ทดสอบ 3 บิ๊กไบค์ตัวแรง ดูคาติ ในงาน DRE Track Days 2020

ดูคาติ จัดกิจกรรม DRE Track Days 2020 พร้อมจัดทดสอบสมรรถนะดูคาติบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ประกอบด้วย Panigale V2 (พานิกาเล่ วีทู), Panigale V4 S MY2020 (พานิกาเล่ วีโฟร์ เอส โมเดลปี 2020) และ Streetfighter V4 S (สตรีทไฟท์เตอร์ วีโฟร์ เอส) ณ ช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ด้านกิจกรรมแทร็คเดย์ งานนี้มีสาวกดูคาทิสต้าทั่วประเทศ และกลุ่มสมาชิก Desmo Owners Club ใหม่อย่าง DOC ISAN เข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 100 คน โดยแบ่งเป็นกรุ๊ปขี่ ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของทีม DRE Instructor จากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและดูคาติไทยแลนด์

ในส่วนของสื่อมวลชนที่ร่วมทดสอบบิ๊กไบค์ 3 รุ่นในครั้งนี้ได้จัดแบ่งลงขี่ตามกลุ่มไปพร้อมกับกลุ่มลูกค้าที่ใช้บิ๊กไบค์ดูคาติ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามสีคือ ขาว, เขียว และแดง แยกตามประสบการณ์การขี่ สีขาว ไม่มีประสบการณ์ขี่ในสนามแข่งมาก่อน สามารถใส่ชุดขี่แบบสองท่อนหรือทัวร์ริ่งได้, สีเขียว เคยขี่ในสนามแข่งมาบ้าง และสีแดงมีประสบการณ์และคุ้นชินกับสนามแข่งเป็นอย่างดี ทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าเองด้วย ส่วนผู้เขียนตัวแทนจาก มอเตอร์ไบค์กูรู/เช็คราคา.คอม ได้อยู่ในกลุ่มสีขาว โดยเริ่มเซสชั่นแรกกับรุ่น Panigale V2 พลัง 155 แรงม้า นับเป็นการเริ่มต้นการขี่แทร็คเดย์ที่ดี รายละเอียดตัวรถที่น่าสนใจเริ่มจาก เครื่องยนต์ Superquadro Twin-cylinder และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ IMU 6 แกน ช่วยให้การควบคุมรถในทิศทางต่างๆ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การปรับเซ็ตช่วงล่างใหม่ เบาะนั่งสะดวกสบายสำหรับขี่มากขึ้น สมรรถนะการขี่แบบสปอร์ตใช้ได้ดีทั้งถนนและในสนาม เคลมว่าเป็นบิ๊กไบค์ที่ขี่ง่ายและสนุก ผู้เขียนมีเวลา 25 นาที ในเซสชั่นแรก แต่แทร็คที่เปียกชื้นจากพายุฝนที่กระหน่ำในช่วงเช้ามืด และบางจุดในสนามยังมีน้ำขังตามขอบแทร็คบ้าง ทำให้ต้องชะลอการการเริ่มต้นทดสอบขี่ออกไปพอสมควร จนทางเจ้าหน้าที่สนามฯ และทีมผู้ฝึกสอนตรวจสภาพสนามแล้วว่าขี่ได้ การทดสอบจึงเริ่มต้น ช่วงรอบแรกผู้เขียนยังขี่เพื่อจับอาการและวอร์มอุณหภูมิยางให้พอรองรับกับความเร็วที่ต้องใช้จริงก่อน แม้มั่นใจกับยางพีเรลลี่ Pirelli Diablo Rosso Corsa II อยู่แล้ว โหมดที่ใช้ในการขี่ถูกปรับไว้ที่ Sport รอบกวาดได้ไวมาก จนต้องพยายามลากแล้วเปลี่ยนราว 9,000 รอบต่อนาที ด้วยน้ำหนักตัว 176 กก. เมื่ออยู่ในสนามกับกำลังขนาด 155 แรงม้า ตอบสนองได้อย่างสนุก ขี่ง่าย ไปได้เร็วตามใจต้องการ ควบคุมได้มั่นคงอย่างที่เคลมไว้ ส่วนตัวมองว่า Panigale V2 (799,000 บาท) เป็นสปอร์ตบิ๊กไบค์ที่เน้นขี่แบบสตรีทสนุกและยังมันไปกับแทร็คเดย์ได้ด้วย ในราคาที่ง่ายสุดกับการเริ่มต้นกับการเป็นเจ้าของดูคาติสักคัน

