ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถมอเตอร์ไซค์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

ฮอนด้าประกาศพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมวางเป้าเปิดตัวรถรุ่นใหม่ไม่น้อยกว่า 10 รุ่น ภายในปี 2025

ข่าว icon 13 ก.ย. 65 icon 1,887
ฮอนด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ประกาศแผนงานสำหรับธุรกิจรถจักรยานยนต์ โดยวางเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ด้วยการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรูปแบบเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกที่มีความต้องการแตกต่างกัน เตรียมเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ไม่น้อยกว่า 10 รุ่น ภายในปี 2025 พร้อมกับตั้งเป้าจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 1 ล้านคันต่อปีภายใน 5 ปีข้างหน้า และยอดจำหน่าย 3.5 ล้านคันต่อปี ภายในปี 2030 ทั้งนี้ นโยบายธุรกิจรถจักรยานยนต์ของฮอนด้าถูกแบ่งออกเป็น 3 หัวข้อสำคัญ ประกอบด้วย การมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน การสร้างสรรค์ยานยนต์ไฟฟ้า และการทำให้การใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น โดยยังคงพัฒนารถจักรยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไปพร้อมกับการพัฒนารถจักรยานยนต์ที่สามารถใช้พลังงานที่สร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยในปัจจุบันได้เริ่มต้นแล้วในประเทศบราซิล

โดยมีสาระสำคัญดังนี้ :

1) ก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อรองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทั่วโลก ฮอนด้านำเสนอผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์หลายรุ่น ตั้งแต่คอมมิวเตอร์รุ่นเล็กสำหรับการเดินทางในเมือง ไปจนถึงรุ่นใหญ่ที่ขับขี่ได้อย่างสนุก ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกทั้งในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าและกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่  โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่นั้นมีความต้องการรถจักรยานยนต์อย่างมาก ส่วนใหญ่เป็นรุ่นคอมมิวเตอร์ที่ตอบสนองการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว  อย่างไรก็ดี รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ายังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก เนื่องจากน้ำหนักที่มาก ราคาที่สูง และความต้องการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ายังขึ้นกับมาตรการส่งเสริมและกฎระเบียบของรัฐ รวมถึงความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานบริการชาร์จไฟฟ้าในแต่ละประเทศ 
จากการพิจารณาสถานการณ์ดังกล่าว ฮอนด้ายังคงผลิตเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน (ICE) ในขณะเดียวกันพร้อมเร่งผลิตรถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้า เน้นกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งเป้าบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนสำหรับผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ทุกคันในช่วงปีทศวรรษ 2040s นอกจากนี้ฮอนด้ายังคงความเป็นผู้นำด้านโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอื่นๆ ในอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์อีกด้วย
เดินหน้าโครงการพัฒนาเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน (ICE) อย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน พร้อมกับรองรับความต้องการอันหลากหลายของผู้ขับขี่และการใช้งานที่เป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ ฮอนด้ายังมีโครงการพัฒนารถจักรยานยนต์รุ่นที่ใช้น้ำมัน (ICE models) แบบช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไปพร้อมๆ กับผลิตรถจักรยานยนต์รุ่นที่สามารถใช้พลังงานที่สร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน เช่น รุ่นที่ใช้แก๊สโซลีนผสมเอทานอล เป็นต้น ตัวอย่าง เช่น ในประเทศบราซิล ที่มีรถจักรยานยนต์ใช้พลังงาน flex-fuel หรือ E100*1 ฮอนด้ายังได้วางแผนเปิดตัวรถจักรยานยนต์ใช้พลังงาน flex-fuel ในอินเดียซึ่งเป็นตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่  โดยจะเปิดตัวรุ่น flex-fuel (E20) *1 ประมาณต้นปี 2023 และ รุ่น flex-fuel (E100) ในปี 2025 (*1 แก๊สโซลีนผสมเอทานอล มีอัตราการผสมหลายระดับ ตั้งแต่แก๊สโซลีน 100% ไปจนถึงเอทานอล 100% ส่วน E100 หมายถึง เอทานอล 100% และ E20 หมายถึง เอทานอล 20%, 2. สร้างสรรค์ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า)

