Royal Enfield Meteor 350 มอเตอร์ไซค์ครุซเซอร์ สไตล์อีซี่ ราคาเริ่มที่ 150,000 บาท
เปิดใหญ่อีก 1 ค่ายกับแบรนด์ รอยัล เอนฟิลด์ ที่ยกทัพมอเตอร์ไซค์ครุซเซอร์ คลาส 350 ซีซี เปิดตัวมาให้คนไทยได้เป็นเจ้าของถึง 3 รุ่น คือ
รอยัล เอนฟิลด์ เมทธีออร์ 350 (METEOR 350) ซึ่งแน่นอนว่าราคาต่าง ของแต่งก็ต่าง ใครชอบแบบไหนก็ซื้อแบบนั้น และที่สำคัญเป็นรถที่เหมาะกับไซส์คนเอเชียเอามากๆ
เมทธีออร์ 350 ได้รับการออกแบบจากทีมดีไซเนอร์ และพัฒนาขึ้นโดยทีมวิศวกรรมเครื่องยนต์ผู้เชี่ยวชาญที่ศูนย์เทคโนโลยีอันล้ำสมัยทั้งสองแห่งของรอยัล เอนฟิลด์ในเมืองเชนไน รัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย และเมือง บรันติงธอร์ป สหราชอาณาจักร ไฟหน้าเป็นฮาโลเจนพร้อมไฟหรี่ LED แบบวงแหวน ไฟหลังเป็น LED ปุ่มบนแฮนด์เดิ้ลบาร์ที่เรียบง่ายแต่ดูพรีเมี่ยม พร้อมสวิทช์แบบโรตารี่ให้ความรู้สึกคลาสสิกตามสไตล์รอยัล เอนฟิลด์
สำหรับเครื่องยนต์ของ
เมทธีออร์ 350 มีระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ (Air-Oil Cooled) กระบอกสูบเดี่ยว ขนาด 349 ซีซี ทำให้เมทธีออร์สามารถสร้างขุมพลังสูงสุด 20.2 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 27 นิวตันเมตร ที่ 4000 รอบต่อนาที และทำให้เกิดเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของรถมอเตอร์ไซค์ครุซเซอร์ บาลานเซอร์ชาร์ปออกแบบใหม่ ช่วยให้รู้สึกขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล
ระบบจ่ายน้ำมันแบบไฟฟ้ามีผลต่ออัตราการตอบสนองของคันเร่งที่ดีขึ้น ในแง่ของสมรรถนะที่รอบด้าน เครื่องยนต์ใหม่มีเกียร์ 5 สปีด โดยที่เกียร์ 5 จะทำหน้าที่ Overdrive ให้ขับขี่ได้อย่างไร้กังวล และช่วยประหยัดน้ำมันเมื่อเดินทางระยะไกล ยังมาพร้อมแผ่นเหล็กคลัทช์ 7 ชั้นที่ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ง่ายขึ้นท่ามกลางการจราจรที่หนาแน่น
แชสซีแบบ Twin Downtube Spin Frame ของเมทธีออร์ 350 ออกแบบให้เกิดความมั่นใจในการขับขี่บนทางคดเคี้ยว และแข็งแรงดุจหินขณะขับขี่ในระยะไกล แต่ก็ควบคุมได้อย่างง่ายดายบนถนนในเมืองที่วุ่นวาย เบาะนั่ง และศูนย์ถ่วงที่ลดความสูงลง ประกอบกับความแข็งแรงของตัวรถ ทำให้เกิดสภาพที่เหมาะสมสำหรับทั้งนักขับขี่ในเมือง และผู้แสวงหาการผจญภัยบนเส้นทางระยะไกล ระบบกันสั่นสะเทือนหน้าแบบเทเลสโคปิกขนาด 41 มม. พร้อมระยะยุบ 130 มม. และโช๊คคู่ปรับระดับได้ 6 ระดับและปรับพรีโหลดได้ช่วยให้วางมือได้อย่างกระชับและนุ่มสบาย
หน้าจอพร้อมระบบนำทางแบบ TBT (Turn-By-Turn) เปิดตัวพร้อมให้ไรเดอร์ได้ใช้งานครั้งแรกกับรุ่นเมทธีออร์ 350 หรือมีชื่อเรียกว่า รอยัล เอนฟิลด์ ทริปเปอร์ (Royal Enfield Tripper) เป็นเครื่องมือแสดงผลการนำทางที่มีความแม่นยำสูง แสดงผลได้แบบเรียลไทม์ โดยนำเทคโนโลยี Google Maps มาใช้ ทริปเปอร์จะแสดงเส้นทางไปยังจุดหมายปลายทางสำหรับมอเตอร์ไซค์ที่ดีที่สุด ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมแรกของรถมอเตอร์ไซค์จากประเทศอินเดีย นอกจากนี้ ทริปเปอร์ยังสามารถใช้งานได้ง่าย เพียงจับคู่กับแอปพลิเคชัน Royal Enfield เข้ากับโทรศัพท์มือถือของผู้ขับขี่ ก็จะให้ข้อมูลที่ต้องการได้อย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ และไม่แสดงผลที่รบกวนสายตาขณะขับขี่ นอกจากนี้ ยังมีช่องเสียบสาย USB ที่ซ่อนอยู่ใต้แฮนด์เดิ้ลบาร์ ให้คุณชาร์จไฟได้ง่ายขณะขับขี่
