การแข่งขันในสนามที่ 9 ในรายการ Monster Energy British Grand Prix หรือ British GP ที่ Silverstone Circuit หลังจากหยุดช่วงฤดูร้อนที่ยาวนาน ถือเป็นการเริ่มต้นของครึ่งหลังของฤดูกาลเมื่อที่จะกลับมาต่อสู้อีกครั้ง โดย Aleix Espargaro จาก Aprilia Racing สามารถแซง Francesco Bagnaia จาก Ducati Lenovo Team ได้ในรอบสุดท้าย ซึ่ง Bagnaia นั้นเป็นผู้นำเกือบจะตลอดการแข่งขันส่งผลให้เจ้าตัวได้ตำแหน่งที่ 2 ไปครองด้านคะแนนสะสม Marco Bezzecchi จาก Mooney VR46 Racing Team เกิดพลาดล้มออกจากการแข่งขันไปทำให้ Bagnaia ยังคงครองอันดับ 1 ในตารางคะแนนสะสมอยู่นั่นเอง
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นด้วย Tissot Sprint Race ในสภาพที่เปียกชื้น และทันทีที่ไฟดับลง การสตาร์ทก็เริ่มต้นโดย Jack Miller จาก Red Bull KTM Factory Racing ที่ออกตัวได้ดีกว่า แต่ก็มี Bezzecchi ตามมา ขณะที่ Augusto Fernandez จาก GASGAS Factory Racing Tech3 ยึดตำแหน่งที่ 3 โดยมี Jorge Martin จาก Prima Pramac Racing ตามมาและไล่แซงได้ในที่สุด ส่วน Alex Marquez จาก Gresini Racing MotoGP ก็ไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว จากนั้น Martin ก็พยายามที่จะขึ้นเป็นผู้นำแต่ Miller ก็ไม่ยอมปล่อยให้นักบิดชาวสเปนผ่านไปง่าย ๆ
ในขณะที่เหลือการแข่งขันอีกเพียง 9 รอบ A. Marquez ก็ขยับขึ้นมาเป็นผู้นำ และสามารถทำ Fastest Lap ได้อีกด้วย โดยมี Bezzecchi, Miller, Maverick Vinales จาก Aprilia Racing และ Martin ตามมา ขณะที่ A. Marquez รักษาระยะห่างระหว่าง Bezzecchi ไว้ได้ แต่เมื่อฝนเริ่มตกลงมาอีกครั้งในรอบสุดท้าย Bezzecchi พยายามที่จะไล่ตามแต่ก็ยังไม่พอส่งให้ A. Marquez คว้าชัยชนะครั้งแรกในการวิ่ง Sprint Race ของเขาและ Gresini Racing MotoGP
ด้าน Aprilia แม้จะออกสตาร์ทในอันดับที่ 8 แต่ Vinales ก็สามารถทำผลงานได้ดีใน Sprint Race โดยสามารถแซง Miller เพื่อชิงตำแหน่งที่ 3 ไว้ได้จนถึงเส้นชัย ส่วน A. Espargaro ทีมเมท ก็ไต่อันดับจากที่ 12 มาจบที่อันดับ 5
ผลการแข่งขัน Sprint Race
เข้าสู่ช่วงการแข่งขันของเรซหลัก Bezzecchi ที่ได้ออกสตาร์ทด้วยตำแหน่งโพลโพซิชัน แต่กลับโดน Miller ที่ออกสตาร์ทได้ดีกว่า ในขณะเดียวกัน Bagnaia ที่ออกตัวจากที่ 4 ก็พุ่งเข้าสู่อันดับที่ 3 และก็ไม่พลาดโอกาสที่จะแซงผ่าน Bezzecchi เพื่อเป้าหมายที่จะชิงตำแหน่งกับ Miller ด้าน A. Espargaro แซงขึ้นสู่อันดับที่ 3 และเป็นคนที่เร็วที่สุดในสนาม
ต่อมา Bezzecchi ก็ทำความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่มีผลตามมาที่ยิ่งใหญ่เมื่อรีบเลี้ยวเข้าโค้ง Stowe ในรอบถัดมาก็ยังทำผิดพลาดเช่นเดิม แต่คราวนี้สนามแข่ง Silverstone ไม่ปราณีทำให้ Bezzecchi พลาดล้มและออกจากการแข่งขันไป ทำให้พลาดคะแนนสะสมในสนามนี้ไปด้วย จากการพลาดของนักบิดอิตาเลี่ยน ทำให้ A. Espargaro ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 และ Brad Binder จาก Red Bull KTM Factory Racing ขึ้นเป็นอันดับ 3
