Thai Suzuki Motors ปรับแผนนำเดินงานลุยตลาดหวังผงาดอีกครั้งปี 2021
"ซูซูกิ" ตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ที่แข็งแกร่ง ผนึกกำลัง ยกระดับจัดทัพใหม่ ชูแผนกลยุทธ์การบริการหลังการขาย การขาย และการตลาดแนวใหม่ที่แตกต่าง ลุยตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ปรับแผนนำเดินงานลุยตลาดหวังผงาดอีกครั้งปี 2021
ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น, บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด และบริษัท บ้านซูซูกิ จำกัด ร่วมจับมือครั้งสำคัญจัดตั้ง บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด สู้ศึก 2 ล้อในประเทศไทย ชูกลยุทธ์ เทคโนโลยีที่สมัยใหม่ โดยคนรุ่นใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด อยู่ในฐานะเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ ซูซูกิ ที่มีคุณภาพให้แก่ตลาดในประเทศไทย ตลอดจนเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวนาน และในปี 2553 ซูซูกิ ได้มีการเปลี่ยนแปลงในด้านช่องทางการจัดจำหน่าย โดยบริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด ได้เปลี่ยนแปลงสถานะจากเดิมที่เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ ซูซูกิ เพียงอย่างเดียว มาเป็นผู้ผลิต รวมทั้ง ยังเป็นผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ซูซูกิ ในเขต 63 จังหวัดในประเทศไทย ยกเว้น 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อให้ซูซูกิสามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่น และขยายการเพิ่มสัดส่วนทางการตลาดในประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถให้บริการแก่ลูกค้าผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ซูซูกิ ได้อย่างเต็มที่
มร. ชินจิ ฮะสึอิ, President บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า
ซูซูกิ มีข่าวดีจากการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบระดับโลกอย่าง MotoGP ซึ่งเป็นรายการที่เป็นที่สุดของการแข่งขันรถจักรยานยนต์ โดย Joan Mir สามารถคว้าแชมป์โลกมาครองได้ก่อนที่การแข่งขันจะจบฤดูกาล ตลอดจน Team Suzuki Ecstar ก็สามารถคว้าแชมป์ประเภท Team ในรายการนี้ได้อีกด้วย ถือได้ว่าเป็นการฉลองครบรอบ 100 ปีที่ซูซูกิก่อตั้งมาทีเดียว นอกจากนี้ บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด ได้ผลิตเครื่องยนต์เรือ และมียอดการผลิตเครื่องยนต์เรือครบ 1 ล้านเครื่องในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ นับได้ว่าปีนี้จึงเป็นปีแห่งการรำลึกที่น่าจดจำของกลุ่มในเครือ บริษัท ซูซูกิ อย่างแท้จริง
และในปีนี้ ซูซูกิ สำนักงานใหญ่ และ ไทยซูซูกิ ได้มีการตัดสินใจครั้งใหญ่ เพื่อให้ ซูซูกิ สามารถแข่งขันในตลาดประเทศไทยต่อไป ตลอดจนเพิ่มยอดการขายรถจักรยานยนต์และเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของซูซูกิอีกครั้ง เราคิดว่าอาจจะเป็นเรื่องยากถ้าหากเรายังดำเนินการทำธุรกิจแบบเดิมๆต่อไป ดังนั้นเราจึงได้ตัดสินใจในการทำสิ่งที่ท้าทายใหม่ โดยในโอกาสนี้ เราได้จัดตั้งผู้จัดจำหน่ายใหม่โดยร่วมกับบริษัท บ้านซูซูกิ จำกัด ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิในเขตภาคใต้ขึ้น ในชื่อ "บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด"
บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท บ้านซูซูกิมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท บ้านซูซูกิ จำกัด โดยถือหุ้น 70% และบริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด ถือหุ้น 30% อย่างที่ท่านทราบกันดีอยู่แล้วว่า บริษัท บ้านซูซูกิ จำกัด นั้น ได้เป็นผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิในเขต 14 จังหวัดภาคใต้ตั้งแต่ไทยซูซูกิเริ่มดำเนินกิจการ ในปีนี้ บ้านซูซูกิได้พยายามอย่างเต็มที่ในการต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยเนื่องจากการแพร่ระบาดจาก COVID 19 ตลอดจนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ตกต่ำในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม บ้านซูซูกิ ได้พยายามแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด โดยผ่านระบบการขายและกลยุทธ์ทางการตลาดของตนเอง โดยได้รับความร่วมมือกับบริษัทไฟแนนซ์หลายแห่ง ดังนั้นเพื่อเป็นการปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจการขายในเขต ไทยซูซูกิ อย่างเร็วที่สุด ทางบริษัทฯ จึงได้ตัดสินใจในการทำงานร่วมกับบริษัท บ้านซูซูกิ จำกัด ในครั้งนี้
เพื่อเป็นการเพิ่มยอดขายและส่วนแบ่งตลาดของซูซูกิ โดยเร็วที่สุดภายใต้ ซูซูกิ โมโตเซลส์ ทาง ซูซูกิ โมโตเซลส์ ได้เริ่มปรับปรุงและพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายด้วยนโยบายการขายแบบใหม่ มีระบบและเครื่องมือใหม่ๆ นับแต่นี้เป็นต้นไป ซูซูกิขอแจ้งให้ทุกท่านทราบถึงทิศทางของซูซูกิใหม่ที่สามารถจะบรรลุพันธกิจของเรา โดยการเพิ่มยอดการจำหน่ายของซูซูกิ หรือซูซูกิ สำนักงานใหญ่ ไทยซูซูกิ และ ซูซูกิ โมโตเซลส์ จะแบ่งหน้าที่รับผิดชอบกันอย่างชัดเจนตามความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แล้วร่วมมือกันพัฒนาการขายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
มร. คาสึยูกิ โอซาว่า, Director and Head of Motorcycle Sales บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า "พวกเรา ซูซูกิกรุ๊ป มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ยอดการขายของซูซูกิในประเทศไทยจะดีขึ้นเป็นลำดับอีกครั้ง ซูซูกิได้เล็งเห็นว่าประเทศไทยนั้น ยังคงมีศักยภาพในด้านโครงสร้างพื้นฐานและการเติบโตทางเศรษฐกิจ และทางซูซูกิยังคงมีการลงทุนในธุรกิจรถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์เรือและรถยนต์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง"
โดย บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ดำเนินการนำเข้าและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ซูซูกิ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยจะเน้นการพัฒนาโดยหลักการแบบ 3 มิติ ได้แก่
1. Product (ผลิตภัณฑ์) เน้นการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งาน สร้างประสบการณ์ระหว่างการขับขี่ Create a WOW!! ให้กับลูกค้าทุกท่าน
2. Showroom and Service Center (โชว์รูมและศูนย์บริการ) พัฒนาระบบการทำงานด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งและครอบคลุมในทุกพื้นที่ยุทธศาสตร์หลักในประเทศไทย
3. Sales, After Service and Marketing Activities (การบริการและกิจกรรมทางการตลาด) มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าและการสร้างความพึงพอใจในทุกขั้นตอน พร้อมแผนการปรับภาพลักษณ์การตลาด เพื่อให้พร้อมรับมือไปกับยุคของการเปลี่ยนแปลง
โดยทางบริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีกลยุทธ์ในการวางแผนเพิ่มเติม โดยจะนำความแข็งแกร่งของพันธมิตร และคู่ค้ามาเป็นส่วนช่วยสนับสนุนในการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยอีกด้วย
คุณมนูศักดิ์ ลาภาโรจน์กิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ทีมงานของเราได้เตรียมความพร้อมในการทำงาน เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านได้มั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์และบริการของเรา จะถูกส่งต่อไปยังมือของท่านอย่างพิถีพิถัน และเป็นไปด้วยความใส่ใจ เราจะสร้างความมั่นใจในตัวผลิตภัณฑ์ และการบริการของเราให้อยู่ในระดับแนวหน้า"
