Miguel Oliveira จาก Red Bull KTM Factory Racing ฝ่าสายฝนคว้าชัยชนะเหมือนอย่างที่เขาเคยทำได้ในสนามที่อินโดนีเซีย โดยในรายการ OR Thailand Grand Prix คู่หูจาก Ducati Lenovo Team ก็คว้าอันดับ 2 และ 3 โดย Jack Miller ก็พยายามทุ่มสุดตัวเพื่อคว้าชัยชนะในการแข่ง โดยมี Francesco Bagnaia ตามมา ส่วนอันดับ 4 เป็นของ Johann Zarco จาก Prima Pramac Racing ที่แซงผ่าน Marc Marquez จาก Repsol Honda Team การจบการแข่งขันแบบนี้ดูจะเป็นข่าวดีสำหรับ Bagnaia เมื่อคะแนนสะสมตามหลัง Fabio Quartararo จาก Monster Energy Yamaha MotoGP เพียง 2 แต้ม เพราะในสนามนี้ Quartararo จบในอันดับที่ 17 ทำให้ไม่มีคะแนนสะสม ด้าน Aleix Espargaro จาก Aprilia Racing ก็ยังมีลุ้นเพราะคะแนนสะสม ห่างจากผู้นำเพียง 20 แต้ม
จากสภาพอากาศที่สนาม Chang International Circuit สุดท้าทายเมื่อฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง บางโค้งแห้ง บางโค้งเปียก ทำให้การแข่งขันใน OR Thailand Grand Prix ดูจะเป็นการแข่งขันที่สุดท้าทาย เพราะมีฝนลงมาทำให้การแข่งขันต้องล่าช้าออกไปเกือบหนึ่งชั่วโมง ก่อนที่การแข่งขันในรุ่น MotoGP จะเริ่มขึ้นในที่สุด แต่ยังเป็นสภาพสนามที่ยังคงเปียกมาก
ทันทีที่ไฟสตาร์ทดับลง Marco Bezzecchi จาก Mooney VR46 Racing Team ผู้คว้าตำแหน่งโพล ออกตัวได้ดีโดยมี Jorge Martin จาก Prima Pramac Racing ตามมา แต่เพียงไม่นาน ก็กลายเป็นการแข่งขันกันระหว่างรถ Ducati เมื่อ
Bezzecchi ยังคงเป็นผู้นำจาก Bagnaia และ Miller โดยมี Martin ตามมาเป็นที่ 4 และ Marc Marquez เป็นที่ 5 กลับกันด้านQuartararo ที่ควอลิฟายได้อันดับที่ 4 กลับหล่นไปอยู่ที่ 11 แต่แล้ว Bezzecchi ต้องหล่นมา 1 อันดับ เมื่อได้รับโทษจากการหลุดขอบเขตแทร๊คออกไป แล้วกลับเข้ามาในสนาม จำเป็นต้องคืนอันดับไป 1 อันดับ ทำให้ Miller ขึ้นมาเป็นผู้นำ แล้วก็เป็น Bezzecchi ตามมาด้วย Bagnaia และ Oliveira และในรอบที่ 3 Luca Marini จาก Mooney VR46 Racing Team ก็หลุดออกจากสนามไปในโค้งที่ 9 แต่กลับมาแข่งต่อในอันดับสุดท้าย
จากนั้นในรอบที่ 5 Oliveira ก็แซงผ่าน Bagnaia ขึ้นไปเป็นที่ 3 ได้ที่โค้ง 9 และในรอบถัดมาก็แซงผ่าน Bezzecchi ขึ้นไปได้อีก จากนั้น Bezzecchi ก็ร่วงลงไปอีก ในตอนนี้ ผู้นำเป็นของ Miller, Oliveira, Bagnaia และ Marc Marquez
ด้าน Aleix Espargaro ก็ไต่มาอยู่ใน 10 อันดับแรก แต่เจ้าตัวได้รับโทษ Long Lap จากการกระทบกับ Brad Binder จาก Red Bull KTM Factory Racing ในช่วงต้นของเรซ ทำให้อันดับของเขาหล่นไปอยู่ที่ 14 แต่ก็ยังนำหน้าตำแหน่งของ Quartararo ที่ดูจะไม่มีความเร็วในเรซนี้เลย
