ขุนพลนักบิด Yamaha Thailand Racing Team แท็กทีมคว้าแต้มให้กับต้นสังกัด ครองจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพประเภททีม ในรุ่น ASB1000 จากการชิงชัยในสนามที่ 4 ที่ เซปังฯ สร้างโอกาสคว้าแชมป์ประจำปีในสนามสุดท้าย ที่ไทย
เริ่มเข้าสู่โปรแกรมการแข่งขันในศึก FIM ASIA ROAD RACING CHAMPIONSHIP 2022 สำหรับการฝึกซ้อมวันแรกลงบิดทั้งสิ้น 2 ครั้งทั้งในรุ่น ASB1000 และ รุ่น SS600 โดยในรุ่นใหญ่อย่าง ASB1000
แสตมป์-อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ภายใต้รถแข่ง
Yamaha YZF-R1M หมายเลข 24 เริ่มต้นการฝึกซ้อมได้ดีด้วยการทำเวลาในการซ้อมครั้งแรกอยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยเวลา 2 นาที 08.283 วินาที ส่วนในการซ้อมครั้งที่ 2 ได้ทดลองเซ็ตติ้งเพื่อหาทิศทางอื่นๆ ทว่าไม่สามารถทำเวลาได้ดีขึ้นกว่าเดิมโดยทำเวลาอยู่ในอันดับที่ 7 ด้วยเวลา 2 นาที 08.913 วินาที
แสตมป์-อภิวัฒน์ เผยว่า "การฝึกซ้อมวันนี้กับช่วงซ้อมครั้งแรกเราได้นำเอาข้อมูลจากที่เคยแข่งมาเป็นตัวเริ่มต้น ซึ่งผมพยายามหาฟีลลิ่งเดิมในการขับขี่ที่เซปังฯ กลับมา ซึ่งก็สามารถทำเวลาได้ใกล้เคียงกับเมื่อครั้งที่แล้ว แต่ในการซ้อม 2 เราได้ลองเปลี่ยนเซ็ตติ้งหลากหลายรูปแบบเพื่อที่จะผลักดันให้เร็วขึ้น แต่ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ เรายังมีการซ้อมครั้งที่ 3 ซึ่งเราจะกลับไปเซ็ตติ้งของการซ้อม 1 และพัฒนามันเพื่อให้พร้อมสำหรับการควอลิฟายในตอนบ่าย”
ด้าน ตี-อนุภาพ ซามูล เพื่อนร่วมสังกัดเจ้าของรถแข่ง Yamaha YZF-R1M หมายเลข 500 ที่ทำการปรับปรุงรถแข่งของตัวเองให้เป็นไปตามลำดับขั้นโดยเริ่มต้นในการฝึกซ้อมทำเวลาอยู่ในอันดับที่ 7 ด้วยเวลา 2 นาที 09.236 วินาที และสามารถกดเวลาของตัวเองลงไปถึง 1.366 วินาที ติดอันดับ 3 ของการซ้อมด้วยเวลา 2 นาที 07.870 วินาที
"เราเริ่มต้นได้ดีสำหรับการฝึกซ้อมสนามนี้ในช่วงเช้าผมได้ลองอุปกรณ์และยางในหลายๆ สเปคเพื่อที่จะคอนเฟิร์มกับทางทีมก่อนที่จะหาเซ็ตติ้งเพิ่มเติมในช่วงบ่าย ณ ตอนนี้ผมมีสเปคที่จะใช้สำหรับการควอลิฟายไว้แล้ว สำหรับในการซ้อมครั้งที่ 3 ผมมีเก็บรายละเอียดในบางส่วนเพิ่มเติม โดยเฉพาะกับพื้นแทร็กซึ่งรอบนี้สัมผัสได้ว่าการยึดเกาะของแทร็กไม่เท่ากับเมื่อครั้งก่อน แต่เชื่อว่าในการควอลิฟายเราจะมีผลเวลาที่ดีอย่างแน่นอน” ตี-อนุภาพ กล่าวหลังจบรอบซ้อม
ส่วนใน
รุ่น SS600 กับการทำการบ้านมาอย่างหนักของ Yamaha Thailand Racing Team เพื่อให้รถแข่ง
Yamaha YZF-R6 หมายเลข 56 ของ
โฟลท-รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ มีศักยภาพเพิ่มขึ้นสำหรับการต่อสู้กับคู่แข่ง ส่งผลให้สามารถทำเวลาดีขึ้นตามลำดับโดยการซ้อมแรกอยู่ในอันดับที่ 9 ด้วยเวลา 2 นาที 12.533 วินาที และในการซ้อมครั้งที่ 2 สามารถที่จะทำเวลาเร็วขึ้นด้วยเวลา 2 นาที 11.624 วินาที ซึ่งเป็นเวลาที่เร็วการซ้อมในครั้งก่อน ตามหลังผู้นำเพียง 0.787 วินาทีเท่านั้น
