PTT BRIC Superbike 2018 ปิดฉากสุดมันส์

การแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ทางเรียบรายการ PTT BRIC Superbike 2018 สนามสุดท้ายรูดม่านปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อยอย่างยิ่งใหญ่ ในการแข่งขันสนามสุดท้าย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เพื่อตัดสินหาแชมป์ประจำปีของทุกรุ่น รวมถึงการลุ้นคว้าสิทธิ์ไวลด์การ์ดของรายการ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ (WSBK) และ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ (ARRC) ในปี 2019

"ติ๊งโน๊ต" ฐิติพงศ์ วโรกร

"ซุป" อนุชา นาคเจริญศรี

รุ่น Superbike 1,000 cc. (SB1) รุ่นใหญ่สุดของการแข่งขันรายการนี้มี "ติ๊งโน๊ต" ฐิติพงศ์ วโรกร สังกัด คอร์ คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม รั้งตำแหน่งจ่าฝูง เหนือทีมเมทอย่าง ชัยวิชิต นิสกุล เพียง 9 คะแนน โดยทั้งคู่ต้องตัดสินแชมป์กันในสนามสุดท้าย ซึ่งผลการควอลิฟายปรากฏว่า "ติ๊งโน๊ต" สามารถกดเวลาต่อรอบมาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 1 นาที 35.448 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง "ซุป" อนุชา นาคเจริญศรี จาก ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ เรซซิ่ง ทีม 0.725 วินาที ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ ชัยวิชิต นิสกุล รองจ่าฝูงจาก คอร์ คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ที่มีลุ้นแชมป์เช่นกัน ทำเวลาตามหลังทีมเมท 1.424 วินาที มาถึงรอบการแข่งขันที่ดวลความเร็วทั้งสิ้น 12 รอบสนาม

เรซนี้ทันทีที่ออกสตาร์ท "ติ๊งโน๊ต" ก็ออกนำ สลับกับ "ซุป" ก่อนที่ "ติ๊งโน๊ต" จะอาศัยจังหวะดีกว่าแซงกลับคืนได้ และเริ่มฉีกหนีคู่แข่งออกไปเรื่อย ก่อนบิดเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 19 นาที 17.256 วินาที เหนือ อนุชา อันดับ 2 ถึง 5.165 วินาที ส่วน ชัยวิชิต จบเรซในอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ 8.121 วินาที หลังจบการแข่งขัน "ติ๊งโน๊ต" ฐิติพงศ์ ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมมาตลอดทั้งปี คว้าตำแหน่งแชมป์ประจำปีรุ่น Superbike 1,000 cc. (SB1) เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน 

"ตี" อนุภาพ ซามูล

รุ่น Super Stock 1,000 cc. (ST1) 1 สถานการณ์ในรุ่นนี้ดูจะสดใสเอามากๆ สำหรับการลุ้นแชมป์ประจำปีของ "ตี" อนุภาพ ซามูล ยอดนักบิดไทยจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด เรซซิ่ง ทีม ที่เก็บชัยชนะไว้ได้ทั้ง  3 เรซ นำห่างคะแนนสะสมโดยมี 75 แต้มเต็ม ทิ้งห่าง เบนจามิน ไท ฟอร์ต จาก นุ รังสิต ท็อปวัน ดร.ไบค์ เรซซิ่ง ทีม อันดับ 2 อยู่ถึง 24 คะแนน โดย "ตี" ต้องการเพียง 2 คะแนนเท่านั้นก็จะคว้าแชมป์ประจำปีไปครองทันที หลังจบรอบควอลิฟายตำแหน่งโพลโพซิชั่นตกเป็นของ "ตี" ที่กดเวลามาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 35.962 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง เบนจามิน ไท ฟอร์ตต์ ถึง 1.484 วินาที ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ ประวัติ ญาณวุฒิ นักบิดเชียงใหม่จาก ยามาฮ่า เดวิล อีเกิ้ล เพาเวอร์ ออยล์ อาร์ซีที ตามหัวแถวหลัง 1.812 วินาที

พอถึงรอบการแข่งขันก็ไม่มีอะไรพลิกผัน เมื่อ "ตี" อนุภาพ ซามูล จ่าฝูงจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด เรซซิ่ง ทีม ออกนำแบบม้วนเดียวจบคว้าแชมป์ได้แบบ 100% ด้วยการชนะติดต่อกันทั้ง 4 สนาม มีคะแนนสะสม 100 แต้มเต็ม ด้วยเวลา 19 นาที 33.363 วินาที ตามด้วย เบนจามิน ไท ฟอร์ตต์ จาก นุ รังสิต ท็อปวัน ดร.ไบค์ เรซซิ่ง ทีม ในอันดับ 2 ตามหลัง 5.786 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ประวัติ ญาณวุฒิ จาก ยามาฮ่า เดวิล อีเกิ้ล เพาเวอร์ ออยล์ อาร์ซีที ตามหลังแชมป์ 6.290 วินาที 

