Honda Japan เปิดตัว CBR250RR ใหม่! สปอร์ตไบค์สุดเฉี่ยว เท่ทุกครั้งเวลาขี่
Honda CBR250RR รุ่นปี 2017 คือรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดจาก ฮอนด้า ที่เปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากเผยโฉมอย่างเป็นทางการในงาน Tokyo Motor Show เมื่อปี 2015 โดยการเปิดตัวจำหน่ายในครั้งนี้ ตามหลังจากการเปิดตัวขายในอินโดนีเซียไปเมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนในไทยจะมาหรือไม่ โปรดติดตาม!
Honda CBR250RR ถือเป็นคู่แข่งสายตรงกับสปอร์ตไบค์คลาสเดียวกันอย่าง Yamaha R25 และ Kawasaki Ninja 250 โดยมาพร้อม Slogan "Total Control ~ Maximizing fun to manipulate" รถสปอร์ตน้ำหนักเบา ดีไซน์มาจากรถแข่งในสนาม ด้วยรูปทรงลิ่ม ที่โดดเด่นเมื่อแรกเห็น นั่นคือชุดไฟหน้าแบบ LED 2 ชั้น เฉกเช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ ในตระกูล CBR แฟริ่งเน้นความเฉียบคม สปอร์ต เฟรมทำจากท่อเหล็กแบบ Truss Frame แข็งแกร่งทุกสภาวะ
Honda CBR250RR มีมิติตัวรถยาว 2,065 มม. กว้าง 725 มม. สูง 1,095 มม. ระยะฐานล้อ 1,390 มม. ความสูงจากพื้นรถ 145 มม. และมีน้ำหนักรถ 165 กิโลกรัม (สำหรับรุ่น ABS 167 กิโลกรัม)
Honda CBR250RR มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาด 249 ซีซี รหัส MC51 แบบ 2 สูบแถวเรียง DOHC 8 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 38 แรงม้า ที่ 12,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 2.3 กก.-ม. (23 นิวตัน-เมตร) ที่ 11,000 รอบ/นาที ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบจุดระเบิดแบบดิจิตอล จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด PGM-Fi พร้อมส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ 6 สปีดแบบ Throttle-by-wire System และสตาร์ตด้วยไฟฟ้า
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงทำได้ดีทีเดียว วัดตามมาตรฐานของกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น สามารถทำได้มากถึง 40.1 กม./ลิตร ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. (เมื่อนั่ง 2 คน) และหากวัดตาม WMTC Mode (World Motorcycle Test Cycle) ในคลาส 3-2 สามารถทำได้ถึง 26.7 กม./ลิตร (เมื่อขี่แค่คนเดียว)
โช้กอัพหน้าเป็นแบบเทเลสโคปิก ส่วนโช้กอัพหลังแบบสวิงอาร์ม ปรับได้ 5 ระดับ ระบบเบรกคู่หน้าแบบดิสก์เบรกขนาด 310 มม. ลูกสูบคู่ ส่วนระบบเบรกหลังเป็นดิสก์เบรกขนาด 240 มม. ลูกสูบเดี่ยว ถังน้ำมันมีความจุ 14 ลิตร
เรือนไมล์แบบใหม่ ตัวเลขและตัวหนังสือสีแดงกับสีขาวบนพื้นสีน้ำเงิน ดูแล้วสบายตา รวมถึงยังมีการบอกตำแหน่งของเกียร์บนหน้าจอ และ Mode ในการขับขี่ พร้อมนาฬิกาบอกเวลาด้วย
Honda CBR250RR พร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม นี้เป็นต้นไป ในราคาเริ่มต้นที่ 756,000 เยน ไปถึงรุ่น Top สุด 828,360 เยน มีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Sword Silver Metallic, Victory Red และ Matte Gun Powder Black Metallic
ขอบคุณข้อมูลจาก
www.honda.co.jp