การแข่งขันในสนามที่ 6 ในรายการ Gran Premio d'Italia Oakley หรือ ItalianGP การแข่งขันนี้ถือเป็นโฮมเรซของ รถจักรยานยนต์และนักแข่งจากอิตาลี และก็เป็น Ducati ที่สมหวังเมื่อ Francesco Bagnaia จาก Ducati Lenovo Team สามารถคว้าโพล เอาชนะได้ใน Tissot Sprint Race และยังคว้าชยได้ในเรซการแข่งขัน ด้าน Jorge Martin และ Johann Zarco จาก Prima Pramac Racing ก็จบหารแข่งขันได้ด้วยอันดับที่ 2 และ 3 ตามลำดับ เป็นอีกหนึ่งเรซการแข่งขันที่ถือว่า Ducati ประสบความสำเร็จได้อย่างสวยงามอีกครั้งใน MotoGP
ก่อนการแข่งขันในสนามนีเจะเริ่มต้นขึ้นทางผู้จัดการแข่งขันได้จัดงานเพื่อเป็นเกียรติให้กับ Andrea Dovizioso อดีตนักแข่งชาวอิตาลี ในการเพิ่มชื่อของเขาเข้าไปอยู่ในหอเกียรติยศ หรือ Hall of Fame ของ MotoGP
จากนั้นการแข่งขันในวันเสาร์ของ Tissot Sprint Race ก็เริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศที่มีสายฝนโปรยปรายทำให้แฟน MotoGP ถึงกับนั่งไม่ติดทันทีที่ไฟสตาร์ทดับลง Bagnaia ก็ออกมาขึ้นนำได้ในทันที ขณะที่ Jack Miller จาก Red Bull KTM Factory Racing ตามมาเป็นอันดับที่ 2 แต่ก็ไม่วายเกิดเหตุดราม่าขึ้นเมื่อ Brad Binder จาก Red Bull KTM Factory Racing กับ Alex Marquez จาก Gresini Racing MotoGP เกิดกระแทกกันแต่เป็นฝ่าย Alex Marquez กลับต้องออกจากการแข่งขันไปตั้งแต่โค้งที่ 1 ส่วน Binder ได้รับโทษ Long Lap
จากนั้นก็เริ่มมีฝนโปรยปรายลงมา กรรมการสนามตีธงฝนเป็นสัญญาณให้นักแข่งสามารถเปลี่ยนรถได้หากต้องการโดยการแข่งขันเหลืออีก 9 รอบ จากนั้น Martin ก็พยายามแซงแต่ก็เป็น Bagnaia ที่กลับมาเป็นผู้นำได้อีกครั้ง และตอนนี้ Marc Marquez และ Miller ก็หล่นลงมาอยู่ที่อันดับที่ 7 และ 5 ตามลำดับ
จากนั้นเม็ดฝนก็หยุดลงโดยเหลือการแข่งขันอีก 7 รอบสนาม เป็นโอกาสให้ Marco Bezzecchi จาก Mooney VR46 Racing Team เร่งเข้าใส่ทันที เพื่อแย่งชิงชัยชนะในโฮมเรซคู่หู Prima Pramac Racing อย่าง Martin และ Zarco ตามมาในอันดับที่ 3 และ 4
ถึงแม้จะมีความกดดันเพิ่มมากขึ้นแต่ Bagnaia ก็ยังคงความเป็นแชมป์ด้วยการขึ่หนีทำเวลายืดออกไป โดยเหลืออีก 4 รอบ จน Bezzecchi เริ่มผ่อนคันเร่งรักษาระยะเพื่อรักษาตำแหน่งที่ 2 ส่วนตำแหน่งที่ 3 เป็นการต่อสู้กันระหว่าง Martin และ Zarco ที่ต้องตัดสินโดยใช้เวลาไม่ถึง 1 ใน 10 ของวินาที เนื่องจาก Zarco เกือบจะแซง Martin ได้ในช่วงสุดท้ายหน้าเส้น แม้ Zarco จะพยายามทุกอย่างแล้วก็ตามแต่ก็เป็น Martin ที่ได้ตำแหน่งที่ 3 ไป
ผลการแข่งขัน Sprint Race
ผลการแข่งขัน Sprint Race ในกลุ่มทีมอิสระ
พอถึงช่วงเรซการแข่งขันหลัก ทันทีที่ไฟสตาร์ทกับลงการแข่งขัน ItalianGP ก็เริ่มต้นขึ้น และยังคงเป็น Bagnaia ที่ขึ้นมาเป็นผู้นำการแข่งขัน แม้ว่า Miller ที่พุ่งเข้าสู่โฮลช็อตสู่โค้ง 1 แต่ Bagnaia ก็ยังคงป้องกันได้อย่างดีและเริ่มขึ้นนำในขณะกลุ่มที่ตามมาก็ไล่ล่าสลับตำแหน่งกันไปมา หลังผ่านรอบแรก Bagnaia ทำเวลาห่างอันดับ 2 อยู่ 0.4 วินาที นำหน้า Martin ที่แซง Miller ที่ตกไปอยู่ภายใต้การโจมตีจากกลุ่มนักบิดที่นำโดย Luca Marini จาก Mooney VR46 Racing Team Marini และ Marc Marquez
ในขณะที่ Bagnaia พยายามยืดระยะห่างออกไป แต่ Martin ก็พยายามเกาะอยู่อย่างไม่ลดละ และในสนามนี้ก็เป็นสนามที่ จบไม่สวยของ 2 พี่น้องตระกูล Marquez เมื่อ Alex Marquez ก็เร่งรีบเข้าสู่โค้งที่ 1 ต่อเนื่องโค้งที่ 2 โดยดูเหมือนจะไม่มีอะไรแต่ก็พลาดล้มออกไปอย่างน่าเสียดายสำหรับ Gresini Racing MotoGP ที่ในสนามนี้ก็ถือว่ามีความสำคัญเพราะเป็นโฮมเรซด้วยเหมือนกันและ Alex Marquez ก็มีลุ้นจากอันดับควอลิฟายแต่ต้องออกการการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย ด้าน Marc Marquez ก็พยายามที่จะขี่โดยอยู่เหนือขีดจำกัดของรถ Honda จนกระทั่งเริ่มกว้างออกไปในโค้งสุดท้ายและพลาดล้มลงในขณะที่การแข่งขันเหลืออีก 17 รอบ
