ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถมอเตอร์ไซค์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

BMW MOTORRAD จัด S 1000 RR ใหม่ กับ R 18 B และ R 18 Transcontinental มาให้สัมผัสในงานมอเตอร์โชว์ 2023

ข่าว icon 16 มี.ค. 66 icon 1,174
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เดินทัพสู่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 อีกครั้งกับหลากหลายยนตรกรรมล้ำสมัยพร้อมการออกแบบชั้นเลิศ เตรียมเสนอสุดยอดรุ่นยานยนต์ศาสตร์แห่งศิลป์ที่พร้อมเติมเต็มทุกความต้องการ สอดคล้องแนวคิด Colourful Experiences ประสบการณ์ครบทุกสีสัน ของการจัดงานในปีนี้ และความมุ่งมั่นในการมอบพลังแห่งทางเลือกให้กับลูกค้าสู่งานมอเตอร์โชว์ 2023 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 ณ อาคาร Impact Challenger Hall 1-3 เมืองทองธานี
นำทัพมาด้วย S 1000 RR ใหม่ ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปราดเปรียวยิ่งกว่าและสมรรถนะที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ด้าน R 18 B และ R 18 Transcontinental มอบประสบการณ์ทัวริ่งสุดหรูผสมผสานเครื่องยนต์ ‘บิ๊กบ็อกเซอร์’ อันทรงพลังเข้ากับดีไซน์สุดคลาสสิกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นมอเตอร์ไซค์ในตำนาน
R 18 B
 
R 18 Transcontinental
พร้อมสร้างความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าที่ซื้อมอเตอร์ไซค์ทุกรุ่นด้วยการรับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทางและบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินหรือ โมบิลิตี้ เซอร์วิส เป็นระยะเวลา 5 ปี* นอกจากนี้ ในครั้งนี้มาให้เลือกกับสีสันที่หลากหลายยิ่งขึ้น และร่วมเฉลิมฉลองการครบรอบ 100 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และความหลงใหลในการ Make Life a Ride ไปกับนิทรรศการพิเศษที่ผู้เข้าชมงานมอเตอร์โชว์ 2023 จะได้โลดแล่นไปด้วยกันกับการเดินทางจากอดีตสู่อนาคตของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด พร้อมสัมผัสมอเตอร์ไซค์รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น กับ BMW R 18 100 YEARS ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีนี้โดยเฉพาะ
 
มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดปีที่ผ่านมา แม้เราต้องเผชิญกับปัจจัยเศรษฐกิจที่ท้าทายมากมาย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงยืนหยัดรักษาตำแหน่งและความมุ่งมั่นของเราเสมอมา และเป็นอีกครั้งที่เราสามารถก้าวเข้ามาสู่แนวหน้าของเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียมได้อย่างภาคภูมิเป็นปีที่สามติดต่อกัน ซึ่งความสำเร็จนี้เป็นไปได้เพราะลูกค้าทุก ๆ คนที่มอบความไว้วางใจให้กับเรา อย่างที่เห็นได้จากคะแนน Net Promoter Score ด้านการขายและการให้บริการที่มากขึ้น ความมุ่งมั่นของเราต่อปรัชญาพลังแห่งทางเลือกในฐานะกลยุทธ์หลักของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงแข็งแกร่งไม่สั่นคลอน ด้วยไลน์อัพรุ่นยนตรกรรมที่เราเลือกนำมาสู่งานมอเตอร์โชว์ 2023 เราพร้อมเสนอผลิตภัณฑ์ ระบบขับเคลื่อน และการให้บริการที่หลากหลาย ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างของลูกค้าได้ ยิ่งไปกว่านั้น เรายังคงมุ่งยกระดับประสบการณ์ลูกค้าผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะได้รับการบริการที่น่าประทับใจและสะดวกสบายยิ่งขึ้น และสามารถเข้าถึงการบริการของเราได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยระบบการจองรถแบบออนไลน์ทาง https://shop.bmw.co.th ที่ได้รับการพัฒนาให้ลูกค้าสามารถปรับแต่ง เลือกสีภายนอก ภายใน รวมถึงเลือกผู้จำหน่ายรถยนต์ที่สะดวก และบริการทางการเงินที่เหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด”

