การแข่งขันในสนามที่ 11 ของ MotoGP 2023 ในรายการ Gran Premi Monster Energy de Catalunya ที่สนาม Circuit de Barcelona-Catalunya ในสเปน โดยชัยชนะตกเป็นของทีม Aprilia Racing ที่สามารถคว้าชัย 1-2 ได้เป็นครั้งแรกในพรีเมียร์คลาส โดย Alexis Espargaro และ Maverick Viñales ส่วนที่ 3 ได้แก่ Jorge Martin จาก Prima Pramac Racing และเป็นที่น่าเสียดายหลัง Francesco Bagnaia จาก Ducati Lenovo Team เกิดพลาดล้มและได้รับความบาดเจ็บในรอบการแข่งขันทำให้พลาดการเก็บคะแนนไปอย่างน่าเสียดาย
โดยการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นด้วยรอบ Tissot Sprint Race ซึ่งก็เป็น Bagnaia ที่เป็นผู้คว้าโพลไปครองได้ ในขณะที่ A.Espargaro ซึ่งเป็นหนึ่งในนักแข่งสเปนที่ถือว่าเป็น Home Race ได้ออกสตาร์ทจากอันดับที่ 2 และทันทีที่ไฟดับลงก็เป็น Bagnaia และ Martin ที่ออกตัวได้ดี และกลายเป็น Bagnaia ที่ขึ้นมาเป็นผู้นำได้สำเร็จ
แต่อย่างไรก็ตาม 2 นักแข่งจาก Aprilia Racing ก็ออกสตาร์ทได้อย่างรวดเร็ว เพียงไม่นาน Vinales ก็สามารถแซงผ่าน Martin ทำให้ตำแหน่งตอนนี้กลายเป็น Bagnaia, Vinales, A.Espargaro หลังจากนั้นคู่ทีมเมทจาก Aprilia ก็สลับตำแหน่งกัน และเริ่มไล่ล่าตำแหน่งผู้นำ
ถึงแม้จะมีฝนโปรยลงมาบางๆ แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับการแข่งขัน การต่อสู้กันระหว่าง Bagnaia และ A.Espargaro ก็เริ่มต้นขึ้น โดยในสนามนี้ Aprilia สามารถต่อสู้กับ Ducati ได้อย่างสูสีหลังจากนั้นไม่นาน A.Espargaro ก็สามารถแซงขึ้นมาเป็นผู้นำได้สำเร็จ ด้าน Vinales ก็พยายามสู้เพื่ออันดับที่ 3
A.Espargaro หลังจากเป็นผู้นำก็สามารถทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ ถึงครึ่งวินาทีในหนึ่งรอบ เพื่อแสดงให้เห็นว่า Aprilia ก็สามารถที่จะเป็นผู้ชนะใน Sprint Race ได้ ด้าน Bagnaia ก็ถูก Vinales เพื่อชิงตำแหน่งที่ 2 จนมาถึงรอบสุดท้าย Bagnaia ก็ยังป้องกันเอาไว้ได้ให้สมกับเป็นแชมป์โลกคนปัจจุบัน ด้าน Martin หล่นลงไปในตำแหน่งที่ 5
ผลการแข่งขัน Sprint Race
ผลการแข่งขัน Sprint Race ในกลุ่มทีมอิสระ
ถัดมาสู่ช่วงเรซการแข่งขันหลัก ที่มีดราม่าตั้งแต่ Iker Lecuona จาก LCR Honda พลามล้มตั้งแต่รอบวอร์มอัพ แต่ยังกลับมาร่วมการแข่งขันได้ ทันทีที่ไฟสตาร์ทดับลงยังเป็น Bagnaia ที่ออกตัวได้ดี แต่เพียงโค้งแรกก็เกิดอุบัติเหตุใหญ่เมื่อ Enea Bastianini จาก Ducacti Lenovo Team เกิดเสียหลักล้มและพาเอา Alex Marquez และ Fabio Di Giannantonio คู่ทีมเมทจาก Gresini Racing MotoGP พร้อม Johann Zarco จาก Prima Parmac Racing และ Marco Bezzecchi จาก Mooney VR46 Racing Team ออกไปจากการแข่งขันในโค้งที่ 1