จากนั้นในรอบที่ 11 Remy Gardner จาก Tech3 KTM Factory Racing ก็เป็นคนแรกที่ต้องออกจากการแข่งขัน จากนั้นในรอบที่ 14 Oliveira ก็สามารถแซง Miller ขึ้นไปได้ โดยมี Bagnaia, Marc Marquez ตามมา จากนั้น Johann Zarco จาก Prima Pramac Racing ก็ขึ้นมาไล่ตาม Marc Marquez
ซึ่ง Marc Marquez ก็พยายามหาจังหวะแซง Bagnaia ที่โค้ง 12 แต่ก็ไม่สำเร็จ ในทางกลับกัน Marc Marquez กลับต้องเสียที่ 4 ให้กับ Zarco ในรอบที่ 20
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปจนรอบสุดท้าย โดย Oliveira ยังคงแข็งแกร่งและคว้าชัยชนะครั้งที่ 5 ใน MotoGP ส่วนที่ 2 เป็น Miller และ Bagnaia จบในอันดับที่ 3 ส่วน Aleix Espargaro ก็จบการแข่งขันในอันดับที่ 11 ส่วน Quartararo จบการแข่งขันในอันดับที่ 17 ทำให้เขาทพลาดคะแนนสะสม ด้าน Bezzecchi ผู้ที่ออกจากตำแหน่งโพลในสนามนี้จบการแข่งขันในอันดับที่ 16
จากคะแนนสะสมที่ Quartararo นำ Bagnaia อยู่เพียง 2 แต้ม ทำให้อีกการแข่งขันอีก 3 สนามที่เหลือน่าติดตามดูว่าท้ายที่สุดตำแหน่งแชมป์โลกจะไปตกอยู่ที่ใคร อย่าพลาดชม Animoca Brands Australian Motorcycle Grand Prix ในวันที่ 14-16 ตุลาคม นี้
ผลการแข่งขัน
คะแนนสะสม
ผลงานนักบิดไทยที่ลงทำการแข่งขันใน Moto2
ก้อง-สมเกียรติ จันทรา สังกัด IDEMITSU Honda Team Asia ยอดนักบิดฮีโร่ชาวไทยจากโครงการ ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม มีลุ้นโพเดียมโฮมเรซอย่างเต็มตัว หลังจบวันแรกด้วยการกดเวลารั้งท็อปโฟว์ในศึก เริ่มต้นการซ้อมได้อย่างร้อนแรง ก่อนจะรั้งอันดับ 2 ของช่วงแรก ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 36.838 วินาที ตามหลังผู้นำเพียง 0.032 วินาที
ขณะที่ในการซ้อมครั้งที่ 2 บางส่วนของสนามยังคงมีความชื้นสะสมจากฝนที่ตกลงมาอีกครั้งตอนเที่ยงวัน ส่งผลให้ ก้อง-สมเกียรติ พลาดล้มในรอบเอาท์แล็ป และต้องนำรถกลับเข้าพิทเพื่อให้ทีมช่วยเร่งแก้ไข ก่อนจะออกไปลุยต่อได้ในช่วง 20 นาทีสุดท้าย จบการซ้อมปรากฏว่า ก้อง-สมเกียรติ รั้งอันดับ 4 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 36.597 วินาที ตามหลังผู้นำ 0.317 วินาที ลุ้นโพเดียมในโฮมเรซอย่างเต็มตัว
ในช่วงควอลิฟาย ก้อง-สมเกียรติ สร้างผลงานกระหึ่มโฮมเรซ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักบิดไทยคนแรกที่กดเวลาสุดโหดคว้าโพลในบ้านเกิด ท่ามกลางการติดตามของแฟนชาวไทยหลายหมื่นคนในสนามแข่ง โดยสภาพอากาศนั้นไม่มีฝนตกลงทำให้พื้นผิวสนามแห้งสนิทเป็นผลดีต่อการทำความเร็ว โดย ก้อง-สมเกียรติ ผ่านเข้าสู่รอบ Q2 แบบอัตโนมัติในอันดับ 4 และจากผลการควอลิฟายปรากฏว่า ก้อง-สมเกียรติ คว้าตำแหน่งโพลได้สำเร็จด้วยเวลา 1 นาที 35.625 วินาที มีลุ้นคว้าชัยชนะอย่างเต็มตัวในโฮมเรซ