จากนั้น Bagnaia ยังคงขี่ต่อไปอย่างมั่นคง และควบคุมการแข่งขันได้อย่างสวยงามจนถึงเส้นชัย ส่วน Martin แม้จะพยายามที่สุดแล้ว แต่ก็ได้ตำแหน่งที่ 2 ส่วน Zarco จบการแข่งขันด้วยตำแหน่งที่ 3 ถือเป็นความสำเร็จที่สวยงามของ Ducati เมื่อรถจาก Ducati Lenovo Team และ Prima Pramac Racing สามารถขึ้นโพเดี้ยมได้สำเร็จ ด้าน Enea Bastianini จาก Ducati Lenovo Team กลับมาแข่งครั้งแรกหลังจากได้รับบาดเจ็บ ก็สามารถจบการแข่งขันในตำแหน่งที่ 9 โดยมี Franco Morbidelli และ Fabio Quartararo จาก Monster Energy Yamaha MotoGP จบการแข่งขันที่ 10 และ 11 ตามลำดับ
มันเป็นสุดสัปดาห์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับความหวังของ Bagnaia ในปี 2023 เนื่องจากมีแต้มนำหน้า Bezzecchi อยู่ 21 แต้ม ซึ่งแฟนๆ MotoGP ก็ต้องติดตามในสนามถัดไปที่ เยอรมนี ในรายการ Liqui Moly Motorrad Grand Prix Deutschland ที่สนาม Sachsenring
ผลการแข่งขัน
ผลการแข่งขันในกลุ่มทีมอิสระ
ผลงานนักแข่งไทยที่ลงทำการแข่งขันใน Moto2
ด้านนักแข่งไทยใน Moto2 อย่าง ก้อง-สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดขวัญใจชาวไทยจากโครงการ Honda Race To The Dream เจ้าของหมายเลข 35 จาก IDEMITSU Honda Team Asia ในสนามนี้
โดย ก้อง-สมเกียรติ ต้องพบงานหนักในสนามนี้ เพราะต้องเน้นการหาเซ็ตติ้งและตัวเลือกยางที่ลงตัว โดยผ่านการซ้อม 2 ครั้งแรก จบในอันดับ 19 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 52.179 วินาที ซึ่ง ก้อง-สมเกียรติ เปิดเผยว่า “ช่วงแรกที่ออกไปซ้อมในวันศุกร์ เราได้ทำงานเกี่ยวกับการเซ็ตอัพและตัวเลือกยาง ผมเริ่มเค้นเพื่อหาเวลาต่อรอบที่ดีในตอนบ่าย แต่ก็ไม่สามารถทำได้ โดยพรุ่งนี้ (วันเสาร์) ทุกคนต่างก็บอกว่าฝนจะตก หากเป็นแบบนั้น... ผมจะเดินหน้าทำงานต่อในรูปแบบเดิม คือพยายามหากริดสตาร์ตที่ดีที่สุด”
หลังแก้ปัญหารถแข่งได้แล้ว ก้อง-สมเกียรติ ก็กดเวลารั้งท็อป 11 ในการซ้อมรวม ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 51.239 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 0.725 วินาที ทะยานสู่การควอลิฟายรอบ Q2 แบบอัตโนมัติได้ทันที
ผลควอลิฟายในรุ่นนี้สำหรับ ก้อง-สมเกียรติ คว้ากริดที่ 17 มาครองด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 51.824 วินาที ตามหลังเจ้าของโพล 1.028 วินาที โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า "ในการซ้อมครั้งที่ 3 เราทำงานกันได้ดี ซึ่งผมปรับปรุงความเร็วได้มากกว่า 1 วินาที หากเทียบกับปีที่ผ่านมา ค่อนข้างมั่นใจเพราะเรามีการเซ็ตติ้งที่ดีสำหรับการแข่งขันแล้ว"
และในเรซการแข่งขัน ก้อง-สมเกียรติ ยอดนักบิดไทยจากโครงการ ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม ฝ่างานสุดหิน พิสูจน์ตัวเองในการแข่งขันระดับโลกอีกครั้ง หลังต้องออกสตาร์ตจากกริดที่ 17 แต่ฮึดไล่แซงไต่อันดับทะยานขึ้นติดท็อป 10 ตั้งแต่รอบที่ 2 จากนั้นสามารถไล่บี้คู่แข่งจนขยับเข้าป้ายในอันดับ 9 ด้วยเวลา 35 นาที 56.336 วินาที
ด้วยฟอร์มยอดเยี่ยมในสนามนี้ส่งผลให้ ก้อง-สมเกียรติ ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 7 บนตารางคะแนนสะสมชิงแชมป์โลกหลังผ่าน 6 สนาม มีทั้งสิ้น 46 คะแนน โดยสนามถัดไปจะมีขึ้นระว่างวันที่ 16-18 มิถุนายนนี้