ทีมแซทเทิลไลท์ Ducati เหมาโพเดี้ยมใน Argentina ด้านผู้นำคะแนนสะสมเปลี่ยนเป็น Bezzecchi ขึ้นมานำหลัง Bagnaia ล้มแม้กลับมาแข่งต่อได้แต่ไร้แต้ม

การแข่งขัน MotoGP เข้าสู่สนามที่2 ในรายการ Gran Premio Michelin de la República Argentina ที่สนาม Termas de Rio Honda ในอาร์เจนตินา ผู้ที่สามารถคว้าโพลในสนามนี้ได้ก็คือ Alex Marquez จาก Gresini Racing MotoGP™ แต่พอเข้าสู่การแข่งขัน Tissot Sprint Race กลับกลายเป็นนักบิดชาวแอฟริกาใต้อย่าง Brad Binder จาก Red Bull KTM Factory Racing ที่สามารถเอาชนะการแข่งขันครั้งนี้ได้ โดยขยับจากตำแหน่งที่ 15 จนสามารถคว้าชัยชนะไปได้สำเร็จ โดยมีคู่หูจาก Mooney VR46 Racing Team อย่าง Marco Bezzecchi ที่เข้าเส้นชัยมาในอันดับ 2  และ Luca Marini ที่เข้าเส้นชัยมาในอันดับ 3

การแข่งขัน Tissot Sprint Race เริ่มออกสตาร์ทอย่างดุเดือดเมื่อ Franco Morbidelli จาก Monster Energy Yamaha MotoGP กลับออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถแซง Alex Marquez ที่คว้าโพลมาได้ จนเป็นผู้นำในการแข่งขัน Sprint Race จนกระทั่ง Binder สามารถแซงผ่าน Morbidelli ได้สำเร็จ

โดย 9 อันดับแรก เป็น Binder, Bezzecchi, Marini, Morbidelli, Alex Marquez, Francesco Bagnaiaจาก Ducati Lenovo Team, Aleix Espargaro และ Maverick Viñales จาก Aprilia Racing ปิดท้ายด้วย Jorge Martin จาก Prima Pramac Racing

เมื่อเหลืออีกสี่รอบ Binder นำอยู่ถึง 0.5 วินาที ขณะที่ Marini เบียดแซงหลัง Morbidelli อันดับ 2 ในขณะที่เราเห็น Aleix Espargaro พลาดล้มออกจากการแข่งขันไปโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้น Bezzecchi ตามเพื่อนร่วมทีม แซงผ่าน Morbidelli ครู่ต่อมาก็แซง Marini จนมาถึงรอบสุดท้าย ช่องว่างลดลงเหลือ 0.4 วินาที ระหว่าง Binder และ Bezzecchi จนผ่านเส้นชัย

ทำให้ Binder เป็นผู้ชนะ Tissot Sprint Race ในสนามที่ 2 แม้จะออกสตาร์ทจากอันดับที่ 15 ส่วน Morbidelli รั้งตำแหน่งที่ 4 โดยสามารถป้องกัน Alex Marquez เอาไว้ได้ ส่วน Bagnaia จบการแข่งขันในอันดับ 6 ส่วน Fabio Quartararo จาก Monster Energy Yamaha MotoGP™ จบการแข่งขันในอันดับที่ 8

 

ส่วนสถานการณ์ของ Repsol Honda Team ที่ขาด Marc Marquez เนื่องจากอาการบาดเจ็บในสนามที่แล้ว ในการแข่งขันสนามนี้ก็ต้องพลาดการเก็บแต้มไปเพราะ Joan Mir ที่ได้รับบาดเจ็บในช่วง Tissot Sprint Race พลาดล้มไปในรอบแรกโดยเจ้าตัวถูกส่งไปตรวจสุขภาพเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า และไม่ผ่านความฟิต ทำให้สนามนี้จะไม่มี 2 นักแข่งจาก Repsol Honda Team ลงทำการแข่งขัน

พอเข้าสู่ช่วงการแข่งขัน เนื่องจากมีฝนตกหนักขึ้นหลังจากการแข่งขัน Moto2 ทำให้การแข่งขันในรุ่น MotoGP ถูกประกาศเป็น Wet Race ทันทีที่ออกสตาร์ทกลายเป็น Bezzecchi นักบิดสัญชาติอิตาลีที่อาศัยจังหวะที่ดีกว่าขยับขึ้นเป็นมาเป็นผู้นำจากการคว้าโฮลช็อตจาก Alex Marquez ที่ออกตัวจากตำแหน่งโพล ส่วนผู้ชนะจาก Tissot Sprint Race อย่าง Brad Binder กลับต้องพลาดล้มจากการปะทะกันกับ Viñales แต่สามารถกลับเข้ามาแข่งขันต่อได้ ส่วน Quartararo ถูก Takaaki Nakagami จาก LCR Honda Idemitsu กระแทกจนหลุดออกจากโค้งไปในโค้งที่ 7 ทำให้หล่นมาอยู่ในอันดับที่ 16 

ไม่นานนัก Bezzecchi ก็ทิ้งห่าออกไปเรื่อยๆ จากนั้นในรอบที่ Alex Marquez และ Bagnaia ก็ต่อสู้กันเพื่อแย่งอันดับหลังจากพยายามอยู่หลายครั้งกลายเป็น Bagnaia ที่ทำได้ดีกว่า ในขณะที่ Morbidelli ก็ขยับเข้าใกล้ทั้งคู่ด้วยเช่นกัน แต่ผู้นำอย่าง Bezzecchi ก็ทำเวลาห่างออกไปถึง 5.6 วินาทีและกำลังจะคว้าชัยใน MotoGP ไปอย่างไม่ยากเย็น 

