Yamaha Army Press Touring Trip รวมขุมกำลังคลาส 150 ซีซี นำโดย R15 พิสูจน์สมรรถนะทางไกล
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมายามาฮ่า จัดทริป
"Yamaha Army Press Touring Trip" เชิญสื่อมวลชนชั้นนำมาขี่ทดสอบแบบใช้งานจริงด้วยมอเตอร์ไซค์หลากหลายรุ่นในคลาส 150 ซีซี ประกอบด้วย
YZF-R15 ใหม่,
NMAX ,
AEROX 155 และ
M-slaz เพื่อสัมผัสถึงสมรรถนะและประสบการณ์ใช้งานทางไกล โดยเส้นทาง วิ่งจาก กรุงเทพฯ - สัตหีบ มีรถทั้งหมด 8 คัน แบ่งเป็น รุ่นละ 2 คัน ทีมงาน Motorbike GURU ของเช็คราคา.คอม เข้าร่วมทริปทดสอบในครั้งนี้โดยได้ขี่ Yamaha R15 ใหม่
ก่อนการเดินทางเริ่มต้นออกจาก บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ราว 9.00 น. ใช้เส้นทางบางนา-ตลาด ขี่กันแบบกลุ่ม มุ่งหน้าสู่ชายหาดบางแสนอันเป็นจุดพักแรก การเดินทางใช้ความเร็วส่วนใหญ่ที่ 90 กม./ชม ด้วยสภาพการจราจรที่มีรถตลอดเส้นทางหลัก และมีฝนตกโปรยปรายเป็นระยะ พื้นผิวถนนส่วนใหญ่เปียกและมีน้ำท่วมขังหลายจุด แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง ขบวนมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่าขุมพลัง 150 เกาะกลุ่มเดินทางกันสบายๆ จนมาถึงชายหาดบางแสนราว 10.00 น. สมาชิกก็ได้ถือโอกาสพักและถ่ายรูปคู่กับ R15 รถรุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่เปิดตัว
ขบวนฯ ออกเดินทางกันต่อ พร้อมสลับรถขี่ ผู้เขียนได้เปลี่ยนมาคร่อม M-Slaz รุ่นใหม่ การปรับตำแหน่งการนั่งเปลี่ยนจากเดิมที่ต้องก้มแบบสปอร์ตมาเป็นนั่งกางแขนหลังเกือบตรง ซึ่งผู้เขียนคุ้นเคยกับ M-Slaz อยู่แล้วเพราะมีโอกาสขี่ออกทริปยาวๆ หลายครั้ง ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาปรับความเคยชินมากนัก และ M-Slaz ก็ยังเป็นรถที่ขี่ได้คล้องแคล่วและสนุกเช่นเดิม
ส่วนจุดหมายต่อไปของทริปคือ วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ซึ่งวัดแห่งนี้มีความยิ่งใหญ่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ทำให้เส้นทางที่ตัดผ่านจากถนนสุขุมวิทสู่ทางหลวงหมายเลข 331 ช่วงนี้มีความสวยงามและนับเป็นเส้นทางขี่มอเตอร์ไซค์และปั่นจักรยานยอดนิยมอีกแห่งหนึ่ง
ขบวนฯ เดินทางไปตามถนนสุขุมวิทขี่ผ่านพัทยา ซึ่งการจราจรเริ่มหนาแน่นและวุ่นวาย แต่ด้วยความคล่องตัวของมอเตอร์ไซด์ยามาฮ่ารุ่นใหม่อย่าง R15 หรือ M-Slaz ที่ผู้เขียนขี่อยู่ รวมทั้งรุ่นอื่นๆ ในคลาส 150 ด้วยกัน ก็สามารถผ่านจราจรที่แสนวุ่นวายไปได้แบบสบายๆ จนตัดเข้าสู่เส้นทางเข้าวัดญานฯ เพื่อไปแวะถ่ายรูปและพักเก็บเกี่ยวบรรยากาศช่วงสั้นๆ
จากนั้นขบวนฯ เดินทางต่อ ช่วงนี้เส้นทางมีความสวยงามมาก หลังจากตัดเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 331 ซึ่งค่อนข้างโล่ง ทำให้สมาชิกแต่ละคนสามารถใช้ความเร็วได้เต็มที่ จุดนี้วัดกันที่น้ำหนักตัวและทรงของรถว่าใครจะไปได้แรงกว่า แน่นอนว่า R15 ใหม่ กับความเป็นรถทรงสปอร์ตสามารถทะยานขึ้นนำกลุ่มไปได้อย่างรวดเร็ว ผู้เขียนแม้ต้องสู้กับลมที่ปะทะเข้ามาตลอด แต่พลังของ M-Slaz ก็เพียงพอต่อการไล่เกาะติดกลุ่มไม่ให้หลุดหนีไปไกล
