ศึกสองล้อชิงแชมป์เอเชียฤดูกาลใหม่รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2023 เปิดฉากดวลความเร็วสนามแรกอย่างเป็นทางการ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ หลังทัพนักบิด ดีกรีระดับโลกลงประเดิมสนามอย่างเข้มข้น ผลรุ่นใหญ่ ซัควาน ไซดี้ แชมป์เก่าชาวมาเลเซียครองจ่าฝูงเหนือ มาร์คัส ไรเตอร์แบร์เกอร์ นักบิดเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ ชาวเยอรมัน ขณะนักบิดไทยฟอร์มร้อนแรง ชิพ-นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ กอดคอ โฟลท-รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม รั้งท็อปทรีในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต
โดยผลการซ้อมในรุ่นใหญ่ที่สุดของเอเชียอย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (ASB1000) หลังผ่านการซ้อม 3 ครั้ง ปรากฏว่า ซัควาน ไซดี้ แชมป์เก่าชาวมาเลเซียจาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท โชวะ ทะยานขึ้นรั้งจ่าฝูงด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 35.486 วินาที เฉือนนักบิดระดับเวิลด์ซูเปอร์ไบค์อย่าง มาร์คัส ไรเตอร์แบร์เกอร์ จาก วันซ็อกซ์ เอ็กซ์ บีเอ็มดับเบิลยู ทีเคเคอาร์ ทีม อันดับ 2 เพียง 0.137 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ นักบิดอินโดนีเซียแชมป์เอเชียในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต จาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท โชวะ ตามหลัง 0.319 วินาที
ขณะนักบิดไทยอย่าง แชมป์-ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ จาก แอสเตโม เอสไอ เรซซิ่ง วิท ไทย ฮอนด้า รั้งอันดับ 6 ตามหลังจ่าฝูง 0.593 วินาที ตามด้วย เคเคซัง-เขมินท์ คูโบะ อดีตนักบิดโมโตทูชาวไทยจาก ยามาฮ่า เจน บลู เรซซิ่ง ทีม เอเชียน รั้งอันดับ 8 ตามหลัง 1.190 วินาที ส่วน บอล-จักรกฤษณ์ แสวงสวาท จาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม จบวันแรกในอันดับ 9 ตามหลังจ่าฝูง 1.361 วินาที
ส่วนสถานการณ์ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS600) ปรากฏว่าอดีตนักบิดโมโตทรีชาวมาเลเซียอย่าง ไครูล อิดฮาม ปาวี จาก บุนซิว ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม รั้งจ่าฝูงวันแรกหลังผ่านการซ้อม 3 ครั้ง ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 39.204 วินาที
เฉือนนักบิดไทยอย่าง ชิพ-นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ อันดับ 2 เพียง 0.026 วินาที ตามด้วย โฟลท-รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ อดีตแชมป์ในรุ่นนี้จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ในอันดับ 3 ตามหลัง 0.202 วินาที ส่วนนักบิดไทยอีกคนอย่าง นิว-ปัณณสรณ์ แก้วสนธิ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ รั้งอันดับ 6 ตามหลังจ่าฝูง 0.272 วินาที
ด้านผลการซ้อมรวม 3 ครั้ง ในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี (AP250) ปรากฏว่า เฮอร์จุน แอทน่า เฟอร์ดาอุส นักบิดดาวรุ่งชาวอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม รั้งจ่าฝูงด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 50.661 วินาที เฉือนทีมเมทอย่าง เรซ่า ดานิก้า อาห์เรนส์ เพียง 0.111 วินาทีเท่านั้น
ขณะที่นักบิดดาวรุ่งชาวไทยอย่าง ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พฤฒิสาร จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ รั้งอันดับ 3 ตามหลัง 0.443 วินาที ตามด้วยทีมเมทรุ่นพี่อย่าง มุกข์-มุกข์ลดา สารพืช ในอันดับ 5 ตามหลัง 0.813 วินาที
ส่วนผลซ้อมในรุ่น ทีวีเอส เอเชีย วันเมคเรซ แชมเปี้ยนชิพ หลังผ่านการซ้อม 2 ครั้งปรากฏว่านักบิดไทยอย่าง ฟิล์ม-ปิยวัฒน์ ประทุมยศ สร้างผลงายยอดเยี่ยมทะยานรั้งจ่าฝูงด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 50.012 วินาที เหนือ มูซัคเคียร์ โมฮัมเหม็ด นักบิดมาเลเซีย 0.842 วินาที ตามด้วย แรมดัน รอสลี นักบิดมาเลเซียในอันดับ 3 ตามหลัง 1.396 ด้านแชมป์เก่าชาวไทยอย่าง เอ้-วรพงศ์ มาลาหวล รั้งอันดับ 4 ตามหลัง 1.398 วินาที
