ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถมอเตอร์ไซค์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

Test on track ซูเปอร์ไบค์ ‘NEW CBR1000RR-R FIREBLADE SP’ พร้อมสุดยอดเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด

icon 18 พ.ย. 67 icon 358
Test on track ซูเปอร์ไบค์ ‘NEW CBR1000RR-R FIREBLADE SP’  พร้อมสุดยอดเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด
บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย  เชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์รุ่น CBR1000RR-R FIREBLADE ใหม่ภายใต้คอนเซปต์ ‘BORN TO RACE’ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
หลังฮอนด้าบิ๊กไบค์ เปิดตัว CBR1000RR-R FIREBLADE SP ใหม่ซูเปอร์ไบค์สายพันธุ์แข่งระดับท็อปคลาส ครั้งแรกภายในงาน ไทยจีพี 2024  ล่าสุดได้เชิญสื่อมวลชนชั้นนำร่วมขี่ทดสอบและสนุกไปกับการขี่แบบเอนดูรานซ์ ไนท์รัน นับเป็นครั้งแรกที่ได้ขี่กลางคืนและได้สนุกไปกับการขี่เอนดูรานซ์ระหว่างทีมเพื่อนสื่อมวลชนด้วยกัน นอกจากนี้ก็ยังได้ขี่กลางวันในอีกวันด้วย เรียกว่าครบรสเต็มอิ่มกับการได้ขี่ฮอนด้า CBR1000RR-R FIREBLADE SP ใหม่
ก่อนอื่นเราไปเช็ครายรายละเอียดสำคัญของตัวรถกันก่อน เริ่มจากรูปโฉมที่ได้ให้สปอร์ตดุดันมากยิ่งขึ้นด้วยกับแฟริ่งใหม่ ช่วยลดแรงต้านอากาศ และเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวให้มั่นคงยิ่งขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูงในการเข้าโค้ง ปีกข้างดีไซน์ใหม่ถอดแบบเทคโนโลยีมาจาก RC213V-S เพิ่มประสิทธิภาพเรื่องแรงกด ลดการยกตัวของล้อหน้าเมื่ออกตัวด้วยความเร็วสูง พร้อมด้วย Wind Protection ดีไซน์ใหม่ สะท้อนความเป็น Racing Replica ช่วยลดการปะทะแรงลม ลดการส่าย ควบคุมรถได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังตอบสนองทุกความเร็วด้วยเบาะนั่งที่ออกแบบใหม่สามารถหมอบได้ต่ำกว่าเดิม พร้อบปรับองศา Handlebar และที่วางเท้าใหม่เพื่อท่านั่งที่ Racing มากยิ่งขึ้น โดยรวมเหมือนตัวแข่งมากยิ่งขึ้น
ด้านขุมพลังเครื่องยนต์ยังคงใช้บล็อคเดิมขนาด 1,000 ซีซี 4 สูบเรียง แต่ปรับรายละเอียดและการทำงานภายในใหม่แบบชัดเจน ฝาสูบและการส่งไอดีใหม่ ให้เครื่องยนต์รอบกลางมีกำลังแรง ดุดันยิ่งขึ้น พร้อมพัฒนาระบบอัตราทดเกียร์ให้สอดคล้องกับกำลังเครื่องยนต์ อีกทั้งเป็นครั้งแรกที่ใช้เทคโนโลยี ระบบคันเร่งไฟฟ้า 2 Motor Throttle by Wire (TBW) จากสนามแข่งกับซูเปอร์ไบค์ที่เป็นโปรดัคชั่น โดยระบบคันเร่งไฟฟ้า 2 มอเตอร์ คือการแยกมอเตอร์ออกเป็น 2 ตัว ใช้ในการควบคุมการทำงานของกระบอกสูบออกจากกัน ช่วยในการควบคุมพลังงานเครื่องยนต์แม่นยำยิ่งขึ้น เช่นช่วงเข้าโค้งตัวรถที่ทำมุมเอียงเกินกว่าค่าที่กำหนดจากการคำนวนโดยกล่องคอมพิวเตอร์ที่วัดแกน IMU เครื่องยนต์ก็จะทำงานเพียง 2 สูบ เพื่อให้การเดินคันเร่งไม่มีแรงบิดที่มากเกินไปจนเสียการควบคุมเวลาออกจากโค้ง พอรถตั้งตรงจึงกลับมาทำงานครบ 4 สูบอีกครั้ง จุดนี้ทำให้การขี่นั่นง่ายมากขึ้นซึ่งผู้เขียนลองแล้วเป็นเช่นนั้นจริงๆ