รอยัล เอนฟิลด์ เมทธีออร์ 350 พร้อมจำหน่ายใน 3 รุ่น ประกอบด้วย ไฟร์บอลล์ (Fireball) สเตลลาร์ (Stellar) และซูเปอร์โนวา (Supernova)
-
เมทธีออร์ 350 รุ่นไฟร์บอลล์ ราคา 150,000 บาท มีให้เลือกทั้งสีแดงและสีเหลือง มาพร้อมกับล้อสีดำและขอบล้อสีเดียวกับตัวรถ ตัดกับสีดำเข้มของเครื่องยนต์และส่วนอื่นๆ ของตัวรถ
-
เมทธีออร์ 350 รุ่นสเตลลาร์ ราคา 155,000 บาท มีให้เลือกทั้งสีแดงร่วมสมัย สีน้ำเงิน และสีดำด้าน รับกับส่วนประกอบต่างๆ ของตัวรถได้อย่างพอดี แฮนด์มือจับแบบ Chrome มีที่พักหลังที่ให้ความรู้สึกสบายสำหรับที่นั่งซ้อนท้าย
- สำหรับรุ่นท็อปอย่าง
เมทธีออร์ 350 ซูเปอร์โนวา ราคา 159,500 บาท มีให้เลือก 2 สี คือสีน้ำตาลและสีฟ้าทูโทน เข้ากับรูปลักษณ์แบบพรีเมี่ยมของตัวรถได้เป็นอย่างดี มีรายละเอียดมากขึ้นที่ชุดล้อ พร้อมเบาะนั่งแบบพรีเมี่ยมพิเศษ
รอยัล เอนฟิลด์ เมทธีออร์ 350 มาพร้อมกับชุดอุปกรณ์ตกแต่งมอเตอร์ไซค์ของแท้ (Genuine Motorcycle Accessories) ที่ออกแบบและคิดค้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถสั่งเพิ่มได้ในระหว่างการซื้อรถ ทั้งชุดประกอบด้วย อุปกรณ์ใช้งาน เช่น เบาะพักหลังของที่นั่งซ้อนท้าย แผ่นกันลมทัวริ่งสกรีน ที่เก็บสัมภาระ การ์ดป้องกันเครื่องยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่งสไตล์คลาสสิก ท่อไอเสียที่มีให้เลือกทั้งแบบสแตนเลสและแบบเคลือบสีฝุ่น เบาะรองนั่งขับขี่แบบทัวริ่งที่ออกแบบและผลิตอย่างสวยงาม ซึ่งทั้งหมดจะมาพร้อมประกัน 3 ปี นอกจากนี้ นักขับขี่ยังสามารถเลือกสรรอุปกรณ์และเครื่องแต่งกายอื่นๆ ที่สะท้อนสไตล์ในแบบของตัวเองด้วยชุดเกียร์ หมวกกันน็อกที่มีให้เลือกหลายสี เสื้อยืด และของใช้ส่วนบุคคลที่ล้วนแต่ออกแบบมาเพื่อเมทธีออร์คันโปรด ตอบสนองไลฟ์สไตล์การขับขี่ท่องเที่ยวระยะไกล
สำหรับ รอยัลเอนฟิลด์ เป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์เก่าแก่ที่สุดที่มีการผลิตอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันโดยผลิตรถมอเตอร์ไซค์คันแรกในปี พ.ศ. 2444 จากรากฐานของแบรนด์ที่กำเนิดในประเทศอังกฤษ โรงงานการผลิตก่อตั้งที่กรุงมาดราสในปี 2498 ซึ่งเป็นฐานการผลิตที่ทางแบรนด์ได้สร้างการเติบโตในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางในประเทศอินเดีย รถมอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์มีความเรียบง่าย เข้าถึงได้ และขับขี่สนุก เปรียบเสมือนยานพาหนะของการออกสำรวจ ค้นหา และสะท้อนบุคลิกอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้ขับ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่แท้จริง (Pure Motorcycling)