พอถึงช่วงเรซที่ 1 ไฮไลต์อยู่ที่เกมในรุ่นใหญ่ที่สุดของเอเชียอย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี ที่รวมเอานักบิดแถวหน้าของเอเชียไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ยังมียอดนักบิดระดับโลกอย่าง มาร์คัส ไรเตอร์แบร์เกอร์ อดีตนักบิดเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ เข้าร่วมแข่งขันด้วย โดยเกมในกลุ่มนำไล่บดกันถึงรอบสุดท้ายก่อนที่ ฮารูกิ โนงูชิ ยอดนักบิดญี่ปุ่นจาก เอสดีจี เอ็มเอส ฮาร์ค-โปร ฮอนด้า ฟิลิปปินส์ จะผงาดคว้าชัยชนะไปครองด้วยเวลา 20 นาที 54.882 วินาที เฉือนจอมเก๋าชาวมาเลเซียอย่าง อาซลัน ชาห์ จาก วันซ็อกซ์ เอ็กซ์ บีเอ็มดับเบิลยู ทีเคเคอาร์ ทีม ที่ไล่จากท้ายแถวขึ้นมาอย่างสุดโหด ตามหลังผู้ชนะเพียง 0.685 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของแชมป์เก่าอย่าง ซัควาน ไซดี้ นักบิดมาเลเซียจาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท โชวะ ตามหลัง 0.816 วินาที ด้าน ไรเตอร์แบร์เกอร์ จบเรซในอันดับ 4 ตามหลัง 1.834 วินาที ส่วน แชมป์-ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ นักบิดไทยจาก แอสเตโม เอสไอ เรซซิ่ง วิท ไทย ฮอนด้า จบเรซในอันดับ 6 ตามหลัง 6.729 วินาที ตามด้วย บอล-จักกฤษณ์ แสวงสวาท จาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม ในอันดับ 7 ตามหลัง 13.855 วินาที ขณะที่ เคเคซัง-เขมินท์ คูโบะ นักบิดไทยจาก ยามาฮ่า เจน บลู เรซซิ่ง ทีม เอเชียน เข้าป้ายอันดับ 9 ตามหลัง 27.504 วินาที
ขณะที่เกมในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ถือเป็นรุ่นที่เรียกเสียงเฮจากแฟนความเร็วชาวไทยได้อย่างมาก การตัดสินผู้ชนะต้องมาวัดกันถึงโค้งสุดท้าย โดยชัยชนะตกเป็นของ ไครุล อิดฮาม ปาวี นักบิดมาเลเซียจาก บุนซิว ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ด้วยเวลาต่อรอบ 20 นาที 3.796 วินาที
เฉือน ชิพ-นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ นักบิดไทยจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ อันดับ 2 เพียง 0.286 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ เฮลมี อัซมาน นักบิดมาเลเซียจาก บุนซิว ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 0.390 วินาที ด้าน โฟลท-รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ อดีตแชมป์ในรุ่นนี้จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม คว้าอันดับ 7 ตามหลัง 6.187 วินาที
ด้านผลในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ปรากฏว่า 3 นักบิดอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม กวาดโพเดี้ยมไปครอง โดยผู้ชนะเป็นของ เรซ่า ดานิก้า อาห์เรน ด้วยเวลา 18 นาที 37.710 วินาที ตามด้วย วีด้า เอก้า พราทาม่า อันดับ 2 ตามหลัง 0.929 วินาที และ เฮอร์จุน แอทน่า เฟอร์ดาอุส ในอันดับ 3 ตามหลัง 7.949 วินาที ส่วนนักบิดไทยพลาดโพเดี้ยมอย่างเฉียดฉิว มุกข์-มุกข์ลดา สารพืช จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เข้าป้ายอันดับ 4 ตามหลัง 7.965 วินาที
นอกจากนี้ ยังมีหนึ่งในการแข่งขันที่สร้างรอยยิ้มให้แฟนความเร็วชาวไทย หลังจากที่ เอ้-วรพงศ์ มาลาหวล นักบิดมากประสบการณ์ผงาดคว้าชัยชนะโฮมเรซในศึก ทีวีเอส วันเมคเรซ แชมเปี้ยนชิพ เรซแรก ด้วยเวลา 14 นาที 55.442 วินาที เฉือนดาวรุ่งชาวไทยอย่าง ฟิล์ม-ปิยวัฒน์ ประทุมยศ อันดับ 2 เพียง 0.140 วินาที อันดับ 3 เป็นของ ไทโยะ ไซโตะ นักบิดญี่ปุ่น ตามหลัง 4.314 วินาที
หลังผ่านเรซ 1 ในวันเสาร์กับการขับเคี่ยวที่เข้มข้นของทุกรุ่น ส่งผลให้อุณหภูมิการแข่งขันในวันอาทิตย์ ซึ่งจะเป็นเรซส่งท้ายสุดสัปดาห์นั้นทวีความมันขึ้นอย่างมาก โดยในเรซนี้ทัพนักบิดชาวไทยในทุกคลาส สร้างโอกาสลุ้นชัยชนะและโพเดียมอย่างเต็มตัว