2)สร้างสรรค์ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า
เปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการของผู้ขับขี่หลากหลายรูปแบบ จากการคาดการณ์การขยายตัวของตลาด ฮอนด้าเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่รองรับความต้องการที่แตกต่างของผู้ขับขี่ ตั้งแต่รุ่นคอมมิวเตอร์ขับขี่ในเมือง ไปจนถึงรุ่นใหญ่ขับขี่เพื่อความสนุก ฮอนด้าเตรียมนำเสนอรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ไม่น้อยกว่า 10 รุ่น ภายในปี 2025 ตั้งเป้ายอดขายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 1 ล้านคันต่อปี ภายใน 5 ปีข้างหน้า และ 3.5 ล้านคัน (ประมาณ 15% ของยอดขายรวม) ภายในปี 2030
โดยมีรายละเอียดของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดังต่อไปนี้ :
1. รถจักรยานยนต์คอมมิวเตอร์ขับขี่ในเมือง Commuter EVs
ในยุคที่ทุกกิจกรรมหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ความต้องการใช้รถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเริ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับความต้องการผู้ขับขี่ประเภทนี้ ฮอนด้านำเสนอ Honda e: Business Bike Series พร้อมเร่งเปิดตัวรถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้าสำหรับธุรกิจในตลาดโลก  นอกเหนือจากการส่งมอบ Honda e: Business Bike Series ให้กับบริษัทไปรษณีย์ของญี่ปุ่นและเวียดนาม*2 เพื่อการทำงานบริการส่งสินค้าไปรษณีย์แล้ว ปัจจุบันฮอนด้ายังทดลองจับมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด*3 ทั้งยังวางแผนผลิตและจำหน่ายรุ่น BENLY e: ในประเทศไทยก่อนสิ้นเดือนนี้ สำหรับรถจักรยานยนต์ Honda e: Business Bike Series มาพร้อมกับ Honda Mobile Power Pack (MPP) แบตเตอรี่แบบสลับเปลี่ยนได้ เหมาะกับการใช้งานธุรกิจประเภทส่งสินค้าชิ้นเล็ก และช่วยแก้ปัญหาเรื่องประเภทไฟฟ้าและระยะเวลาชาร์จไฟฟ้า ซึ่งนับเป็นข้อท้าทายหลักในการทำให้การใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเป็นที่แพร่หลาย (*2 บริการไปรษณีย์ของเวียดนาม, *3 บริการไปรษณีย์ไทย) สำหรับการใช้งานส่วนบุคคล ฮอนด้าเตรียมแผนเปิดตัว Commuter EV สองรุ่นในปี 2024 และ 2025 ในเอเชีย ยุโรป และญี่ปุ่น ในอนาคต ฮอนด้ายังคงมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทดแทนอื่นๆ นอกเหนือจากแบตเตอรี่แบบสลับเปลี่ยนได้  

2. รถจักรยานยนต์รุ่นคอมมิวเตอร์ขับขี่ในเมือง Commuter EMs*4 / EBs*5 
ปัจจุบัน รุ่น EMs และ EBs ครอง 90 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก หรือประมาณ 50 ล้านคัน ในประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก รุ่น  EMs / EBs เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางในหมู่ผู้ขับขี่เพื่อความสะดวกในชีวิตประจำวัน และฮอนด้านำเสนอผลิตภัณฑ์เหล่านี้ด้วยการยกระดับโครงสร้างบริการพื้นฐานให้กับผู้แทนจำหน่ายในพื้นที่และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตและพัฒนา โดยคาดว่าความต้องการรุ่น EMs / EBs จะขยายในวงกว้างขึ้นและครอบคลุมไปทั่วโลก พร้อมมีแผนเปิดตัว EMs / EBs รุ่นกะทัดรัดในราคาที่จับต้องได้ 5 รุ่น ตั้งแต่ช่วงนี้จนถึงปี 2024 ในตลาดเอเชีย ยุโรป และญี่ปุ่น (*4 ประเภทไฟฟ้า: ความเร็วสูงสุด: 25 กม./ชม.~50 กม./ชม., *5 ประเภทรถจักรยานไฟฟ้า ไม่รวมรถจักรยานที่ใช้ไฟฟ้าช่วย ความเร็วสูงสุด 25 กม/ชม หรือต่ำกว่า)
  
3. FUN EVs รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหญ่ที่ขับขี่ได้อย่างสนุก
นอกจาก commuter EVs แล้ว ฮอนด้ายังได้พัฒนาและนำเสนอรถจักรยานยนต์รุ่นใหญ่ที่ขับขี่ได้อย่างสนุก “Fun” EV models โดยจะเปิดตัว “Fun” EV models ทั้งหมดสามรุ่นในตลาดญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาและยุโรป ในช่วงปี 2024 และ 2025  พร้อมกับเปิดตัว “Kid Fun EV model” สำหรับเด็กที่ออกแบบเพื่อส่งต่อความสุขในการขับขี่ให้กับคนรุ่นใหม่อีกด้วย   
กระบวนการผลิตแบบประสิทธิภาพสูง “Monozukuri” ที่ช่วยขยายการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าพร้อมเพิ่มยอดการจำหน่าย
ด้วยความก้าวหน้าของการผลิตแบบ “Monozukuri” ที่สั่งสมจากการพัฒนาและการใช้แพลตฟอร์มสำหรับยานยนต์รุ่นที่ใช้น้ำมัน ฮอนด้าพัฒนาและนำมาประยุกต์ใช้กับแพลตฟอร์มรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ประสานองค์ประกอบหลัก 3 ประการของยานพาหนะไฟฟ้า ได้แก่ แบตเตอรี่  PCU และเครื่องยนต์ เข้าด้วยกัน  โดยมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยกระบวนการผลิต Monozukuri ประสิทธิภาพสูง เพื่อมอบความสุขในการขับเคลื่อนด้วยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในราคาที่จับต้องได้ ในส่วนของแบตเตอรี่ ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของพาหนะไฟฟ้า ฮอนด้ามุ่งเป้าติดตั้ง แบตเตอรี่แบบแข็ง (All-solid-state battery) ที่มีเสถียรภาพสูงในรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่ฮอนด้ากำลังพัฒนาโดยการใช้แหล่งพลังงานของตนเอง 
3. เพิ่มความสะดวกและความชาญฉลาดในการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
การส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้บริการชาร์จแบตเตอรี่และการกำหนดคุณสมบัติที่เป็นมาตรฐานให้กับแบตเตอรี่นั้น จำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำให้การใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเป็นที่แพร่หลาย  ฮอนด้า ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้บริการชาร์จแบตเตอรี่นั้น ได้เน้นการดำเนินงานเพื่อให้มีการใช้แบตเตอรี่ร่วมกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น  
1. ส่งเสริมการใช้แบตเตอรี่ร่วมกันให้เป็นที่แพร่หลาย 
  • ฮอนด้ามีธุรกิจร่วมในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ดำเนินการให้บริการใช้แบตเตอรี่ร่วมกัน จากการใช้ประโยชน์จากแบตเตอรี่ MPPs และรถจักรยานยนต์พลังงานจากแบตเตอรี่ MPP โดย JV เริ่มให้บริการใช้แบตเตอรี่ร่วมกันแล้วในเมืองบาหลี
  • ในอินเดีย ฮอนด้าเตรียมวางแผนเริ่มให้บริการใช้แบตเตอรี่ร่วมกันสำหรับใช้ในรถแท็กซี่สามล้อ (หรือที่เรียกกันว่า ริกชอว์) ภายในปลายปีนี้ ฮอนด้ายังวางแผนขยายโครงการริเริ่มใช้แบตเตอรี่ร่วมกันให้เป็นที่แพร่หลายในประเทศอื่นๆ ในเอเชีย 
  • ในญี่ปุ่น เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัท ENEOS Holdings, Inc. และผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ 4 แห่ง*6 ร่วมมือกับ Gachaco, Inc. ผู้ให้บริการแบ่งปันการใช้แบตเตอรี่แบบสลับเปลี่ยนได้ที่ได้มาตรฐาน สำหรับรถจักรยานยนต์และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการให้บริการ  โดยบริษัทเตรียมให้บริการเพื่อการใช้แบตเตอรี่ร่วมกันในฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้ (*6 บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ จำกัด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และบริษัท ยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด)
2. กำหนดมาตรฐานแบตเตอรี่ 
  • ในญี่ปุ่น ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์มีการตกลงกันเรื่องคุณสมบัติทั่วไปของแบตเตอรี่แบบสลับเปลี่ยนได้โดยยึดแนวปฏิบัติเรื่องแบตเตอรี่แบบสลับเปลี่ยนได้สำหรับยานพาหนะไฟฟ้าสองล้อ (JASO TP21003*7 Guideline) (*7 สมาคมวิศวกรรมยานยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น รายงานวิชาการ TP21003 ขององค์กร JASO แนวปฏิบัติเรื่องแบตเตอรี่ที่สลับเปลี่ยนได้ สำหรับยานพาหนะไฟฟ้าสองล้อ “Guideline For Swappable Batteries Of Electric Two Wheel Vehicles”)
  • ฮอนด้ามุ่งมั่นทำงานเพื่อสร้างมาตรฐานให้กับแบตเตอรี่แบบสลับเปลี่ยนได้ พร้อมกับเข้าร่วมประชุมสมาคมแบตเตอรี่ในยุโรป*8  ทั้งยังร่วมมือกับบริษัทร่วมทุนในอินเดีย (*8 สมาคมแบตเตอรี่ที่สลับเปลี่ยนได้สำหรับรถจักรยานยนต์ (Swappable Batteries Motorcycle Consortium หรือ SBMC) ตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่การใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าขนาดเล็กเพื่อการขับเคลื่อน) 

เสริมความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์
 เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ฮอนด้ามุ่งปรับเปลี่ยนธุรกิจจากการเน้นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ที่ทำรายได้เพียงครั้งเดียว สู่รูปแบบธุรกิจที่ผสมผสานทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
 ด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮอนด้าร่วมงานกับ Drivemode*9 บริษัทซอฟต์แวร์ในเครือ ยกระดับมูลค่าการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในโลกยุคที่ทุกสิ่งเชื่อมต่อกัน โดยเริ่มจากรุ่น Commuter EV ที่จะออกสู่ตลาดในปี 2024 ฮอนด้ามอบประสบการณ์การขับขี่สุดแสนเพลิดเพลินให้กับผู้ใช้งาน (UX) ผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อ อาทิ อุปกรณ์ที่ช่วยเลือกเส้นทางที่ดีที่สุด โดยคำนึงถึงวิถีถนน จุดชาร์จไฟฟ้า แนะแนวการขับขี่อย่างปลอดภัย พร้อมการบริการหลังการขายที่ช่วยให้ผู้ขับขี่อุ่นใจตลอดเส้นทาง (*9 ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่ปรับเปลี่ยนประสบการณ์ผู้ใช้เพื่อการขับขี่อย่างสะดวกสบาย Drivemod)
 ในอนาคต ฮอนด้าจะมุ่งสร้างแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงทุกสิ่ง เพิ่มคุณค่าการใช้งานที่ไม่เพียงเชื่อมต่อกับรถจักรยานยนต์เท่านั้น แต่ยังเชื่อมต่อกับผลิตภัณฑ์ของฮอนด้าทุกประเภท เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายแบบไร้ขีดจำกัด โดยฮอนด้ามุ่งมั่นสร้างสังคมความเป็นกลางทางคาร์บอนผ่านการผลิตรถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้าและกิจกรรมต่างๆ และยังคงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันอย่างต่อเนื่อง และวางแผนเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 10 รุ่นทั่วโลกภายในปี 2025 ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 1 ล้านคันต่อปีในอีก 5 ปีข้างหน้า และ 3.5 ล้านคัน (หรือ 15% ของยอดขายรวม) ภายในปี 2030 ในฐานะผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก ฮอนด้าครองความเป็นผู้นำแห่งยุคของความเป็นกลางทางคาร์บอน  โดยส่งมอบความสุขจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีเทคโนโลยีขั้นสูงที่สามารถเชื่อมต่อกับรถจักรยานยนต์ทุกรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

honda ev รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ข่าวรถจักรยานยนต์ฮอนด้า EM EB

ข่าวและอีเว้นท์มอเตอร์ไซค์ล่าสุด




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)