อย่างไรก็ดีจุดเปลี่ยนสำคัญของการแข่งขันเกิดขึ้นเมื่อฝนตกลงมาก่อนเริ่มเกม ส่งผลให้กรรมการประกาศให้เป็นเวทเรซ และลดจำนวนรอบลงเหลือ 16 รอบสนาม ก้อง-สมเกียรติ ออกสตาร์ทออกมาอาศัยความคุ้นเคยสนามโฮมเรซ อาศัยจังหวะขึ้นมาเป็นผู้นำได้ตั้งแต่โค้งแรก และค่อยๆ ยืดระยะห่างจากอันดับ 2 ออกไปเรื่อยๆ ขณะที่ฝนก็ทวีความหนักอย่างต่อเนื่อง
จากนั้นในรอบที่ 2 ก็พลาดล้มไปอย่างน่าเสียดาย หลังเหยียบเข้ากับไลน์ที่มีน้ำอยู่จำนวนมากในโค้ง 4 โดย ก้อง-สมเกียรติ พยายามอย่างหนักที่จะเอารถมาแข่งขันต่อให้ได้ แต่รถแข่งสตาร์ตไม่ติด ส่งผลให้ต้องออกจากการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย ขณะที่แฟนชาวไทยต่างส่งกำลังใจให้อย่างไม่ขาดสาย เพราะรู้ว่าหากไม่มีจุดเปลี่ยนดังกล่าวชัยชนะจะอยู่แค่เอื้อมเท่านั้น พร้อมเป็นกำลังใจให้สู้ใหม่ในสนามต่อไปที่ สนาม ฟิลลิป ไอส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ในรายการ ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์
แฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารของ ก้อง-สมเกียรติ จันทรา พร้อมส่งกำลังใจเชียร์ยอดนักบิดไทยในศึก โมโตจีพี รุ่นโมโตทู ตลอดทั้งฤดูกาล 2022 และติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม :
www.facebook.com/HondaRacingTeamTH เคเค-เขมินท์ คูโบะนักบิดไทย สังกัด Yamaha VR46 Master Camp Team บิดทำเวลารั้งอันดับ 22 ในรอบซ้อมครั้งที่ 1 แต่ก็สามารถกดเวลาได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสลุ้นเข้าสู่ Q2
โดย เคเค-เขมินท์ ลงแทร็กเตรียมด้วยความมั่นใจ และลงขับขี่ในช่วงนี้ด้วยกันทั้งหมด 4 รอบสนาม โดยทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 1 นาที 36.832 วินาที รั้งอยู่ในอันดับที่ 14 และจะลงทำการแข่งขันด้วยการออกสตาร์ตจากกริดที่ 16
ในช่วงเรซ มีสายฝนตกลงมาก่อนเกม ขณะที่นักบิดเข้าประจำกริดสตาร์ต ส่งผลให้ฝ่ายจัดการแข่งขันประกาศเป็นเวทเรซ และลดจำนวนรอบเหลือ 16 รอบสนาม
ก่อน เคเค-เขมินท์ จะไล่แซงคู่แข่งไต่อันดับขึ้นมารั้งในกลุ่มท็อปเท็นได้ตั้งแต่ต้นเกม โดยรีดฟอร์มเก่งต่อหน้าแฟนความเร็วโฮมเรซ บิดจบการแข่งขันในอันดับ 9 คว้าแต้มเพิ่มให้กับตนเองและต้นสังกัด จากเกมเวทเรซที่ ช้างฯ เซอร์กิต อย่างไรก็ดีด้วยสายฝนที่หนาเม็ดขึ้นเรื่อยส่งผลให้กรรมการควบคุมการแข่งขันให้สัญญาณธงแดงยุติการแข่งขันขณะเหลือการแข่งขัน 8 รอบสนาม หลังจากนั้นไม่สามารถทำการแข่งขันต่อได้ ส่งผลให้ ดาวบิดไทย จบการแข่งขันในอันดับที่ 9 บวกแต้มเพิ่มให้กับตนเองบนเวทีโมโตทู
ที่มา :
MotoGP