โดยไฮไลต์ของเกมในวันอาทิตย์ถูกยกให้เป็นของรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เมื่อนักบิดไทยในรุ่นนี้สร้างผลงานอย่างร้อนแรง โดย ชิพ-นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีชาวไทยจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ผงาดคว้าชัยชนะครั้งแรกของปีในโฮมเรซได้สำเร็จ
ด้วยเวลาต่อรอบ 20 นาที 2.187 วินาที เฉือนคู่แข่งคนสำคัญอย่าง ไครุล อิดฮาม ปาวี นักบิดมาเลเซียจาก บุนซิว ฮอนด้า เรซซิ่ง เพียง 0.105 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ โซชิโร่ มินามิโมโตะ นักบิดญี่ปุ่นจาก ยามาฮ่า เจน บลู เรซซิ่ง ทีม เอเชียน ตามหลัง 3.530 วินาที ขณะที่ นิว-ปัณณสรณ์ แก้วสนธิ นักบิดไทยอีกคนจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ จบเรซในอันดับ 6 ตามหลัง 6.668 วินาที ตามด้วย โฟลท-รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ในอันดับ 7 ตามหลัง 6.923 วินาที
เกมในรุ่นใหญ่อย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซึ่งต้องตัดสินกันถึงโค้งสุดท้ายในเรซแรก ยังคงต้องลุ้นกันอย่างหนักโดยผลปรากฏว่า ฮารูกิ โนกูชิ ยอดนักบิดญี่ปุ่นจาก เอสดีจี เอ็มเอส ฮาร์ค-โปร ฮอนด้า ฟิลิปปินส์ พลิกแซงโค้งสุดท้ายคว้าชัยชนะ 2 เรซติดต่อกันด้วยเวลา 20 นาที 57.031 วินาที เฉือนแชมป์เก่าอย่าง ซัควาน ไซดี้ นักบิดมาเลเซียจาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท โชวะ เพียง 0.196 นาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ อาซลัน ชาห์ จาก วันซ็อกซ์ เอ็กซ์ บีเอ็มดับเบิลยู ทีเคเคอาร์ ทีม ตามหลัง 0.607 วินาที ส่วน แชมป์-ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ นักบิดไทยจาก แอสเตโม เอสไอ เรซซิ่ง วิท ไทย ฮอนด้า ออกสตาร์ทเรซในอันดับ 4 ก่อนโชว์ฟอร์มเยี่ยมจบเรซในอันดับ 5 ตามหลังผู้ชนะเพียง 3.060 วินาทีเท่านั้น ตามด้วย เคเคซัง-เขมินท์ คูโบะ นักบิดไทยจาก ยามาฮ่า เจน บลู เรซซิ่ง ทีม เอเชียน ในอันดับ 8 ตามหลัง 16.138 วินาที ด้าน บอล-จักรกฤษณ์ แสวงสวาท จาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม เข้าป้ายอันดับ 11 ตามหลัง 27.488 วินาที
ด้านผลในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ปรากฏว่า นักบิดอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม อย่าง เรซ่า ดานิก้า อาห์เรน ยังคงอยู่ในฟอร์มร้อนแรงออกนำโด่งคว้าชัย 2 เรซติดต่อกัน ด้วยเวลา 18 นาที 38.595 วินาที ขณะที่ 2 นักบิดไทยอย่าง ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พฤฒิสาร ดาวรุ่งจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ และทีมเมทรุ่นพี่ มุกข์-มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวต่อสู้อย่างดุเดือดก่อนบิดเข้าป้ายในอันดับ 2 และ 3 ตามหลังผู้ชนะ 8.832 วินาที และ 8.868 วินาที
อีกหนึ่งรุ่นที่สร้างเสียงเฮให้แฟนชาวไทยได้อย่างคึกคัก คือการแข่งขันในรุ่น ทีวีเอส วันเมค แชมเปี้ยนชิพ เรซที่ 2 ซึ่งแชมป์เก่าชาวไทยอย่าง เอ้-วรพงศ์ มาลาหวล สร้างผลงานระดับมาสเตอร์ ผงาดคว้าชัยชนะไปครอง 2 เรซติดต่อกัน ด้วยเวลา 14 นาที 56.268 วินาที เฉือน ฟูโกะ ทานากะ นักบิดญี่ปุ่นอันดับ 2 เพียง 0.001 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ เด็คกี้ เทียร์โน อัดลี นักบิดอินโดนีเซีย ตามหลัง 0.255 วินาที
สำหรับการแข่งขัน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2023 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 พฤษภาคมนี้ ที่ สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ส่วน สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ยังคงถูกวางเป็นสนามสุดท้ายในการตัดสินแชมป์ประจำปี ระหว่างวันที่ 1-3 ธันวาคมนี้