จากนั้นก็มีฝนเกิดขึ้น ขณะที่กรรมการสนามตีธงฝน ในขณะเดียวกัน Vinales ก็แซงหน้า Binder ทำให้มี Aprilia 2 คันอยู่ใน 3 อันดับแรก และเมื่อฝนหยุดตกในโค้งที่ 15 Binder ก็ทวงตำแหน่งกลับมาได้ การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป จากนั้น Miguel Oliveira จาก CryptoDATA RNF MotoGP Team ก็เข้ากลุ่มมาเพื่อชิงอันดับบนโพเดี้ยม โดยสามารถแซง Binder และ Vinales เพื่อตำแหน่งที่ 3 แต่ Binder ก็ทำได้ดีกว่า Oliveira เมื่อสามารถแซงกลับคืนได้
ด้าน A. Espargaro ที่พยายามไล่ตาม Ducati ก่อนทำการแซงที่น่าทึ่งที่ทางออกของ Copse Corner โดยนักบิดชาวสเปนสามารถที่จะแซงผ่าน Bagnaia และสร้างชัยชนะในสนามนี้ โดยเป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์สำหรับ Aprilia ถือเป็นสุดสัปดาห์ที่สำคัญสำหรับ Aprilia Racing ที่สนาม Silverstone Circuit ส่วนสนามถัดไปจะเกิดขึ้นที่ Red Bull Ring ในออสเตรียสำหรับ CryptoDATA Motorrad Grand Prix von Osterreich ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 - 20 สิงหาคม ซึ่งเป็นสนามเหย้าของ KTM
ผลการแข่งขัน
ผลการแข่งขันในกลุ่มทีมอิสระ
ผลงานนักแข่งไทยที่ลงทำการแข่งขันใน Moto2
ด้านนักแข่งไทยใน Moto2 อย่าง ก้อง-สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดขวัญใจชาวไทยจากโครงการ Honda Race To The Dream เจ้าของหมายเลข 35 จาก IDEMITSU Honda Team Asia ในสนามนี้
โดยก่อนเข้าสู่สนามนี้ ก้อง-สมเกียรติ รั้งอันดับ 7 บนตารางคะแนนสะสม มีทั้งสิ้น 59 คะแนน พอผ่านรอบซ้อมก็สามาถทำเวลาต่อรอบ 2 นาที 5.415 วินาที ตามหลังจ่าฝูงเพียง 0.016 วินาทีเท่านั้น นับเป็นการส่งสัญญาณที่ยอดเยี่ยม หลังพักเบรกฤดูกาล 5 สัปดาห์
พอถึงรอบควอลิฟาย กับเจองานสุดท้าทาย เพราะปรากฏว่ามีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่งผลให้เป็นงานยากสำหรับนักบิดทุกคนโดย ก้อง-สมเกียรติ ผ่านเข้าสู่รอบ Q2 แบบอัตโนมัติ พยายามอย่างหนักในการล่ากริดกลุ่มหน้า ก่อนจะคว้าอันดับ 15 มาครองด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 19.316 วินาที และจะได้เริ่มเกมจากแถวที่ 5 ในการไล่ล่าแต้มในสนามนี้
พอเข้าสู่เรซหลัก ก้อง-สมเกียรติ ได้ออกสตาร์ตจากกริดที่ 14 (มีการปรับโทษ) จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในรอบแรกที่โค้ง 3 หลังจากที่มีนักบิดถึง 4 คันล้มตัดขวางแทร็ก ทำให้ ก้อง-สมเกียรติ เสียจังหวะร่วงลงไปถึงอันดับ 16 ก่อนจะค่อยๆ ไล่แซงคู่แข่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง 2 รอบสุดท้าย ขยับขึ้นมาคว้าอันดับ 9 ได้อย่างสุดมันส์ ตามหลังผู้ชนะเพียง 12.280 วินาที จากผลงานดังกล่าวส่งผลให้ เก็บเพิ่ม 7 คะแนน รวมเป็น 66 คะแนนรั้งอันดับ 9 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ Moto2 หลังผ่านไป 9 สนามของปี
แฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารของ ก้อง-สมเกียรติ จันทรา พร้อมส่งกำลังใจเชียร์ยอดนักบิดไทยในศึก โมโตจีพี รุ่นโมโตทู ตลอดทั้งฤดูกาล 2023 และติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม :
www.facebook.com/HondaRacingTeamTH