แต่แล้วดราม่าก็เกิดขึ้นในช่วงท้ายของรอบที่ 17 เมื่อ Bagnaia ที่อยู่ในอันดับที่ 2 กลับพลาดล้มไปแต่ก็ยกรถกลับเข้าทำการแข่งขันต่อได้ในอันดับที่ 16 นั่นทำให้ Alex Marquez กลับคืนสู่ตำแหน่งที่ 2 และ Morbidelli ตามมาเป็นที่ 3 แต่ใครจะคิดว่า Johann Zarco จาก Prima Pramac Racing จะขยับทำความเร็วได้ดีจนสามารถแซงผ่าน Morbidelli ได้และเป้าหมายต่อไปคือ Alex Marquez และในที่สุด Zarco ก็สามารถทำได้ในรอบสุดท้ายที่โค้งที่ 5 โดยที่ Alex Marquez ไม่สามารถทำอะไรได้

หลังจากนั้น Bezzecchi ก็เข้าสู่โค้งสุดท้ายและผ่านเข้าเส้นชัยในฐานะผู้ชนะการแข่งขัน MotoGP และผู้นำคะแนนสะสม โดยมี Zarco และ Alex Marquez ตามมา และนี่ถือเป็นการขึ้นโพเดี้ยมของ Ducati ที่เป็นทีมแซทเทิลไลท์ทั้งหมด ในขณะที่ Bagnaia และ Binder สอง 2 นักแข่งที่ล้มแล้วกลับมาแข่งขันต่อเข้าเส้นชัยด้วยอันดับที่ 16 และ 17 ตามลำดับ

สนามถัดไปนั้นคือ Americas GP ในรายการ Red Bull Grand Prix of The Americas ที่สนาม Circuit of The America 

 

 

ด้านนักแข่งไทยใน Moto2 อย่าง ก้อง-สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดขวัญใจชาวไทยจากโครงการ Honda Race To The Dream เจ้าของหมายเลข 35 จาก IDEMITSU Honda Team Asia ในสนามนี้เริ่มต้นสุดสัปดาห์ได้อย่างยอดเยี่ยมในการซ้อมครั้งแรกของรุ่น ซึ่งมีเวลาให้ลงสนามเพียง 20 นาที หลังมีฝนปรอยลงมาในช่วงต้นเซสชัน โดยรั้งอันดับ 2 จากการซ้อมรอบ P1 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 44.243 วินาที ตามหลังหัวแถวเพียง 0.058 วินาที ก่อนจะยกระดับผลงานได้อย่างร้อนแรงในการซ้อมครั้งที่ 2 กดเวลาเร็วที่สุดได้แทบทุกรอบของการซ้อม รั้งอันดับ 5 ของตารางรวมด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 43.298 วินาที ตามหลังหัวแถวเพียง 0.126 วินาทีเท่านั้น สร้างโอกาสลุ้นโพเดียมอย่างเต็มตัวที่อาร์เจนตินาหลังจากเคยคว้าอันดับ 2 ในสนามแห่งนี้เมื่อปีที่ผ่านมา

ก้อง-สมเกียรติ ผลงานยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง บิดฝ่าสภาพแทร็กชื้น ทะยานคว้าอันดับ 2 ในการซ้อมครั้งสุดท้ายของศึก Moto2 ลอยลำเข้าสู่การควอลิฟายรอบ Q2 ในอันดับท็อปไฟว์แบบอัตโนมัติ ด้วยเวลา 1 นาที 43.298 วินาที (ทำได้ในรอบ FP2) และกดเวลาคว้าอันดับ 3 ในรอบควอลิฟายด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 42.520 วินาที

เร็วกว่าสถิติตลอดกาลของปีที่ผ่านมา ตามหลังเจ้าของโพลเพียง 0.048 วินาทีเท่านั้น ส่งผลให้ ก้อง-สมเกียรติ ได้ออกสตาร์ทจากแถวหน้า สร้างโอกาสลุ้นคว้าโพเดียมและคว้าชัยชนะอย่างมากในสนามนี้ โดยนักบิดไทยมีการซ้อมจำลองการแข่งขันด้วยความเร็วคงที่อันยอดเยี่ยม

รอบการแข่งขัน ก้อง-สมเกียรติ ออกสตาร์ทจากอันดับ 3 แล้วหล่นลงไป ออกตัวได้ดี ทว่าหลังผ่านไป 7 โค้งกลับสัมผัสนักบิดคนอื่นส่งผลให้เสียจังหวะลงไปอันดับ 10 ก่อนจะไต่ขึ้นมารั้งอันดับ 2 ได้ในรอบถัดมา โดยแทร็กที่ชุ่มไปด้วยฝน สร้างปัญหาให้นักบิดทุกคนอย่างมาก อย่างไรก็ดี เจ้าตัวฮึดสู่ไล่แซงคู่แข่ง 3 คันขึ้นมาเข้าป้ายในอันดับ 7 แต่โดนปรับโทษ จากการเกินแทร็กลิมิตในรอบสุดท้าย ส่งผลให้คว้าอันดับ 8 ไปครองด้วยเวลา 26 นาที 39.364 วินาที เดินหน้าเก็บแต้มได้อีกครั้ง หลังผ่าน 2 สนามแรก รั้งอันดับ 9 บนตารางแชมเปี้ยนชิพเก็บไปทั้งสิ้น 15 คะแนน ด้าน ไอ โอกุระ ทีมเมทของก้อง-สมเกียรติ ไม่ลงทำการแข่งขันเนื่องจากแทร็คเปียกกลัวว่าจะได้รับบาดเจ็บมากขึ้น

ที่มา : MotoGP