โดย โฟลท-รัฐพงษ์ กล่าวว่า "สำหรับสนามนี้เราเตรียมตัวมาได้ดี เราได้นำเอาชิ้นส่วนที่ทีมเราพัฒนาเพิ่มเติมจากของเดิมมาใช้ ซึ่งมันได้ผลและทำให้ผมมั่นใจกับการขับขี่เพิ่มขึ้น และด้วยการเซ็ตอัปพร้อมกับการทดลองยางในหลายๆ สเปค ทำให้เราได้ข้อมูลที่มากขึ้น นอกจากนี้เวลาของผมก็ดีขึ้นตามลำดับ และเรายังเหลือการซ้อม 3 ก่อนการควอลิฟายในการปรับเซ็ตติ้งเพิ่มเติมเพื่อที่จะทำเวลาได้เร็วกว่านี้ “
พอเข้าสู่ช่วงควอลิฟายบนสภาพแทร็กที่เปียกจากสายฝนที่ตกลงมา จากคอนดิชั่นดังกล่าวสร้างความยากลำบากในการควบคุมรถและทำความเร็ว อย่างไรก็ดีทัพนักบิด Yamaha Thailand Racing Team ยังสามารถทำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจ นำทัพโดย แสตมป์-อภิวัฒน์ ที่บิดคว้ากริดสตาร์ตที่ 3 ได้เริ่มเกมจากแถวหน้าในรุ่น ASB1000 ขณะที่ ตี-อนุภาพ เพื่อนร่วมสังกัดประจำการในกริดที่ 10
ขณะที่ โฟลท-รัฐพงษ์ ได้เริ่มเกมจากแถวที่ 2 รุ่น SS600 จากการบิดทำเวลาต่อรอบเข้ามาเป็นอันดับ 4 สร้างโอกาสลุ้นแชมป์ในรอบชิงชนะเลิศ
สำหรับการชิงชัยในเรซแรก Yamaha Thailand Racing Team เลือกใช้ยางสลิคลงทำการแข่งขัน หลังมีสายฝนโปรยลงมาก่อนเกม เป็นทางด้าน แสตมป์-อภิวัฒน์ ที่ทะยานจากกริดที่ 3 ขึ้นเป็นผู้นำ รวมถึง ตี-อนุภาพ ที่ขยับจากกริดที่ 10 ขึ้นมารั้งอันดับ 2 ก่อนที่ ทั้งคู่จะทิ้งห่างคู่ออกไปเรื่อยๆ
จากนั้น ตี-อนุภาพ หาจังหวะแซง แสตมป์-อภิวัฒน์ ได้ในช่วงท้ายเกม คว้าแชมป์ในเรซแรก หลังผ่าน 9 รอบสนามที่ เซปังฯ เก็บแต้มให้กับตนเองและต้นสังกัดสร้างโอกาสลุ้นคว้าแชมป์ประจำปี โดยเป็นการคว้าชัยวัน-ทู ในรุ่นใหญ่ ได้อีกด้วย
ด้าน โฟลท-รัฐพงษ์ ทำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจ หลังออกสตาร์ตจากกริดที่ 4 ก่อนบิดจบการแข่งขันด้วยอันดับ 6 ในเกม รุ่น SS600 บวกแต้มเพิ่มให้กับตนเอง
เข้าสู่เรซที่ 2 ในรุ่น ASB1000 โดย ตี-อนุภาพ และ แสตมป์-อภิวัฒน์ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเรซแรก แต่พอเรซนี้ ตี- อนุภาพ บิดคว้าอันดับ 5 ในเรซนี้ ขณะที่ แสตมป์-อภิวัฒน์ พลาดท่าล้มในช่วงต้นเกมไปอย่างน่าเสียดาย จากผลงานอันยอดเยี่ยมของทั้งคู่ ส่งผลให้ต้นสังกัดเก็บแต้มรั้งจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพประเภททีม มีทั้งสิ้น 211 คะแนน เหนือกว่าทีมคู่แข่งที่รั้งอันดับ 2 อยู่ 19 คะแนน ขณะเหลือการแข่งขัน 1 สนามในฤดูกาล
ด้าน โฟลท-รัฐพงษ์ ในเรซนี้โชคไม่ดีพลาดล้มหลังปะทะกับคู่แข่ง ส่งผลให้ต้องออกจากการแข่งขันไปตั้งแต่ต้นเกม
สำหรับการแข่งขันในสนามสุดท้าย ศึก FIM ASIA ROAD RACING CHAMPIONSHIP 2022 มีคิวดวลความเร็วระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายน นี้ ณ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์