"ต๋ง" พีรพงศ์ บุญเลิศ

มาที่รุ่น Super Sport 600 cc. (SS1) เกมการแข่งขันในรุ่นนี้ยังคงเข้มข้น เมื่อสิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง จาก ทีเอชอาร์ซี ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง คลับ มีโอกาสคว้าแชมป์ครั้งแรกโดยรั้งตำแหน่งจ่าฝูงด้วยคะแนนสะสม 60 แต้ม เหนืออันดับ 2 อย่าง "ต๋ง" พีรพงศ์ บุญเลิศ จาก ยามาฮ่า เควายบี ไออาร์ซี ดี.ไอ.ดี. โมตุล น้ำบาน โก๋ ท่ามะกา 10 คะแนน ส่วนอันดับ 3 เป็นของ รัชดา นาคเจริญศรี จาก ทีเอส ซูเปอร์ไบค์ เรซซิ่ง ทีม ตามหลังจ่าฝูง 15 คะแนน จบการควอลิฟายตำแหน่งโพลโพซิชั่นตกเป็นของ "ต๋ง" พีรพงศ์ กดเวลาเร็วสุดที่ 1 นาที 40.345 วินาที เฉือนจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพอย่าง สิทธิศักดิ์ เพียง 0.387 วินาที เท่านั้น ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ "ฟอง" คณาทัต ใจมั่น จาก ยามาฮ่า ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี พิเรลลี เคเอ็นบี เออห์ลิน วาชิ เอเรซเซอร์ ตามหลัง 0.744 วินาที 

"ฟอง" คณาทัต ใจมั่น

ด้านผลการแข่งขันปรากฏว่า "ต๋ง" พีรพงศ์ เจ้าของโพลออกนำแบบม้วนเดียวจบเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก..แต่กลับโดนลงโทษให้ดิสควอลิฟาย ตำแหน่งแชมป์สนามเลยเปลี่ยนมือเป็นของ "ฟอง" คณาทัต ด้วยเวลา 20 นาที 15.196 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง สิทธิศักดิ์ 3.081 วินาที ตามด้วย สิทธิพร ศรีมูลตรี จาก ยามาฮ่า เดวิล อาร์ซีที ตามหลัง 22.406 วินาที โดยตำแหน่งแชมป์ประจำปีตกเป็นของ สิทธิศักดิ์ ที่ผงาดครองบัลลังก์ครั้งแรกในรายการนี้ได้สำเร็จ

วรพงศ์ มาลาหวล

รุ่น Open 400 cc. Division 1 ก็เข้มข้นไม่แพ้รุ่นอื่นๆ เมื่อ "เติ้ล" พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง จากยามาฮ่า ทีดีอาร์ ดี.ไอ.ดี. รูม เอเรซเซอร์ ป็อป ตลาดน้อย ที่มีคะแนนสะสม 61 คะแนน นำอันดับ 2 อย่าง วรพงศ์ มาลาหวล จาก ยามาฮ่า ไฮ-สปีด ดี.ไอ.ดี. กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี พิเรลลี เคเอ็นบี เออห์ลิน วาชิ เอเรซเซอร์ อยู่เพียง 5 คะแนนเท่านั้น พอผ่านควอลิฟายตำแหน่งโพลโพซิชั่นกลับตกเป็นของ วรพงศ์ มาลาหวล ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 47.080 วินาที 

พอถึงรอบการแข่งขันก็เป็น วรพงศ์ ที่ทำผลงานได้เหนือกว่า เมื่อสามารถเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 12 นาที 34.352 วินาที เหนือ "เติ้ล" พีระพงษ์ 3.189 วินาที ตามด้วย รัฐพงษ์ บุญเลิศ จาก ยามาฮ่า เควายบี ไออาร์ซี ดี.ไอ.ดี. โมตุล น้ำบาน โก๋ ท่ามะกา ที่ตามหลังแชมป์ 3.423 วินาที ทำให้แชมป์ประจำปีตกเป็นของ วรพงศ์ จาก ยามาฮ่า ไฮ-สปีด ดี.ไอ.ดี. กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี พิเรลลี เคเอ็นบี เออห์ลิน วาชิ เอเรซเซอร์ ที่คว้าแชมป์สมัยแรกให้ตนเองได้สำเร็จเก็บไปทั้งสิ้น 81 คะแนน เท่ากันกับ "เติ้ล" พีระพงษ์ ทว่าฝ่ายแรกทำผลงานแบบ เฮด ทู เฮด ได้เหนือกว่า

ภายหลังจบการแข่งขันก็ได้มีการประกาศตัวแทนที่จะได้สิทธิ์ไวลด์การ์ดเข้าร่วมการแข่งขัน 2 รายการใหญ่ได้แก่ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ (WSBK) และ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ (ARRC) ในปี 2019 โดยนักบิดที่ได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ดใน ศึก WSBK ที่จะดวลความเร็วที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในปี 2019 ได้แก่ "ติ๊งโน๊ต" ฐิติพงศ์ เจ้าของแชมป์ประจำปีในรุ่น SB1 และ "ตี" อนุภาพ แชมป์ประจำปีในรุ่น ST1 ขณะที่ สิทธิ์ไวล์การ์ด ศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 นั้นเป็น สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง ที่ได้ไป

ในขณะที่ "สนามช้าง" ก็ประกาศพร้อมสานต่อเกมการแข่งขันรายการ PTT BRIC Superbike ต่อไปเพื่อสานต่อความมันส์ ในฤดูกาลหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตต่อไป