ทั้งนี้ คุณอัครินทร์ ตั้งทวีสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวเสริมว่า "แนวคิดการทำงานโดยใช้กลยุทธ์แบบ "Agile และ Customer Centric" จึงเป็นแนวคิดหลักในการบริหารทีมในยุคของการทำงานแบบใหม่ โดยกระบวนการทำงานของเราจะลดความซับซ้อนในการทำงานลง มีระบบการทำงานที่ดีมารองรับ และมุ่งเน้นการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพของทีม โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง พยายามเข้าใจว่า ลูกค้ามีความต้องการอะไร และเข้าไปเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าและการทำงานของเรา ณ จุดนั้น"
โดยกลยุทธ์การขายและการตลาดนั่น จะดำเนินตามหลักแนวคิด "การบริหารการขายและการตลาดวิถีใหม่" ซึ่งมีการเพิ่มรายละเอียดเพื่อความพึงพอใจของลูกค้าดังนี้
1. Convert Product to Experience การเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการนำเสนอที่เน้นเฉพาะตัวสินค้า เป็นการส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจผ่านทางตัวผลิตภัณฑ์และการให้บริการในทุกขั้นตอน
2. Consultancy & Customization การให้คำปรึกษาและบริการ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าแต่ละท่านเป็นรายบุคคล เน้นการให้บริการอย่างจริงใจ ให้คำปรึกษาที่มีประโยชน์ ผ่านทางผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ
3. Character & Aspiration สร้างตัวตนอย่างชัดเจนให้กับแบรนด์ซูซูกิ เพื่อดึงเอาแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตมาเกิดเป็นแรงผลักดันในการส่งต่อผลังบวกในสังคมซูซูกิ เกิดเป็นการทำสิ่งดีดี กิจกรรมดีดีร่วมกันเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
และด้วยจุดแข็งของรถจักรยานยนต์ของ ซูซูกิ ที่มีจุดเด่นด้านคุณภาพ ความทนทาน ใช้งานดี ตัวรถมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในแง่ของการพัฒนาแบรนด์และการบริหารงาน ทีมงานเราเชื่อมั่นว่า จะนำพาแบรนด์ซูซูกิ กลับมีสัดส่วนการครองตลาดเป็นที่น่าพอใจอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ยังเน้นด้านการสร้างสังคม ซูซูกิ ซึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ได้ให้ความสำคัญ เนื่องจากแบรนด์ของ ซูซูกิ นั้นมีฐานลูกค้าอยู่มากมาย โดย ซูซกิ อยากให้ลูกค้าเหล่านี้ มีส่วนร่วมในการก้าวเดินไปข้างหน้า สร้างการมีส่วนร่วมไปด้วยกัน สำเร็จไปด้วยกัน และก่อให้เกิดความภาคภูมิใจไปด้วยกัน
"ซูซูกิ อยากให้ทุกท่านได้เห็นถึงความตั้งใจของทีมงานในการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกๆท่าน และขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งมา ณ โอกาสนี้ ขอบคุณครับ" คุณอัครินทร์ กล่าวอย่างมุ่งมั่น
ปิดท้ายด้วยด้านกิจกรรมทางการตลาดของปีนี้ ซูซูกิ ได้เข้าร่วมงาน Thailand International Motor Expo 2020 ซึ่งในปีนี้จะมีเซอร์ไพรส์ให้กับลูกค้าทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ และการ collaboration กับร้านกาแฟชื่อดังจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้าทุกท่าน
ทั้งนี้ ซูซูกิ กับนโยบายและการทำการตลาดแนวใหม่ของ ซูซูกิ นั้น ซูซูกิ เน้นย้ำว่าจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพทางการขายมากยิ่งขึ้น ลูกค้าผู้ใช้จะได้รับประโยชน์ พร้อมความสะดวกสบาย และประทับใจมากขึ้นอย่างแน่นอน โดยทั้งนี้ ซูซูกิ จะดำเนินการตามทิศทางและแนวทางการตลาดใหม่ทันทีนับตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป