ลองขี่
New BMW F 900 GS ใหม่ บิดแรงและลื่นขึ้นทางเรียบทางฝุ่นสบายกว่านุ่มกว่าเดิม ในทริปนี้มีให้ได้ลองครบทั้ง 2 แบบตัวถังและ3 รุ่นย่อย เครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่ 2 สูบแถวเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด
895 ซีซี (เดิม 853) ให้กำลังสูงสุด 77 กิโลวัตต์ / 105 แรงม้า ที่ 8,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 93 นิวตันเมตร ที่ 6,750 รอบต่อนาที สไตบ์ขับขี่แบบทัวริ่งและออฟโรด ในรุ่น
GS และ
GS Trophy ถังน้ำมันขนาด 14.5 ลิตรที่ออกแบบใหม่ ผนวกกับการปรับส่วนท้ายรถและท่อไอเสีย Akrapovič ส่วน GS Adventure ถังใหญ่ขึ้นเป็น 23 ลิตร
โหมดการขับขี่มาตรฐานสองแบบ ได้แก่ Rain และ Road เพื่อการควบคุมที่เหมาะสมที่สุดในสภาพการขับขี่ที่หลากหลาย ระบบ Dynamic Traction Control (DTC) และ ABS Pro ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการเข้าโค้งและการเบรก โหมด Riding Modes Pro ที่เป็นอุปกรณ์เสริมจะเพิ่มโหมด Dynamic, Enduro และ Enduro Pro ซึ่งจะปรับการตอบสนองของคันเร่งและการเบรกให้รับกับทุกสภาพพื้นผิว นอกจากนี้ Riding Modes Pro ยังช่วยให้คนขับขี่สามารถเลือกตั้งค่าปุ่มต่าง ๆ ที่แฮนด์ด้านขวา และการควบคุมแรงบิดลากของเครื่องยนต์เป็นอีกองค์ประกอบใหม่ของ Riding Modes Pro ระบบ Dynamic Traction Control (DTC) แฮนด์จับแบบอุ่น (heated grips)
- เพิ่มกาดใต้เครื่องยนต์
- สี 3 สี
- ชิลด์หน้าสูงขึ้น
- แฮนด์การ์ดอลูมิเนียม
- ถังน้ำมันขนาดใหญ่ขึ้น 23 ลิตร
- เบาะนั่งใหญ่สบายขึ้น
- โช้คหลังปรับไฟฟ้าตามโหมดการขับขี่และตั้งค่าเองได้
- ชุดไฟหน้าเพิ่มความสว่างมากขึ้น
- ชิวหน้าใหญ่ขึ้น
BMW F 900 GS
BMW F 900 F 900 GS Trophy
BMW F 900 GS Adventure
สมรรถนะ เบาขึ้น ขี่ง่าย นุ่มนวล และมีเมื่อย..!
1
สำหรับการทดลองขับขี่ครั้งนี้เป็นการเริ่มออกจากที่พัก Movenpick resort เขาใหญ่ขับขี่ลัดเลาะไปตามเส้นทางใกล้เคียงผ่านวังน้ำเขียว อ่าวเก็บน้ำบ้านสันกำแพง และขับลัดเลาะไปตามเส้นทางแบบ ออฟโร้ดเบา ๆ พอให้สัมผัสความรู้สึกในการขับขี่ครั้งนี้ รวมระยะทางราว ๆ กว่า 100 กม. ทั้งทางเรียบและทางฝุ่น
เริ่มที่รุ่น
F 900 GS ธรรมดาก่อนคันสีเหลืองจากที่ได้ลองสัมผัสแรกรู้สึกว่ามีความเบา ควบคุมง่าย ท่านั่งสูงขึ้นต้องเขย่งเล็กน้อย (ผู้ขับสูง 176 ซม.) เพราะในรุ่นนี้ถูกปรับให้ผอมเพรียวตัวรถและเบาะนั่งจะบางและแคบลงเพื่อเน้นการขับขี่ในรูปแบบ
Drart หรือ
Off Road มากขึ้น ทั้งการทำน้ำหนักเบาลง รวมถึงโช้คหน้าหลังที่ปรับได้ทั้งระดับและความหนืด ทำให้สามารถขับขี่บนเส้นทางออฟโร้ดได้มันขึ้น ส่วนถ้าจะขับบนทางเรียบก็ยังคงให้ความนุ่มนวลและเบาคล่องตัวได้อีกด้วยครับ
สมรรถนะของ F 900 GS เครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่ได้สเปคเยอรมันแท้กับกำลัง 105 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 93 นิวตันเมตร พร้อมท่อไอเสียรีดพลังน้ำหนักเบาอย่าง Akrapovič ทำให้บิดติดมือแรงเกินต้าน โดยเฉพาะโหมด "Dynamic" หรือคล้ายโหมดสปอร์ต ขยับข้อมือนิดเดียวรถพุ่งตาม ตอบสนองคันเร่งได้ดีมาก ๆ แต่ต้องระวังเพราะถ้ายังคุมน้ำหนักการบิดไม่ชำนาญพออาจทำให้รถพุ่งแรงเกินไปจนเกิดอันตรายได้ครับ แนะนำว่าใช้โหมด "ROAD" ก็เหลือ ๆ แล้ว
มาถึงช่วงทางฝุ่นหรืออฟโร้ดเบา ๆ สลับเป็นรถเป็น