“ทั้งนี้ ปีนี้ยังเป็นปีพิเศษที่เราจะได้เฉลิมฉลองการครบรอบ Make Life a Ride 100 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ที่เราหวังว่าผู้เข้าชมงานจะดำดิ่งไปกับประวัติศาสตร์แห่งความหลงใหล การผจญภัย วิสัยทัศน์ และความสำเร็จอันยาวนานของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ผ่านนิทรรศการพิเศษที่เรานำมาจัดภายในงานมอเตอร์โชว์ 2023 ที่บูธ M8/1A”

ไฮไลท์รถ BMW Motorrad ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44

BMW S 1000 RR ใหม่

ราคาจำหน่าย : ราคาโดยประมาณ 950,000 – 1,150,000 บาท (รอประกาศราคาอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้)

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เตรียมเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ซูเปอร์สปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2552 S 1000 RR ใหม่ มาพร้อมคุณสมบัติเหนือชั้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น แชสซีและระบบช่วงล่างที่เหนือชั้นกว่าที่เคย ระบบ Brake Slide Assist ใหม่ ระบบควบคุม Dynamic Traction Control ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นควบคุมการลื่นไถล (Slide Control) การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมยิ่งขึ้นด้วยวิงเล็ท ส่วนท้ายที่โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นกว่าเดิม และอีกหลากหลายระบบช่วยเหลือล้ำสมัย คุณสมบัติดังกล่าวช่วยสร้างไดนามิกการขับขี่ที่เหนือชั้น พร้อมมอบสมรรถนะขั้นสูงสุดและประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใครให้แก่เหล่านักบิด 
S 1000 RR ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน 4 วาล์วไทเทเนียมต่อลูกสูบ DOHC และ BMW ShiftCam ความจุ 999 ซีซี ส่งพละกำลัง 210 แรงม้า ที่ 13,750 รอบต่อนาที ให้ความเร็วสูงสุดที่ 303 กิโลเมตร/ชั่วโมง แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร ที่ 11,000 รอบต่อนาที ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการขับขี่และการเร่งขณะขับขี่ที่ความเร็วต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 6.4 ลิตร/ 100 กิโลเมตร และรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงไร้สารตะกั่วค่าออกเทน 95-98
หนึ่งในไฮไลท์ของ S 1000 RR ใหม่ คือโครงสร้างตัวถังแบบ Flex Frame แชสซีที่ได้รับการพัฒนาใหม่ และการตั้งค่าระบบช่วงล่างใหม่ โดยมาพร้อมโครงสร้างเฟรมอลูมิเนียมจากการเชื่อมชิ้นส่วนอลูมิเนียม 4 ชิ้นที่ผ่านกระบวนการหล่อขึ้นรูปด้วยแรงโน้มถ่วง (Gravity Die Casting) และผสานโครงสร้างเครื่องยนต์เข้าไว้ด้วยกัน โดยมีช่องเปิดบริเวณด้านข้างของเฟรมหลักเพื่อเสริมความคล่องตัวด้านข้าง และสำหรับแชสซีใหม่ยังได้รับการพัฒนาในด้านความแม่นยำในการขับขี่ การควบคุมที่เฉียบคม และการตอบสนองจากล้อหน้าที่ฉับไวยิ่งขึ้น
