คะแนน เหนือ ของ ฮิโรกิ โอโนะ นักบิดญี่ปุ่น อันดับ 2 อยู่ 18 คะแนน ส่วน เอ้-วรพงศ์ รั้งอันดับ 3 ตามหลัง 22 คะแนน

 

 

เกมการแข่งขันเดินทางมาถึงเรซสุดท้ายของฤดูกาลท่ามกลางการลุ้นแชมป์อย่างเข้มข้น โดยเกมในรุ่นใหญ่ที่สุดของทวีปอย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี ที่แม้จะได้ตัวแชมป์ไปแล้ว แต่รูปเกมยังคงดวลกันอย่างสุดมันส์ ผลปรากฏว่า มาร์คุส ไรเตอร์แบร์เกอร์ อดีตนักบิดเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ชาวเยอรมันคว้าชัยไปครองด้วยเวลา 16 นาที 2.482 วินาที เหนือ แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ อันดับ 2 อยู่ 1.136 วินาที ตามด้วยทีมเมทชาวมาเลเซียอย่าง มูฮัมหมัด ซัควาน ไซดี้ ในอันดับ 3 ตามหลัง 1.239 วินาที

 

ขณะที่การแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ที่ต้องตัดสินแชมป์ประจำปีในเรซสุดท้าย ถือเป็นหนึ่งในเรซที่มีความหมายอย่างมาก โดยตัวแปรสำคัญอย่าง แสตมป์-อภิวัฒน์ ยอดนักบิดระดับโลกชาวไทยที่ลงบิดไวลด์การ์ดให้สังกัด ยามาฮ่า เจน บลู เรซซิ่ง ทีม เอเชีย บิดคว้าชัยชนะไปครองอย่างสุดมันส์ เหนือ โซอิจิโร มินามิโมโตะ นักบิดญี่ปุ่นอันดับ 2 เพียง 0.229 วินาที ตามด้วย อัซรอย อานัวร์ นักบิดมาเลเซี ตามหลัง 2.892 วินาที ส่วน ชิพ-นครินทร์ ตามเข้าป้ายในอันดับ 4 ตามหลัง 2.907 วินาที โดย โซอิจิโร มินามิโมโตะ นักบิดญี่ปุ่น พลิกสถานการณ์ในสนามสุดท้าย ผงาดคว้าแชมป์เอเชียในรุ่นนี้ไปครอง เก็บไปทั้งสิ้น 201 คะแนน ด้าน ไครูล อิดฮาม ปาวี พลาดล้มต้นเรซร่วงลงไปรั้งอันดับ 2 เมื่อจบฤดูกาล มี 185 คะแนน ขณะที่ ชิพ-นครินทร์ คว้าอันดับ 3 ในปีนี้ไปครอง มีทั้งสิ้น 182 คะแนน

 

 

ส่วนผลการแข่งขันในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ต้องตัดสินกันถึงโค้งสุดท้าย โดยชัยชนะตกเป็นของยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยอย่าง ข้าวกล้อง-จักรีภัทร ที่เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 18 นาที 54.829 วินาที เฉือน เฮอร์จุน แอทน่า เฟอร์ดาอุส อันดับ 2 เพียง 0.509 วินาที ขณะที่ มุกข์-มุกข์ลดา นักบิดสาวแกร่งบิดเข้าป้ายในอันดับ 3 ตามหลังเพียง 0.509 วินาที โดยแชมป์ประจำปีในรุ่นนี้ตกเป็นของ เรซ่า ดานิก้า อาห์เรนส์ นักบิดอินโดนีเซียซึ่งเก็บไปทั้งสิ้น 206 คะแนน ตามด้วยทีมเมทอย่าง เฮอร์จุน แอทน่า เฟอร์ดาอุส อันดับ 2 มี 198 คะแนน อันดับ 3 เป็นของ เวด้า พราทาม่า นักบิดรุ่นน้องชาวอินโดนีเซีย เก็บไปทั้งสิ้น 160 คะแนน ด้าน ข้าวกล้อง-จักรีภัทร รั้งอันดับ 4 มี 139 คะแนน และอันดับ 5 เป็นของ มุกข์-มุกข์ลดา มีทั้งสิ้น 121 คะแนน

 

 

ด้านผลการแข่งขันในรุ่น ทีวีเอส เอเชีย วัน เมค แชมเปี้ยนชิพ ปรากฏว่า ฮิโรกิ โอโนะ นักบิดญี่ปุ่นคว้าชัยไปครองด้วยเวลา 14 นาที 55.386 วินาที เฉือน มูฮัมหมัด มูซัคคีร์ โมฮัมเหม็ด นักบิดมาเลเซียอันดับ 2 เพียง 0.071 วินาที ด้าน เอ้-วรพงศ์ นักบิดมากประสบการณ์ชาวไทยบิดเข้าป้ายในอันดับ 3 ตามหลัง 1.311 วินาที เมื่อจบฤดูกาล 2023 ปรากฏว่าแชมป์ประจำปีในรุ่นนี้ตกเป็นของ มูฮัมหมัด มูซัคคีร์ โมฮัมเหม็ด เก็บไปทั้งสิ้น 188 คะแนน ตามด้วย ฮิโรกิ โอโนะ นักบิดญี่ปุ่นอันดับ 2 มีทั้งสิ้น 175 คะแนน ส่วน เอ้-วรพงศ์ คว้าอันดับ 3 เก็บไปทั้งสิ้น 162 คะแนน

 

ทั้งนี้ศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2023 นับเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่มีการลุ้นแชมป์อย่างเข้มข้นตลอดทั้งปี โดยนักบิดไทยสามารถสร้างผลงานได้อย่างร้อนแรง ซึ่งในปีหน้ามีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ จะยังคงรับหน้าที่เป็นสังเวียนของการแข่งขันรายการนี้เช่นเคย โดยจะมีการเปิดเผยตารางแข่งขันเร็วๆ นี้