First Ride สายพันธุ์สปอร์ต กับ Honda CB150R The ExMotion
หลังจาก เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ได้เปิดตัว
Honda CB150R The ExMotion สุดยอดมอเตอร์ไซค์สายพันธุ์สปอร์ตจากฮอนด้า เมื่อ 4 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา ล่าสุดทางเอ.พี.ฮอนด้าก็ได้เชิญทีมงาน Motorbike GURU Thailand by CheckRaka.com รวมถึงสื่อมวลชนสายมอเตอร์ไซค์ร่วมทดสอบขี่รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ Honda CB150R ณ สนามทดสอบ ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิก ปราจีนบุรี ปรู๊ฟวิ่งกราวนด์
การทดสอบแบ่งสื่อมวลชนออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละประมาณ 16 คน เพื่อแยกกันทดสอบใน 3 สถานี ประกอบด้วย
- สนามทดสอบทางตรง (Straight Course) สนามทดสอบทางตรงความยาว 1.2 กิโลเมตร ใช้ทดสอบอัตราการประหยัดน้ำมัน และอัตราการเร่งความเร็วหลังจากออกตัว
- สนามทดสอบทางโค้ง (Winding Course) สนามทดสอบทางโค้งความยาว 1.38 กิโลเมตร ใช้ทดสอบสมรรถนะโดยทั่วไป รวมถึงการทดสอบประสิทธิภาพของระบบเบรก และการควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง สนามทดสอบทางโค้งนี้มีการจำลองถนนที่มีการขึ้น-ลง และถนนที่มีมุมอับสายตา รวมมีทางโค้งทั้งหมด 17 โค้ง
- สนามทดสอบรูปวงรี (Oval Course) สนามทดสอบรูปวงรีความยาว 2.18 กิโลเมตร ใช้ทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ในขณะขับด้วยความเร็วสูง รวมถึงการทดสอบอื่นๆ เช่น ระดับเสียงของลมที่เข้ามาในห้องผู้โดยสาร และการควบคุมพวงมาลัย
ผู้เขียนเริ่มทดสอบที่สนามทดสอบทางตรงก่อน โดยสถานีนี้เป็นการขี่ทางตรงและเบรก 2 ช่วง เปรียบเสมือนการวิ่งควอเตอร์ไมล์ 2 รันติด เพื่อจับอาการรถออกตัวและเปลี่ยนเกียร์แบบรวดเร็ว พร้อมกับชะลอเบรก จากนั้นวนกลับพร้อมเร่งยาวกว่า 800 เมตร เพื่อลองการส่งถ่ายกำลังทุกเกียร์ ซึ่งผู้เขียนได้ลองเป็นลำดับที่ 6 พบว่าการเข้าเกียร์ 1 ค่อนข้างลำบากอยู่บ้าง อาจเป็นเพราะมีการเร่งและใช้ความเร็วเต็มที่ติดต่อกันแบบไม่พัก แต่พอเข้าได้แล้ว ก็เริ่มออกตัวพร้อมเปลี่ยนเกียร์อย่างฉับไวไต่ความเร็วเพื่อจับอาการรถ อัตราเร่งเป็นแบบขึ้นเรื่อยๆ ไม่หวือหวาแต่ก็ให้ความต่อเนื่อง การทรงตัวทางตรงขณะเร่งออกตัวทำได้ดี ช่วงเปลี่ยนเกียร์ 2 - 3 จับอาการหน้าสะบัดได้นิดๆ และความเร็วสูงสุดบนหน้าจอได้ราว 121 กม./ชม แต่ที่ประทับใจคือ ฟิลลิ่งการเบรก เพราะด้านหน้าเป็นแบบเรเดียลเมาท์ 4 Pot พร้อมจานขนาด 296 มม. และหลังใช้จานขนาด 220 มม. ให้ความรู้สึกตอบกลับที่ดีเยี่ยม ชะลอ-หยุดได้อย่างมีพลัง