ขบวนฯ มาถึงหาดนางรำ สัตหีบ พร้อมพักรับประทานอาหารกลางวัน และดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดชิลริมทะเล สะท้อนให้เห็นว่ามอเตอร์ไซด์คลาส 150 ซีซี ก็ใช้ขี่ทางไกล ท่องเที่ยวได้แบบสบายๆ โดยเฉพาะ R15 ใหม่ ที่ขี่แล้วดูดีตลอดการเดินทางจริงๆ เวลาไปจอดพักที่ไหนก็มักได้รับความสนใจจากผู้พบเห็น หลังจากหนังท้องตึงหนังตาหย่อนไปกับสายลมชายทะเล ขบวนฯ ก็ต้องออกเดินทางกันต่อเพื่อไปทำกิจกรรมปลุกประสาทสัมผัสอย่าง บีบีกัน ที่ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า ในกองพลนาวิกโยธิน สมาชิกขี่กันมา 8 คน แบ่งทีมกันได้พอดี และได้เจ้าหน้าที่มาช่วยสมทบอีกฝั่งละคน ทำให้เกมสาดกระสุนเข้มข้นเร้าใจมากขึ้น หลังจากใช้เวลาผลาญแคลอรี่กันเกือบ 2 ชั่วโมง ก็ได้เวลาเดินทางกันต่อเพื่อเข้าที่พักแถวอ่างเก็บน้ำมาบประชัน ส่วนผู้เขียนสลับมาขี่ยามาฮ่า NMAX ซึ่งเป็นสกู๊ตเตอร์สปอร์ตเมติก ขี่ด้วยท่านั่งสบายสุดๆ หลังจากขี่ยาวๆ บอกได้เลยว่าชอบที่ความนุ่มแต่หนึบของช่วงล่าง กำลังแรงดี และคล่องตัวมาก ยกให้เป็นมอเตอร์ไซค์ดีแบบ all round รุ่นหนึ่งเลย
ช่วงเย็นของการเดินทางนับเป็นไฮไลท์ของทริปนี้อย่างแท้จริง เพราะขบวนฯ ขี่ออกจากแยกโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ได้ไม่นานก็เจอกับพายุฝนกระหน่ำ จนต้องจอดพักข้างทาง แต่เนื่องจากเริ่มมืดแล้วจึงตัดสินใจเดินทางกันต่อ แม้พายุจะโหมกระหน่ำ แต่ผู้เขียนและเพื่อนสมาชิกสื่อก็สามารถบิดฝ่าสายฝนไปได้อย่างไม่มีปัญหา พิสูจน์สมรรถนะ การยึดเกาะ และความแข็งแกร่งของตัวรถกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี ช่วงเข้าสู่บางเสร่ฝนก็เริ่มซาและหยุด พร้อมกับแสงพระอาทิตย์ที่เริ่มจางหาย ขบวนฯ เปลี่ยนมาใช้เส้นทางลัดจากแยกจอมเทียนเข้าสู่ถนนเทศบาล 1 เพื่อเลาะลัดไปโรงแรมแม็กโนเลีย มาบประชัน อันเป็นจุดหมายปลายทางของทริปนี้ การขี่ในช่วงนี้ค่อนข้างลำบากเพราะแทบไม่มีแสงไฟจากถนน บางช่วงเป็นทางดินเปียก บางช่วงมีโค้งแคบซ้าย-ขวา เพราะเป็นถนนชุมชน ทำให้ต้องมีสมาธิกับการขี่อยู่ตลอดเวลา
ขบวนฯ มาถึงโรงแรมโดยสวัสดิภาพ มอเตอร์ไซค์ยามาฮ่าทุกคันทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้ขุมกำลังอยู่ในระดับ 150 ซีซี แต่ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ายอดเยี่ยมเกินตัวจริงๆ ทั้งกำลังจากเครื่องยนต์ การยึดเกาะถนนแห้งและเปียก ระบบเบรกที่ไว้ใจได้ทุกสถานการณ์ตลอดทริปนี้ สำหรับผู้เขียนมองว่าด้วยราคาค่าตัว 6-9 หมื่นบาท ได้มอเตอร์ไซค์คุณภาพ ใช้งานในชีวิตประจำวันแล้วยังขี่ออกทริปท่องเที่ยวได้สบายๆ แบบนี้ นับเป็นความคุ้มค่าอย่างแท้จริง !