หลังจากพักสลับหมุนเวียนขี่ตามกลุ่มสีและพักกลางวันในช่วงบ่ายเซสชั่นสองผู้เขียนก็ได้คิวเป็น Streetfighter V4S (1,059,000 บาท) บิ๊กไบค์ตัวแรงพลัง 208 แรงม้า รูปทรงสไตล์ Naked แต่เท่ด้วยวิงก์เลท และรูปลักษณ์อันโดดเด่นน่าเกรงขาม เสมือนเป็นการนำ Panigale V4 มาถอดแฟริ่ง น้ำหนักตัวพร้อมขี่อยู่ 199 กิโลกรัม(เวอร์ชั่น S) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Desmosedici Stradale 1,103 ซีซี พร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ยางที่ใช้เป็นพีเรลลี่รุ่น Pirelli Diablo Rosso Corsa II ขนาดหน้า 120/70 ZR17 หลัง 200/60 ZR 17 ไม่เหมือนกับใน Panigale V4 ที่ใช้ Supercorsa SP ซึ่งจริงๆ คาแรคเตอร์การทำงานของยางแทบไม่ต่างกัน แต่ Corsa II ทำงานที่อุณหภูมิต่ำกว่าเพื่อการขี่บนถนนส่วนหนึ่ง ในส่วนของการทดสอบขี่ ด้วยท่านั่งที่สบายแบบ Upright ทำให้รู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่แรก แม้เบาะสูง 845 มม. CG อาจไม่ได้ต่ำมาก แต่ทำให้พลิกเข้าโค้งง่ายและสนุก ทันทีที่ไหลรถพ้นจากเขตสปีดลิมิต พร้อมเปิดคันเร่งแรงบิดขนาด 123 นิวตันเมตร ที่ 11,500 รอบต่อนาที ก็พารถทะยานพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แรงลมที่ปะทะตัวเข้ามาทำให้สัมผัสได้ถึงขุมพลังอันเร้าใจ ความรู้สึกทุกอย่างต่างไปจาก Panigale V2 ก่อนหน้าแบบสิ้นเชิง ทั้งท่านั่ง ความรู้สึกตอบกลับ ความสนุกที่แตกต่าง ด้วยแฮนด์บาร์ที่กว้าง การไหลเข้าโค้งทำได้อย่างยอดเยี่ยม อัตราเร่งและระบบช่วยเหลือตอนออกจากโค้งที่ปรับไว้ในโหมด Race ทำงานผสานกันได้อย่างดี ให้ความมั่นใจมากขึ้นในทุกรอบการขี่ ส่วนเกียร์ควิกชิฟท์ต่อกันได้เนียนแทบไม่รู้สึก ในช่วงทางตรงรถให้ความมั่นคง ความเร็วทะลุ 220 กม./ชม. ไปแบบสบายๆ และไปได้อีกเยอะ แต่ผู้เขียนขี่ไปตามประสบการณ์ในกลุ่มสีขาว ก็นับว่าเร่งได้เร็วประทับใจมากพอแล้ว การชะลอเบาเบรกก่อนเข้าโค้งให้การหน่วงที่สมูธและมีพลังจนมั่นใจตั้งแต่ครั้งแรก

หลังจากพักรอให้เซสชั่นกลุ่มสีเขียวและแดงผ่านไปก็ได้เวลาออกไปสัมผัสพระเอกของงาน Panigale V4S (1,249,000 บาท) ด้วยขุมพลเดียวกันกับ Streetfighter V4S แต่มีแรงม้าสูงสุด 214 ตัว ที่ 13,000 รอบต่อนาที และเป็นสปอร์ตบิ๊กไบค์ที่ดูเสมือนตัวแข่ง WSBK ทำให้รู้สึกดีเหมือนกำลังขี่รถแข่งอยู่ในรายการ ผู้เขียนสนุกกับการขี่ได้ไม่เต็มเซสชั่น 25 นาที ก็ต้องกลับเข้าพิต หลังจากได้สัมผัสกับความสมบูรณ์แบบรอบด้านของรถรุ่นนี้ ด้วยกำลังมหาศาลสวนทางกับพลังของผู้ขี่ที่เริ่มล้าและลดลง แต่ตัวรถก็ยังให้การควบคุมที่ยอดเยี่ยม จนพอสรุปได้ว่านี่คือ สปอร์ตบิ๊กไบค์ที่เหมาะกับการหวดแทร็คเดย์ในสนามแข่งอย่าง ช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิจ จริงๆ แม้จะเป็นรถที่ออกแบบให้ใช้งานได้ดีทั้งบนถนนและสนามแข่ง แต่การเข้าถึงสมรรถนะต่างๆ ของตัวรถรุ่นนี้ไม่มีอะไรดีกว่าการได้ขี่ในสนามอีกแล้ว ถ้าใครเป็นแฟนดูคาติและกำลังมองหาสปอร์ตไบค์เน้นไว้ร่วมกิจกรรมแทร็คเดย์ขี่สนุกจบทุกอย่างแบบไม่คาใจ และมีงบประมาณพอ ก็ต้องมองรุ่นนี้ และอาจเพิ่มชุดคิทท่อไอเสีย Akrapovic ช่วยให้หล่อและแรงได้อีก เท่านี้ก็ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเพิ่มประสบการณ์ในสนามแข่งได้มากแล้ว 

สำหรับการจัดงาน DRE Track Days 2020 ในครั้งนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าดูคาติ ทุกคนได้สนุกกับกิจกรรมตลอดทั้งวัน นอกจากได้เข้าร่วมกิจกรรมที่ได้นำรถตัวเองมาลองสมรรถนะขี่ในสนามแข่งระดับโลกจริงๆ ยังได้ทดลองขี่รถรุ่นใหม่อย่าง Panigale V2, Panigale V4 S และ Streetfighter V4 S เป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมได้ชมสินค้า Apparel และ Accessories คอลเลคชั่นใหม่ของดูคาติก่อนใคร

* รูปบางส่วนจาก HiroMotoPic

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่นรถจักรยานยนต์ Ducati ทุกรุ่น