จากนั้นได้รอจนจบการทดสอบทุกคน พร้อมย้ายไปสถานีต่อไปเป็นสนามทดสอบรูปวงรี ซึ่งใช้ทดสอบประสิทธิภาพการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ซึ่งต้องอาศัยองค์ประกอบสำคัญอย่างโช้กอัพหน้า-หลัง และยางเรเดียล การทดสอบขี่แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ขี่ทั้งหมด 4 รอบสนาม โดยมี CB150R เตรียมไว้ให้ 4 คัน ผู้เขียนได้รอบที่ 2 ออกตัวเป็นคันที่ 3 รอบแรกเป็นการทำความคุ้นเคยกับสนามวงรีโดยรอบ หลังจากนั้นก็สามารถใช้ความเร็วได้อย่างเต็มที่ ด้วยพื้นที่กว้างทำให้การขี่ไร้ความกังวลใดๆ การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงที่มีองศาโค้งเทรับทำให้การขี่จากเกียร์ 6 สูงสุด แทบไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ลงเลย ถ้าไม่ใช่เพราะติดคันหน้าและห้ามแซง การเข้าโค้งตัวรถให้สมดุลที่ดี เกาะไลน์เข้าไปได้อย่างมั่นคง ส่วนการทำความเร็วสูงต่อเนื่อง ก็ให้ความรู้สึกที่มั่นใจ ส่วนหนึ่งเพราะช่วงล่างที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าเฟรมที่พัฒนาจากรถโมโตจีพีซึ่งออกแบบวางจุด CG ให้ใกล้ผู้ขี่มากที่สุด ผสานกับโช้กอัพหน้าหัวกลับขนาด 41 มม. และยางหลังกว้างขนาด 150 มม. ความเร็วสูงสุดในสถานีนี้ผู้เขียนทำได้ คือ 128 กม./ชม.
มาถึงสถานีทดสอบสุดท้าย สนามทดสอบทางโค้ง ซึ่งเป็นเสมือนสนามแข่งแบบมินิเรซที่มีโค้งซ้าย-ขวา และเนินสลับกันอยู่ตลอด โดยจะเน้นดูเรื่องของอัตราเร่ง และความคล่องตัวในการพลิกเข้า-ออกโค้ง ซึ่งพบว่า CB150R ที่เมื่อต้องผ่อนและเร่งเพื่อเข้าออกโค้ง ให้การตอบสนองที่ดี ไม่รอรอบ ควบคุมง่าย การพลิกเข้าโค้งทำได้อย่างคล่องแคล่ว และสนุก เมื่อเจอกับเนินกระแทก ทำให้หน้ารถลอยแต่ก็ยังควบคุมได้และไปต่อได้อย่างสบายๆ การเข้าโค้งแคบก็ทำได้ดีเยี่ยม โดยรวมเป็นมอเตอร์ไซค์คลาส 150 (149) ซีซี ที่ขี่แบบจริงจังแล้วมั่นใจ ทั้งยังขี่ได้สนุกในทุกการทดสอบ ด้วยสเปคที่ดีเกินคลาส เชื่อว่ากระแสตอบรับของ CB150R จะดีไม่แพ้สเปค
สนามทดสอบ ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค ปราจีนบุรี เป็นสนามทดสอบแบบครบวงจรที่มีเอกลักษณ์ และได้รับการออกแบบมาสำหรับภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียโดยเฉพาะ ด้วยเงินลงทุน 1,700 ล้านบาท สำหรับการก่อสร้างสนามทดสอบ ที่ประกอบด้วย 8 สนาม บนพื้นที่กว่า 500 ไร่ (หรือประมาณ 800,000 ตร.ม.) โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 ที่มีสนามทดสอบของฮอนด้า ต่อจากประเทศญี่ปุ่น และประเทศสหรัฐอเมริกา