ยังไม่ทันที่ฝุ่นจะจางหายไป Bagnaia ซึ่งเป็นผู้นำก็พลาดเกิดไฮไซส์ที่โค้ง 2 ลอยตกลงมา และถูก Brad Binder จาก RedBull KTM Factory Racing ที่ตามมาทับที่ขาจนกรรมการต้องสั่งธงแดง และรีบนำตัว Bagnaia ไปที่ศูนย์การแพทย์ของสนามแข่ง และมีการกาศลดรอบการแข่งขันเหลือ 23 รอบ โดยจะทำการรีสตาร์ทกันใหม่อีกครั้ง ซึ่ง 2 นักแข่งจาก Ducati Lenovo Team นั้งไม่สามารถลงแข่งได้ทั้ง Bastianini และ Bagnaia
หลังจากทำการรีสตาร์ทกลายเป็น Martin ที่คว้าโฮลช็อต ตามาด้วย Viñales โดยมี A.Espargaro ตามมาในอันดับที่ 3 หลังจากนั้น Vinales ก็แซงขึ้นมาเป็นผู้นำและเริ่มยืดระยะห่างจาก Martin ขณะที่ A.Espargaro ก็พยายามแซงผ่าน Martin ไปให้ได้เพื่อตำแหน่งแชมป์ใน Home Race หลังจากแซงได้ก็พยายามลดช่องว่างกับเพื่อนร่วมทีม ด้าน Miguel Oliveira จาก CryptoDATA RNF MotoGP™ Team หลังจากแซง Martin มาได้ก็ทำให้ตอนนี้ทั้ง 3 อันดับเป็นรถ Aprilia ทั้งหมด แต่ถัดมาไม่นาน Martin ก็ทวงตำแหน่งคืนได้
เกมการแข่งขันเป็นไปอย่างสูสี ขณะที่ Vinales นำหน้าเพื่อนร่วมทีมอยู่ 1.5 วินาที แต่ A.Espargaro ก็ค่อยๆ ลดระยะมาในแต่ละรอบการแข่งขันเพื่อเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนเหลืออีก 4 รอบการแข่งขัน A.Esargaro ก็พุ่งเข้าหา Vinales
และแซงขึ้นไปเป็นผู้นำได้และคว้าชัยไปในที่สุดโดย A.Esargaro และ Vinales ก็พาทีม Aprilia Racing คว้าชัย 1-2 ครั้งแรกในพรีเมียร์คลาส ส่วนอันดับที่ 3 เป็นของ Martin โดยมีเพื่อนรวมทีม Prima Pramac Racing อย่าง Zarco ตามมาห่างๆ นับเป็นการแข่งขันที่เป็นการคว้าดับเบิ้ลแชมป์ของ A.Esargaro ที่ได้ชัยชนะในรอบ Sprint Race และเรซหลัก และยังเป็นนักแข่งสเปนที่ขึ้นโพเดี้ยมทั้ง 3 อันดับ ซึ่งใช้รถแบรนด์อิตาลีทั้ง 3 อันดับด้วยเช่นกัน
สนามต่อไปของ MotoGP จะเกิดขึ้นที่ Misano World Circuit Marco Simoncelli ที่อิตาลี ในรายการ Gran Premio Red Bull di San Marino e della Riviera di Rimini ตั้งแต่วันที่8-10 กันยายน ที่จะถึงนี้
ผลการแข่งขันในกลุ่มทีมอิสระ
ผลงานนักแข่งไทยที่ลงทำการแข่งขันใน Moto2
ด้านนักแข่งไทยใน Moto2 อย่าง ก้อง-สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดขวัญใจชาวไทยจากโครงการ Honda Race To The Dream เจ้าของหมายเลข 35 จาก IDEMITSU Honda Team Asia ในสนามนี้ตัวตั้งเป้ายกระดับผลงานเพื่อไล่ล่าคะแนนสะสมอย่างต่อเนื่อง โดย ก้อง-สมเกียรติ เปิดเผยว่า “คาตาลุนญา เป็นอีกหนึ่งในสนามที่ท้าทายความสามารถอย่างมาก เป็นแทร็กที่ต้องใช้เทคนิคสูง ต้องคุมการใช้คันเร่งให้เหมาะสมตลอดทั้งเรซ ซึ่งท้าทายมากสำหรับผม ปีที่แล้วผลงานของผมได้มาจากการขี่ด้วยความระมัดระวัง และผมต้องการหวังว่าจะแก้ไขสถานการณ์นี้ให้ได้ในปีนี้"
โดยในรอบควิลิฟาย ก้อง-สมเกียรติ” ที่ต้องลุ้นในรอบ Q1 อย่างไรก็ดี ก็สามารถกอบกู้สถานการณ์คว้าอันดับ 1 ในรอบ Q1 และผ่านเข้าสู่ Q2 ได้สำเร็จ ก่อนจะคว้า กริดที่ 12 มาครองด้วยเวลา 1 นาที 44.470 วินาที ขณะที่ทีมเมทชาวญี่ปุ่นอย่าง ไอ โอกูระ หมายเลข 79 ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 3 ด้วยเวลา 1 นาที 44.214 วินาที
พอเข้าสู่ช่วงดารแข่งขัน ก้อง-สมเกียรติ ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 12 ขณะที่ทีมเมทชาวญี่ปุ่นอย่าง ไอ โอกูระ หมายเลข 79 ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 3 จนสามาถขยับขึ้นไปถึงอันดับ 11 ในช่วงกลางเรซ แต่ด้วยปัญหาจากยาง ส่งผลให้การแข่งขันเรซนี้เป็นงานสุดหิน โดยนักบิดไทยอาศัยประสบการณ์และทักษะที่ยอดเยี่ยม บิดเข้าเส้นชัยในอันดับ 14 ด้วยเวลา 37 นาที 2.300 วินาที คว้าแต้มมาครองได้ตามเป้า ส่วน ไอ โอกูระ จบเรซในอันดับ 7 ผ่านการแข่งขัน 11 สนามแรก ก้อง-สมเกียรติ ยังคงรั้งอันดับ 9 บนตารางคะแนนสะสม โมโตทู มีทั้งสิ้น 79 คะแนน ส่วน โอกูระ รั้งอันดับ 12 มี 64 คะแนน
ผลงานนักแข่งไทยที่ลงทำการแข่งขันใน Moto3
ก๊องส์-ธัชกร บัวศรี นักบิดรุ่นน้องที่ลงบิดไวลด์การ์ด เจ้าของรถแข่งหมายเลข 33 ในรุ่น Moto3 เป็นสนามที่ 3 วางเป้าหมายเดิมคือคว้าแต้มให้ได้ในสุดสัปดาห์นี้ ส่วนผลการควอลิฟายได้ออกตัวจากกริดที่ 27 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 50.404 วินาที
ด้านผลการแข่งขันปรากฏว่า ก๊องส์-ธัชกร ลงบิดไวลด์การ์ดสนามนี้ด้วยกริดที่ 25 สร้างพัฒนาการที่ยอดเยี่ยม ที่ทะยานขึ้นมาจบเรซในอันดับ 20 ด้วยเวลา 33 นาที 8.115 วินาที นับเป็นอีกหนึ่งเรซที่ยกระดับขึ้นอย่างน่าประทับใจ
ทั้งนี้ ก้อง-สมเกียรติ และ ก๊องส์-ธัชกร มีคิวแข่งขันในสนามถัดไปในวันที่ 8-10 กันยายนนี้ ที่อิตาลี แฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารพร้อมส่งกำลังใจเชียร์ ก้อง-สมเกียรติ ในรุ่น Moto2 และ ก๊องส์-ธัชกร ในรุ่น Moto3 และร่วมลุ้นและให้กำลังใจ 2 นักบิดฮอนด้า พร้อมติดตามข่าวสารได้ที่
https://www.facebook.com/HondaRacingTeamTH และ แฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม :
Race to The Dream