ดูคาติ ประเทศไทย ส่ง 3 รุ่นไฮไลท์ใหม่เร้าใจไบค์เกอร์ใน มอเตอร์โชว์ 2023 เริ่มจาก
Ducati Diavel V4 บิ๊กไบค์สายสปอร์ตครุยเซอร์ จัดเต็มด้านเทคโนโลยี โดดเด่นกับเครื่องยนต์ตัวใหม่ V4 Granturismo รุ่นต่อไป Monster SP ได้รับการถ่ายทอด DNA และเทคโนโลยีจากสนามแข่ง โดยเติมประสิทธิภาพการขี่ขั้นสูงให้กับเหล่าไบค์เกอร์ได้อัพสกิลกันอย่างเต็มที่ และสุดท้ายกับ Ducati Desert X Black สีใหม่ที่ดุดันมากกว่าเดิม เป็น รุ่นที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
นายดอม เหตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด กล่าวว่า “ดูคาติ ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าคัดสรรบิ๊กไบค์ที่มีความโดดเด่นทั้งดีไซน์และเทคโนโลยี มาให้เหล่าดูคาทีสต้า ได้มีประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยในงาน Bangkok International Motor Show 2023 ควบคู่กับโปรโมชั่นและข้อเสนอโดนๆ ในส่วนของผลิตภัณฑ์ เราจะนำ Ducati Diavel V4, Monster SP และ Ducati Desert X Black ที่มีการปรับโฉมและปรับเครื่องมาใหม่ล่าสุด มาสร้างความเร้าใจให้กับเหล่าไบค์เกอร์ พร้อมกับราคาที่เรียกว่าต้องห้ามพลาด เพราะคุ้มสุดๆ อีกด้วย”
Ducati Diavel V4 สปอร์ตครุยเซอร์ที่มีความหรูหรา มาพร้อมเครื่องยนต์ตัวใหม่ ดีไซน์ยังคงเอกลักษณ์ความดุดัน แข็งแกร่ง เพิ่มเติม คือความหรูหราและมีเสน่ห์ดึงดูดทุกสายตา เริ่มจากไฟหน้าใหม่เดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ รูปทรงตัว C แบบคู่ พร้อมไฟท้ายแบบ LED ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร แถมความพิเศษ คือ เมื่อเบรกฉุกเฉินไฟท้ายจะกระพริบเตือนคันหลังทันที ทำให้ผู้ขับขี่สบายใจเพิ่มขึ้น ไฟเลี้ยวแบบไดนามิกติดตั้งอยู่ที่แฮนด์บาร์บริเวณด้านหน้าของปั๊มเบรกและปั๊มคลัตช์ ส่วนยางหลัง Diavel V4 ใช้รุ่น Pirelli Rosso III ขนาด 240/45 รัดบนล้ออัลลอยลาย 5 ก้าน
จุดเด่นใหม่ปลายท่อไอเสียแยก 4 ทาง ทำให้ได้เสียงดุดัน แสดงถึงเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์ V4 ส่วนที่พักเท้าคนซ้อนสามารถพับเก็บซ่อนได้
ความยอดเยี่ยมของ Ducati Diavel V4 คือ เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1,158 ซีซี 168 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 126 นิวตันเมตร ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ใช้ชื่อว่า V4 Granturismo เป็นเครื่องตัวเดียวกับ Mulstistrada V4 แต่ได้รับการปรับจูนให้เข้ากับสไตล์รถ “เครื่องยนต์ V4 Granturismo ยังมีระบบเปิดปิดการทำงานกระบอกสูบ โดยระบบจะตัดการทำงานของ 2 สูบหลัง ตามความเหมาะสม เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิง ช่วยประหยัดน้ำมัน” ด้านระบบช่วงล่างได้รับการปรับปรุงใหม่ โช้คหน้า USD ขนาด 50 มิลลิเมตร ระยะยุบตัวอยู่ที่ 120 มิลลิเมตร และหลัง 145 มิลลิเมตร ความสูงเบาะนั่ง 790 มิลลิเมตร และสามารถปรับองศาแฮนด์บาร์ให้ลีนใกล้ได้อีก 20 มิลลิเมตร เพื่อความเหมาะสมกับสรีระที่แตกต่างกัน ระบบเบรก Brembo คาลิปเปอร์เบรกหน้า Brembo Stylema พร้อมดิสก์เบรกคู่ขนาด 330 มิลลิเมตร
หน้าจอแสดงผลเป็น TFT ขนาด 5 นิ้ว มีฟังก์ชันพื้นฐานต่างๆ ครบครัน โดยเฉพาะ Cruise Control หรือระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ช่วยให้การขี่ทางไกลสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยออกตัว ควิกชิฟเตอร์ เพิ่มอารมณ์ขี่แบบสปอร์ตได้สนุกมากขึ้น Ducati Diavel V4 มีระบบการขับขี่ 4 โหมด ได้แก่ Sport, Touring, Urban และโหมดใหม่ Wet ระบบแทรคชั่นคอนโทรล ระบบเบรก Cornering ABS และระบบ Wheelie control มีให้เลือก 2 สี คือ แดง Ducati Red และสีดำ Thrilling Black มีราคาเริ่มต้น 1,299,000 บาท