F 900 GS Adventure แต่ก่อนเข้าทางฝุ่นขับผ่านเส้นทางถนนปกตินั้น รุ่นนี้ถือว่าขับขี่สบายกว่าและให้ความนุ่มนวลและอาการสั่นของเครื่องยนต์เบาลงกว่า นับว่าหากขับขี่บนทางดำทั่วไปหรือจะแนวทัวร์ริ่งคันนี้ตอบโจทย์มาก ๆ ครับ ได้ทั้งความเบา นุ่มนวล ขี่สบาย และชิวบังลมที่กั้นลมปะทะลำตัวหรือหมวกได้ดีเกินคาด ให้ความคล่องตัวพริ้วในโค้งได้ดี แม้ถังน้ำมันจะใหญ่ขึ้นก็ตาม
ในช่วงขับเส้นทางออฟโร้ดเบา ๆ ไม่โหดมาก พอสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลที่ยังคงอยู่แม่จะตกหลุมบ่อย ๆ เจอร่องลึกตะเข็บหรือสภาพผิวทางที่เป็นกรวดลอย ก็สามารถขับขี่ไปได้อย่างสบาย ๆเลยครับ แม้จะไม่ได้มีทักษะด้านกับขี่เส้นทางแบบนี้มากนัก F 900 ก็สามารถช่วยให้ขับผ่านไปได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย ไม่เหนื่อยไม่ต้องลุ้นมากนัก และยังให้การทรงตัวที่ดี ทั้งที่ใช้ยางทางเรียบเดิม ๆ ติดรถ ถือว่าจะขับเส้นทางไหนก็ไปได้หมดห่วง และระบบเกียร์ของ F 900 GS เมื่อออกตัวไปแล้วสามารถตกเกียร์โดยไม่กำคลัตช์ได้นุ่มนวลกว่าในรุ่นพี่ ๆ อย่าง R 1300 GS เสียอีก!
*การขับขี่ครั้งนี้อยู่ภายใต้การดูแลจากทีม BMW Motorrad thailand
ระบบช่วยเหลือการขับขี่เยอะปลอดภัย
BMW F 900 GS มาพร้อมระบบความปลอดภัยมากมายโดยเฉพาะระบบที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและง่ายขึ้นได้แก่ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ช่วยให้เคลื่อนรถบนทางชันได้ง่ายขึ้น ระบบ Dynamic Brake Control (DBC) ป้องกันการเร่งเครื่องโดยไม่ได้ตั้งใจในสถานการณ์เบรกฉุกเฉิน ระบบ Dynamic Traction Control (DTC) บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ABS Pro มอบความปลอดภัยยิ่งขึ้นในระหว่างการเข้าโค้งและการเบรกกะทันหัน
สรุปความคุ้มค่า
BMW F 900 GS นับเป็นรถสไตล์ Aventure ที่สามารถขับขี่ได้ทั้งแบบ On และ Off Road หรือว่าจะลุยทางฝุ่นโหดในรูปแบบ Motocross ไปเลยก็ย่อมทำได้สบาย ได้ทั้งพละกำลัง @ สูง ที่แรงสะใจ ช่วงล่างนุ่มนวล และน้ำหนักเบาขี่ง่ายคล่องตัว สมรรถนะครบถ้วนสมฐานะในความเป็นแบรนด์เยอรมัน แม่ค่าตัวจะดูสูง ๆ ไปหน่อย แต่เมื่อเทียบกับฟังก์ชั่นของรถกลุ่มนี้ นับว่าไม่แพงเกินไป
สุดท้ายคุฯต้องไปทดลองขับขี่จับสัมผัสด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจว่าจะตรงกับความต้องการหรือตรงกับใจหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ซื้อมาแล้วอยากจะขยับรุ่นใหญ่ขึ้นเป็น R 1300 GS ก็ถือเป็นการซักซ้อมก่อนจะขยับไปขี่รุ่นใหญ่
- สีเหลือง São Paulo สำหรับรุ่น Passion
- สีขาวตัดฟ้า Lightwhite / Racing Blue Metallic สำหรับรุ่น GS Trophy
- สี Blackstorm Metallic สำหรับรุ่นพื้นฐาน
- สี White Aluminium Matt สำหรับรุ่น Ride Pro
พร้อมรับประกันเพิ่มเติมด้วยการขยายระยะเวลาการรับประกันมอเตอร์ไซค์คันใหม่ของคุณจากเดิม 36 เดือนออกไปอีกสองปีเต็ม ให้คุณขับขี่ได้อย่างสบายใจในทุกเส้นทางตลอด 60 เดือน พร้อมทั้งรับประกันงานซ่อมฟรีในกรณีที่เกิดความผิดปกติขึ้นกับรถในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งรวมถึง
- บริการซ่อมเป็นระยะเวลา 60 เดือน
- เข้ารับบริการได้ทั่วโลก
- ไม่จำกัดระยะทาง
- งานซ่อมทั้งหมดใช้อะไหล่ของแท้ของ BMW Motorrad
นอกจากจะขับขี่ได้อย่างสบายใจไร้กังวลในทุกเส้นทางแล้ว การขยายระยะเวลารับประกันยังช่วยรักษามูลค่าขายต่อให้กับมอเตอร์ไซค์ BMW คันใหม่ของคุณด้วยเช่นกัน