OR BRIC Superbike 2022 ปิดฤดูกาลอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมแผนเดินหน้าสู่เบอร์หนึ่งเอเชีย

ศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2022 ปิดฉากพร้อมกับความสำเร็จยิ่งใหญ่สู่ อินเตอร์เนชั่นแนล เรซ ดึงนักบิดจากทั่วโลกร่วมดวล ด้าน เนวิน ชิดชอบ ประธานสนามช้างฯ  กางแผนยกระดับรายการสู่เบอร์หนึ่งเอเชียในอีก3-5 ปี พร้อมเผยเตรียมขยายตลาดมอเตอร์สปอร์ตสู่ประเทศจีน โดยดึงนักแข่งและทีมแข่งจากแดนมังกรร่วม หลังจีนเปิดประเทศปีหน้า 

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2022 ทัพนักบิดทั้งไทยและต่างชาติกว่า 200 คน จาก 120 ทีม แข่งขัน 4 สนาม 5 เรซ ตลอดทั้งปี เพื่อเฟ้นหาฮีโร่คนใหม่ที่ก้าวไกลไปสู่ระดับโลก ได้ปิดฤดูกาลลงแล้ว พร้อมความสำเร็จในทุกด้าน รวมทั้งนักแข่งไทยที่ได้รับรางวัลชนะเลิศรายการนี้ จะได้สิทธิ์ไวลด์การ์ดไปแข่งขันในรายการ Asia Road Racing 2023 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรายการสำคัญของภูมิภาคเอเชีย นับเป็นอีกก้าวความสำเร็จของนักแข่งไทยที่จะได้ร่วมประลองฝีมือกับนักแข่งระดับนานาชาติ และเป็นโอกาสที่จะได้พัฒนามาตรฐานฝีมือให้สูงขึ้นต่อไปในอนาคต

นายเนวิน ชิดชอบ ประธาน สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า หลังจากสถานการณ์โควิด19ที่ผ่านมา ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว วงการมอเตอร์สปอร์ตก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน นักแข่งทีมแข่งต้องเผชิญกับความยากลำบาก เนื่องจากเป็นกีฬาที่ใช้งบประมาณในการแข่งขันสูง ต้องฝ่าฟันอย่างมากจึงจะเดินทางไปจนจบฤดูกาลได้ 

“สิ่งหนึ่งที่ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ถือเป็นหลักการสำคัญคือ เวิลด์แสตนดาร์ด ตั้งแต่กฎกติการแข่งขันที่ยุติธรรม ยืนอยู่บนมาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่าทีมใหญ่หรือเล็ก จนก่อให้เกิดความสำเร็จของการจัดการแข่งขันที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 เรามีสนามที่ได้มาตรฐานโลก หากต้องการให้เด็กไทยก้าวสู่ระดับโลก  ประเทศไทยจะต้องมีรายการแข่งขันของตัวเองที่อยู่ในระดับอินเตอร์ที่ยิ่งใหญ่ระดับเอเชีย ภายใน 3-5 ปีต่อจากนี้ โดยเป้าหมายในอนาคต ผมหวังว่ามาตรฐานของรายการนี้จะพัฒนายิ่งๆขึ้นไป”
 

ด้าน นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า “ฤดูกาลนี้โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ ถือว่าประสบความสำเร็จอีกครั้ง เรามีนักแข่งทั้งหน้าใหม่และนักแข่งที่เคยไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในต่างประเทศกลับมาลงแข่งรายการเดียวกัน มีนักแข่งต่างชาติเข้ามาร่วมแข่งขันเพิ่มมากขึ้น ส่วนในเรื่องการขยายฐานผู้ชม ในช่วงก่อนที่ไทยจะเผชิญกับโควิด19 ได้มีการวางแผนที่จะรุกไปยังประเทศจีน โดยดึงนักแข่งจากจีนมาลงทำการแข่งขัน เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่และมีศักยภาพ คาดว่าในปี 2023 หลังจากที่จีนเปิดประเทศ เราจะได้เห็นสังเวียนความเร็วรูปแบบใหม่ที่เป็นสากลมากขึ้น มีนักแข่งต่างชาติเข้ามาแข่งขันเพิ่มขึ้น จะช่วยยกระดับการแข่งขันในฤดูกาลต่อไปให้มีมาตรฐานสูงยิ่งๆขึ้นไปด้วย”

ทั้งนี้ หนึ่งในแรงขับเคลื่อนหลักไปสู่ความสำเร็จของ ศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ คือผู้สนับสนุนหลักอย่าง บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ ซึ่งเป็นสปอนเซอร์หลักต่อเนื่องมาถึง 6 ปี รวมถึงพาร์ตเนอร์สำคัญอย่าง เครื่องดื่มตราช้าง, รถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า, บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), หมวกกันน็อกเรียล, ผ้าเบรกเน็กซ์เตอร์, บริดจสโตน โมโต ไทยแลนด์, การกีฬาแห่งประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