อีกรุ่นไฮไลท์คือ
Monster SP ที่ถูกปรับลดน้ำหนักเพื่อขี่สนุกมากขึ้น และได้เพิ่มเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยเข้าไปอีก สำหรับรหัส SP หมายถึงรุ่นที่มีการปรับปรุงสมรรถนะเพื่อการขี่ขั้นสูง ปัจจุบันมีเพียง Panigale V4 SP และ Streetfighter V4 SP จึงนับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่รหัส SP ถูกนำมาใช้งานบนตัวรถ 2 สูบ อย่าง Monster SP โดยตัวรถรุ่นนี้เน้นประสิทธิภาพช่วงล่าง การลดน้ำหนัก และการควบคุมเป็นหลัก ส่วนเครื่องยนต์เหมือน Monster รุ่นมาตรฐาน Testastretta 11° ขนาด 937 ซีซี 111 แรงม้า แต่มาพร้อมชุดท่อไอเสีย Termignoni แบบปลายคู่ ระบบกันสะเทือนหน้า-หลังใช้ Ohlins กระบอกทองขนาด 43 มิลลิเมตร แบบ USD ความสูงโดยรวมของตัวรถ 810 มิลลิเมตร
ระบบเบรกหน้าใน Monster SP ถูกอัพเกรดคาลิปเปอร์ Brembo Stylema รุ่นเดียวกับรุ่นพี่ อย่าง Panigale V4 จานเบรกหน้าคู่ขนาด 320 มิลลิเมตร New Monster SP ใช้ชุดสีถังน้ำมันทูโทน ดำ-แดง, ชุดเบาะนั่งสีแดง, ครอบเบาะท้ายสไตล์สปอร์ตตรงรุ่น, ชุดกันสะบัดติดรถ, ครอบไฟหน้าสี SP การปรับเปลี่ยนระบบกันสะเทือนใหม่ ทำให้เกิดระยะห่างจากพื้นที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ระบบไฟส่องสว่างแบบ LED รอบคัน, หน้าจอสี TFT ขนาด 4.3 นิ้ว, โหมดการขับขี่ 3 แบบ Sport/Road/Wet ระบบตัวช่วยเหลือการขับขี่ และระบบความปลอดภัยต่างๆ ดูคาติ ก็ยังคงให้มาอย่างจัดเต็ม อาทิ Cornering ABS, Ducati Traction Control, Ducati Wheelie Control, Ducati Quick Shift up/down เหมือนรุ่นปกติ “ Monster SP มีน้ำหนักเพียง 166 กิโลกรัม หรือ 186 กิโลกรัม หากรวมของเหลว ซึ่งหากเทียบกับ Monster 937 ตัวเก่าจะเบากว่าเดิม 2 กิโลกรัม ราคา Monster SP อยู่ที่ 619,000 บาท”
ไฮไลท์สุดท้าย
Ducati Desert X ซึ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ในงานนี้ได้เพิ่ม
Ducati Desert X Black ซึ่งเป็นสีพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถต้นแบบ Motorsport Audi RS Q e-tron ที่ใช้แข่งบนเส้นทางหฤโหดของการแข่งขัน Dakar Rally โดยมีราคาที่ 649,000 บาท
สนใจจองรุ่นที่ชอบได้ที่บูธดูคาติ ในงาน Bangkok International Motor Show 2023 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี หรือติดต่อที่โชว์รูมดูคาติทุกสาขา
บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด ผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายดูคาติอย่างเป็นทางการรายเดียวของประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 มีโชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศจำนวน 7 แห่ง ลูกค้าที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.ducati.com/th โชว์รูมและศูนย์บริการ Ducati Bangkok สาขาสุวรรณภูมิ และสาขาประดิษฐ์มนูธรรม เปิดให้บริการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด ตั้งแต่ 8.30 – 17.30 น. หรือโทรนัดหมายได้ที่
- Ducati Bangkok (ดูคาติ สุวรรณภูมิ) โทร. 02-737-8787
- Ducati Bangkok (ดูคาติ ประดิษฐ์มนูธรรม) โทร. 02-021-1888
- Ducati Ratchapruek (ดูคาติ ราชพฤกษ์) โทร. 02-076-7888
- Ducati Khonkaen (ดูคาติ ขอนแก่น ) โทร. 043-046-8888
- A.N.T. Motorsport (ดูคาติ พิษณุโลก) โทร. 061-864-9999
- Sirichai Motorsales (ดูคาติ ลพบุรี) โทร. 036-740-421
- Hatyai Automobile (ดูคาติ ภูเก็ต) โทร. 088-757-4129