ทั้งยังสามารถรองรับสไตล์การขับขี่ที่หลากหลาย ทั้ง 4 รูปแบบการขับขี่พื้นฐาน ได้แก่ Rain, Road, Dynamic และ Race อีกทั้งยังมาพร้อมโหมดการขับขี่แบบโปร ให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนการควบคุมต่าง ๆ ให้ตรงกับรูปแบบการขับขี่เฉพาะตัว ทำงานร่วมกับระบบ Dynamic Traction Control ที่มาพร้อมฟังก์ชั่น Slide Control ใหม่ ที่สามารถให้ผู้ขับขี่เลือกการตั้งค่าการดริฟท์ได้สองระดับขณะเร่งออกจากโค้ง ทำงานโดยใช้การตรวจจับจากเซนเซอร์ควบคุมองศาการเลี้ยว ซึ่งเมื่อตรวจจับการเอียงรถได้ ระบบ Dynamic Traction Control จะปล่อยให้ล้อหลังลื่นไถลเพื่อให้เกิดการดริฟท์ขณะออกจากโค้ง และเมื่อถึงระดับที่ได้ตั้งค่าไว้ ระบบจะทำงานเพื่อลดการลื่นไถลของล้อและสร้างเสถียรภาพให้แก่ตัวรถ
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบ ABS Pro ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ Brake Slide Assist ซึ่งมีความสำคัญและสามารถช่วยเหลือผู้ขับขี่ขณะอยู่ในสนามแข่งได้เป็นอย่างมาก ทำงานด้วยเซนเซอร์ควบคุมองศาการเลี้ยวคล้ายกับฟังก์ชั่น Slide Control ในระบบ Dynamic Traction Control ให้ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าระดับการดริฟท์ สำหรับการดริฟท์โดยใช้เบรก (Braking drift) ขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วอย่างคงที่ และยังมาพร้อมระบบ Hill Start Control ช่วยออกตัวในทางลาดชัน ในขณะที่ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติยังช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาความเร็วรถให้คงที่ได้ นอกจากนั้น ระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์ Gear Shift Assistant Pro ยังช่วยให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลงได้เกือบทุกช่วงน้ำหนักบรรทุกและช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์โดยไม่ต้องควบคุมคลัตช์ ระบบทำความร้อนที่แฮนด์ยังช่วยป้องกันมือชาและความเมื่อยล้า เมื่อขับขี่ไปในในสภาพอากาศที่หนาวเย็น
S 1000 RR ใหม่ ยังมีเอกลักษณ์ใหม่ที่สืบทอดจากรุ่น M RR โดยมาพร้อมวิงเล็ท เพื่อช่วยเสริมแรงกดบนล้อหน้า โดยเฉพาะขณะเร่งความเร็ว ซึ่งวิงเล็ทนี้จะช่วยเสริมแรงกดอากาศและน้ำหนักบนล้อหน้า และยังมาพร้อมโครงสร้างแชสซีแบบ M Chassis Kit ที่มีการยกด้านท้ายรถสูงขึ้น และสวิงอาร์มที่สามารถปรับหมุนได้ พร้อมด้วยแบตเตอรี่ M น้ำหนักเบามาเป็นอุปการณ์มาตรฐาน
ด้านดีไซน์ S 1000 RR ใหม่ ยังมาพร้อมรูปโฉมด้านหน้าใหม่ โดดเด่นด้วยวิงเล็ท และด้านท้ายแบบใหม่ที่สปอร์ตและน้ำหนักเบายิ่งขึ้น ระบบไฟ LED เต็มรูปแบบมาตรฐานบริเวณไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเลี้ยว
ตอกย้ำถึงความโฉบเฉี่ยวและความดุดันของ S 1000 RR ดีไซน์ตัวถังใหม่พร้อมเบาะนั่งซ้อนท้ายทรงสง่าสร้างความโดดเด่นสะดุดตาจากรุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน โดยมาในสีใหม่ล่าสุด ได้แก่ สีดำ Black Storm Metallic และสีแดง Passion Racing Red