นายไพศาล อุดมกุลวณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจหล่อลื่น บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ กล่าวว่า โออาร์ได้เล็งเห็นศักยภาพของนักแข่งไทย โดยได้ทำการสนับสนุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ซึ่งรายการนี้เปรียบเสมือนเป็นบันไดขั้นต้นของนักแข่งไทยสู่การเป็นนักแข่งระดับนานาชาติ และยังเป็นโอกาสที่นักแข่งไทยจะได้ฝึกทักษะ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน โดยใช้กับสนามเดียวกับการแข่งขันระดับโลกอย่าง MotoGP 

ทั้งนี้ หลังจบการแข่งขันได้มีการจัดงาน แชมเปี้ยน เดย์ เพื่อมอบรางวัลและฉลองแชมป์ประจำปีให้กับผู้ที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมตลอดทั้งฤดูกาลของทุกรุ่น  

 

นักบิดที่สามารถคว้าแชมป์ประจำปีรุ่นใหญ่ที่สุดอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี เอสบี 1 โปร พร้อมรับสิทธิ์ไวลด์การ์ดไปแข่งขัน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง ได้แก่  ฐิติพงศ์ วโรกร จากทีม พีเอสจีเอ ดูคาติ พีทีที ลูบริแคนต์ นก จูนเนอร์ ติ๊งโน๊ต ส่วนซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี  เอสบี 1 ได้แก่ พุทธินัฐ สินทรัพย์ จาก อิเดมิตสึ บริดจสโตน เรซซิ่ง ยามาฮ่า, เอสบี 2 ได้แก่ อาทิตย์ สถาปนรัตนกุล จาก ไบค์สตอรี่ บริดจสโตน อาท เน็กซ์เตอร์, เอสบี 3 ธนิต แก้รัมย์ จาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม

ส่วนแชมป์ประจำปีในรุ่น ซูเปอร์ สต็อก 1,000 ซีซี เอสที 1 และได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ดแข่งขันเอเชีย โร้ด เรซซิ่ง ได้แก่ สิรภพ พูลศรี นักบิดดาวรุ่งจาก ยามาฮ่า พีทีที ดี.ไอ.ดี. บริดจสโตน เดอะ เบลล์55 เนรมิตหนังฟิล์ม, รุ่นเอสที 2 ได้แก่ ตะวัน ตั้งจิตเจริญกุล จาก ทีเค ฮอนด้า เซฟตี้ ไทยแลนด์ ไออาร์ซี ดี.ไอ.ดี ดิเรก ทีม, เอสที3 ได้แก่ ธเนศร วนิศรกุล จาก เน็กซ์เตอร์ โมริเท็ค เอวีอาร์พี เรซซิ่ง

แชมป์ประจำปี ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เอสเอส1 โปร และได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ดแข่งขันเอเชีย โร้ด เรซซิ่ง ได้แก่ นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตดาวบิดโมโตทรีจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์, ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เอสเอส1 ได้แก่ ธุรกิจ บัวผา จาก ยามาฮ่า ไฮสปีด, เอสเอส2 ได้แก่ สุทธิภัทร พัชรีธร จาก สปีด 800 ยัวซ่า จีพี เรซซิ่ง ทีม

 

แชมป์ประจำปี ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี เอสเอส1 โปร  ได้แก่ รัฐพงษ์ บุญเลิศ จาก ยามาฮ่า เควายบี ไออาร์ซี น้ำบาน โก๋ท่ามะกา, รุ่นเอสเอส 1 ได้แก่ วัชรินทร์ ทับทิมอ่อน จาก ยามาฮ่า ไฮสปีด, เอสเอส2 ได้แก่ ดรัณภพ ทองย้อย จากอีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม

แชมป์ประจำปี สปอร์ต โปรดักชั่น 400 ซีซี เอสพี ได้แก่ ธีร์ธวัช คุณภู่ ดาวรุ่งจาก วาโวลีน เอสเอ็มเอส คาวาซากิ เรซซิ่ง ทีม, ส่วนสปอร์ต โปรดักชั่น 400 ซีซี เอสพี จูเนียร์  ได้แก่ ภคภัทร พึ่งเจริญ จาก ซีบี ไฟเบอร์กลาส ซี.พันธ์ สิทธิผล สมาร์ทสปอร์ต ดี.ไอ.ดี.วายเอสเอส กิตติ เรซซิ่ง ทีม