การขี่ทดสอบครั้งแรก CBR1000RR-R FIREBLADE SP ใหม่ นับเป็นครั้งแรกในไทยนับตั้งแต่เปิดตัว แม้เป็นรถที่เคลมได้ทั้งขี่ถนนและแทร็ค แต่การทดสอบสมรรถนะให้ได้ดีที่สุดก็ต้องเป็นในแทร็คอย่างสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล การขี่วันแรกเริ่มในช่วงเย็นแบ่งออกเป็น 2 เซสชั่น มีเวลา 10 นาทีต่อเซสชั่น ช่วงแรกผู้เขียนที่มีเวลาเตรียมตัวไม่นานกับไนท์รัน สำหรับสถานการณ์แบบนี้ควรใช้ชิลด์หน้าแบบใสและมีเทียร์ออฟเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนและลอกแมลงที่บินมาติดด้านหน้าชิลด์ได้สะดวก เชสชั่นนี้เป็นการขี่แบบทำความคุ้นชินกับตัวรถไม่ว่ามิติ ท่านั่ง และคาแรคเตอร์การทำงานของเครื่องยนต์ ตลอดจนระบบช่วยเหลือต่างๆ โชคดีที่ทางทีมงานไทยฮอนด้าได้เซ็ตติ้งการเซอร์วิสการขี่ทดสอบครั้งนี้เสมือนการแข่งขันมีผ้าห่มวอร์มยาง และทีมงานพร้อมทุกอย่างเพื่อให้รถแสดงสมรรถนะออกมาได้ดีสุด ในเซสชั่นที่ 2 ผู้เขียนเริ่มคุ้มชินกับตัวรถมากยิ่งขึ้น เริ่มทำความเร็วได้อย่างที่ต้องการมากขึ้น ขี่ด้วยความมั่นใจ ระบบเบรกที่ลองทั้งชะลอเบาในหลายๆ โค้งให้ฟิตแบคที่ดีมากๆ ตัวรถนิ่งและทำให้เดินคันเร่งเข้าโค้งได้อย่างสมูธ การเร่งออกจากโค้งทำได้ดีเช่นกันกับเทคโนโลยีใหม่ การลองเร่งเปิดออกจากโค้ง 3 ขณะรถยังทำมุมลีนอยู่พบว่ายางด้านหลังมีอาการสไลด์แต่ระบบช่วยเหลือต่างๆ ก็ทำงานสอดประสานจนทำให้ประคองแก้รถกลับมาตรงแล้วเร่งต่อได้ทันใจ จนจบเซลชั่นด้วยการทำเวลาเร็วต่อรอบได้ต่ำกว่า 2 นาที ต้องยกให้  CBR1000RR-R FIREBLADE SP ใหม่ ที่ขี่แรง นิ่ง และง่ายต่อการควบคุม
การขี่เอนดูรานซ์แบบไนท์รันระหว่างทีมสื่อมวลชน ได้จำลองเสมือนเอนดูรานซ์จริงๆ โดยแบ่งออกเป็นทีม ซึ่งแต่ละทีมมีนักแข่งทีมฮอนด้ามาคุมและโค้ชให้ เพื่อหาว่าทีมไหนขี่ทำรอบได้เยอะสุดในเวลาทั้งหมด 15 นาที ซึ่งก็ต้องตกลงกันในทีมเองใครจะขี่ก่อนหลัง ตลอดจนโค้ชสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ระหว่างแข่งโดยแจ้งผ่านป้ายบอกหน้าแกรนด์สแตนด์ สร้างบรรยากาศเสมือนการแข่ง แน่นอนว่าทุกคนก็ตั้งเป้าทั้งการขี่และวางแผน สร้างความสนุกสนาน แปลกใหม่ให้กับการทดสอบในครั้งนี้ และจบลงด้วยรอยยิ้มเพราะของรางวัลมีให้ทุกทีมแตกต่างกันไป ส่วนในวันรุ่งขึ้นเป็นการขี่ตอนกลางวันผู้เขียนได้ลงไปลองอีกเซสชั่นและลองรุ่น CBR650R E-Clutch ซึ่งเห็นความแตกต่างชัดเจนมากๆ กับการขี่ในแทร็คแบบนี้ แน่นนอนความต่างย่อมเป็นไปตามราคาค่าตัวที่ห่างกัน 4 เท่า เอาเป็นว่าถ้าใครไม่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณอยากได้ซูเปอร์ไบค์ดีแบบครบเครื่องรุ่นเดียวจบ พร้อมมีกิจกรรมแทร็คเดย์รองรับให้สนุกไปตลอดทั้งปี
ฮอนด้า CBR1000RR-R FIREBLADE SP ใหม่ สี Grand Prix Red ราคา  1,134,000 บาท พร้อมให้เป็นเจ้าของที่ศูนย์ Honda BigWing ทั่วประเทศ หรือสามารถสัมผัสรถคันจริงก่อนตัดสินใจได้ที่บูธ Honda งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 
 
แท็กที่เกี่ยวข้อง CBR1000RR-R honda motorcycle all new cbr1000rr-r fireblade
Motorbike Guru
เขียนโดย ชลัคร ช่วยชู Motorbike Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)