BMW R 18 B
ราคาจำหน่าย: 1,475,000-1,595,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

R 18 Transcontinental
ราคาจำหน่าย: 1,615,000-1,715,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

มอเตอร์ไซค์ R 18 Transcontinental โดดเด่นด้วยความเป็นมอเตอร์ไซค์ทัวริ่งที่หรูหรา ขณะที่ R 18 B มาพร้อมความเป็นมอเตอร์ไซค์สไตล์แบกเกอร์เต็มตัวด้วยรูปลักษณ์ที่ดูทั้งเรียบง่ายและปราดเปรียว พร้อมด้วยกระเป๋าสัมภาระข้างรถที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับฝาครอบไฟหน้ารถ และสำหรับรุ่น R 18 Transcontinental จะมีกล่องสัมภาระท้ายรถ (top case) อีกด้วย ส่วนประกอบเพื่อการใช้งานและดีไซน์ต่าง ๆ เช่น โครงสร้างเหล็กกล้าสองชั้น ถังน้ำมันทรงหยดน้ำขนาด 24 ลิตร เพลาแบบเปิดเปลือย พร้อมลูกเล่นการทำสีแบบลายเส้นคู่ ล้วนสะท้อนถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมอเตอร์ไซค์แบบทัวริ่งและครูสเซอร์ยอดนิยม และด้วยระบบสวิงอาร์มคู่ขนาบข้างและคานรับน้ำหนักแบบยื่น โครงสร้างตัวรถอันแข็งแกร่งจากมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานอย่างบีเอ็มดับเบิลยู R 5 จึงถูกถ่ายทอดสู่ยุคปัจจุบันได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งสองรุ่นยังมากับรูปลักษณ์แบบใหม่ด้วยตัวเลือกสีตัวถังใหม่อันหลากหลาย 
หัวใจหลักของมอเตอร์ไซค์ R 18 Transcontinental และ R 18 B คือเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบที่เรียกว่า บิ๊กบ็อกเซอร์ ซึ่งนับเป็นเครื่องยนต์แบบ 2 สูบวางเรียงที่มีสมรรถนะสูงสุดในรถมอเตอร์ไซค์ที่ผลิตออกจำหน่ายในตลาดทั่วไป ด้วยความจุ 1,802 ซีซี ส่งพละกำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 4,750 รอบต่อนาที ส่งแรงบิด 158 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบต่อนาที พร้อมพลังขับเคลื่อนและเสียงเครื่องยนต์กระหึ่มเร้าใจด้วยความเร็วสูงสุด มากกว่า 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้านแชสซีเป็นโครงสร้างเหล็กกล้าสองชั้น พร้อมแกนหลักชิ้นส่วนขึ้นรูปจากแผ่นเหล็ก ทั้งยังโดดเด่นด้วยมาตรฐานการผลิตคุณภาพสูงและความประณีตในรายละเอียดต่าง ๆ เช่น การเชื่อมข้อต่อระหว่างโครงสร้างเหล็กและการขึ้นรูปชิ้นส่วนเหล็กหล่อต่าง ๆ นอกจากนี้ สวิงอาร์มหลังยังยึดต่อกับเพลาหลังด้วยข้อต่อสลักเกลียวแบบดั้งเดิม
ระบบช่วงล่างของ R 18 Transcontinental และ R 18 B ใช้ช่วงล่างแบบเทเลสโคปิก และระบบสวิงอาร์มที่ติดตั้งโดยตรงบนคานรับน้ำหนักแบบยื่นที่สามารถปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ เพื่อให้ควบคุมล้อที่หล่อด้วยวัสดุอัลลอยน้ำหนักเบาชั้นเลิศได้อย่างแม่นยำ พร้อมมอบการขับขี่ที่นุ่มสบาย คานรับน้ำหนักด้านหลังสามารถปรับตั้งค่าความหนืดได้และมีระบบชดเชยโหลดอัตโนมัติเพื่อตอบสนองการขับขี่ที่เหนือระดับ และเช่นเดียวกับรถรุ่นตำนานอย่าง R 5 แกนโช้คหน้าแบบเทเลสโคปิกของ R 18 ทั้งสองรุ่นก็มาพร้อมกับปลอกหุ้มโช้ค นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับระบบดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า และดิสก์เบรกเดี่ยวที่ล้อหลัง ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์เบรกแบบตายตัว 4 ลูกสูบ และระบบเบรก ABS ของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 
R 18 Transcontinental ติดตั้งเบาะที่นั่งที่นุ่มสบายพร้อมระบบอุ่นเบาะที่นั่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อความสบายในการขับขี่ทางไกลแม้มีคนนั่งซ้อนท้าย ส่วนเบาะที่นั่ง
ในรุ่น R 18 B เป็นเบาะที่นั่งสำหรับสองคนที่มีขนาดเล็กลง โดย R 18 Transcontinental มาพร้อมบันไดข้างเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรุ่น R 18 B มากับที่พักเท้าที่กว้างขึ้นและสะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่า R 18 รุ่นก่อนหน้า
ส่วนขับขี่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษทั้งสองรุ่น มาพร้อมกับมาตรวัดแบบอนาล็อก หน้าปัดทรงกลม 4 ช่อง และจอสีแสดงผลแบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว พิมพ์ตัวอักษร BERLIN BUILT เสริมความคลาสสิกให้ R 18 Transcontinental และ R 18 B ใหม่
จอสีแสดงผลแบบ TFT ยังสามารถอ่านได้ง่าย และสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน BMW Connected App เสริมความสะดวกในการใช้งานและแสดงข้อมูลการขับขี่อย่างเต็มที่ 
R 18 Transcontinental และ R 18 B เสริมความปลอดภัยด้วยฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมระบบล๊อก ระบบควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ (ASC) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละราย มอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับโหมดการขับขี่มาตรฐาน 3 โหมด ได้แก่ Rain, Roll และ Rock อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ ระบบไฟหน้าปรับตามทิศทางการขับขี่พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน, ระบบควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ (ASC) เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ส่วนระบบเกียร์ถอยหลังจะช่วยให้การกลับรถเป็นเรื่องง่าย ทั้งยังมีระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (Hill Start Control) ที่จะช่วยให้การออกตัวขึ้นเขาเป็นไปได้อย่างง่ายดาย
ไฟหน้า LED, ไฟเลี้ยว LED, ไฟท้าย LED และไฟเบรกทำให้รถทั้งสองรุ่นดูโดดเด่น ขณะที่ R 18 Transcontinental ยังสง่างามด้วยไฟตัดหมอกแบบ LED มอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับระบบป้องกันการโจรกรรมและระบบสตาร์ทแบบไร้กุญแจติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนี้ ระบบควบคุมแรงดันลมยาง (Tyre pressure control) ช่วยให้แน่ใจว่าผู้ขับขี่จะรักษาระดับลมยางของมอเตอร์ไซค์ได้อย่างเหมาะสม ในขณะที่ระบบเกียร์ถอยหลัง (Reverse Gear) ช่วยให้มอเตอร์ไซค์ถอยหลังได้โดยไม่ต้องออกแรงผลัก
R 18 Transcontinental และ R 18 B มาพร้อมกับประสบการณ์เครื่องเสียงคุณภาพ โดยพัฒนาร่วมกับผู้ผลิตเครื่องเสียงสัญชาติอังกฤษอย่าง Marshall และลำโพงแบบ two-way (แยกซับวูฟเฟอร์) ที่ติดตั้งบนหน้าปัดของฝาครอบไฟหน้ารถ พร้อมด้วยหน้ากากลำโพงสีดำที่แต่งด้วยตัวอักษร Marshall สีขาว เสริมลุคคลาสสิกให้กับมอเตอร์ไซค์ โดย R 18 B มาพร้อมกับระบบเครื่องเสียง Marshall Gold Series Stage 1 ซึ่งประกอบด้วยลำโพง 2 ตัว และซับวูฟเฟอร์ 2 ตัว ในขณะที่ R 18 Transcontinental ติดตั้งระบบเครื่องเสียง Marshall Gold Series Stage 2 มาพร้อมลำโพง 4 ตัว และซับวูฟเฟอร์ 2 ตัว ด้วยกำลัง 280 วัตต์
 
R 18 Transcontinental มาพร้อมกับสีตัวถังใหม่ ด้วยสีดำ Black Storm Metallic และสีขาว Option 719 Mineral White Metallic
ในขณะที่ R 18 B โดดเด่นด้วยตัวถัง สีดำ Black Storm Metallic, สีเทาด้าน Manhattan Metallic Matte, สีฟ้า Gravity Blue Metallic, สีขาว Option 719 Mineral White Metallic และสีม่วงเหลือบฟ้า Option 719 Galaxy Dust Metallic
 
อุ่นใจขึ้นและสนุกกว่าในทุกเส้นทางกับข้อเสนอพิเศษในงานมอเตอร์โชว์ 2023 กับข้อเสนอพิเศษจากบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.bmw.co.th, www.mini.co.th, www.bmw-motorrad.co.th เฟซบุ๊กแฟนเพจ BMW Thailand, MINI Thailand และ BMW Motorrad Thailand หรือติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย, 1397

แท็กที่เกี่ยวข้อง

bmw motorrad บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ข่าวบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด BMW S 1000 RR BMW R 18 B BMW R 18 Transcontinental

ข่าวและอีเว้นท์มอเตอร์ไซค์ล่าสุด




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)