ฮอนด้าบิ๊กไบค์ จัดกิจกรรมรู้ใจให้สายแอดเวนเจอร์ที่ใช้บิ๊กไบค์ฮอนด้า ‘XVENTURE : Beyond the Frontier’ คือการนำพาขบวนไบค์เกอร์สายแอดเวนเจอร์ขี่ข้ามจากประเทศไทยสู่ลาว โดยครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นที่จังหวัดน่าน ขี่เข้าสู่เมืองหลวงพระบาง และเมืองอุดมไชย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีไบค์เกอร์สมัครมาร่วมผจญภัยทริปกิจกรรมนี้กว่า 50 คน ทั้งมาคนเดียวและคู่รู้ใจ ตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืน พร้อมกันนี้ตัวแทนจากมอเตอร์ไบค์กูรูก็ได้รับเชิญเข้าร่วมเดินทางไปด้วย
สำหรับกิจกรรม ‘XVENTURE: Beyond the Frontier’ ครั้งนี้ ไบค์เกอร์แบกความหวังที่จะมาได้สัมผัสประสบการณ์อันท้าทายบนเส้นทางที่แปลกแตกต่างและหลากหลายจากที่คุ้นเคย และนั่นคือ สิ่งหลายคนมักแสวงหา การเดินทางใหม่ๆ กับเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ทั้งถนนดำ ชนบท และเส้นทางสัญจนชุมชน นอกจากนี้ยังมีเส้นทางออฟโร้ดให้ตื่นเต้นและปล่อยของกันตามความสมัครใจ ทริป XVENTURE ไม่ใช่แค่การขี่เดินทางไกลอย่างเดียว แต่ยังได้แวะจอดชมแหล่งท่องเที่ยวในแต่ละเมืองที่ผ่านพร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไปด้วยอย่างเช่น ที่หลวงพระบาง ก็ได้ข้ามแพไปเที่ยวน้ำตกตาดกว้างสี พักจุดแวะของนักเดินทางอย่างปากแบ่ง การพักแรมก็แสนสบายกับโรงแรมระดับหรูอย่าง The Grand Luang Prabang และ Namkat Yorlapa รีสอร์ต
สำหรับผู้เขียนที่ได้ไปร่วมกิจกรรมครั้งนี้ได้ใช้ฮอนด้า บิ๊กไบค์รุ่น
XL750 Transalp สีขาวที่มี
ราคาค่าตัว 394,000 บาท นับเป็นบิ๊กไบค์แนวแอดเวนเจอร์รุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์
นอกจากความสดใหม่แล้วยังมีราคาและสมรรถนะที่ลงตัวกับทุกทริป เป็นมาตรฐานที่ดีสำหรับไบค์เกอร์ที่ต้องการรถคู่ใจบิดทางไกลท่องเที่ยวแบบออนออฟโร้ด ด้วยความที่เคยลองขี่มาก่อนหน้าจากกิจกรรมทดสอบจึงทำให้คุ้นเคยกับตัวรถและมีความชอบรุ่นนี้อยู่ด้วยเหตุผล ขนาดขุมกำลัง น้ำหนักตัว และการคอนโทรลให้ความพอดีแบบ all round adventure
ขบวนบิ๊กไบค์ XVENTURE ของสมาชิกในทริปนี้ก็มีหลากหลายรุ่น เช่น Honda Transalp, AfricaTwin, X-ADV, NC750X, NX500 และ CB500X แต่ส่วนใหญ่เป็น แอฟริกาทวิน ทยอยออกตัวกันจาก อ.ปัว จังหวัดน่าน สู่ด่านห้วยโก๋น เพื่อข้ามไป สปป.ลาว ฝั่งที่ติดกับด่านคือ เมืองเงิน ซึ่งจุดนี้ใช้เวลาค่อนข้างมากที่ตรวจคนเข้าเมืองลาว เพราะมีจุดบริการเดียว ไม่ค่อยมีรถสินค้าใหญ่ผ่าน มีแต่รถมอเตอร์ไซค์ชาวบ้าน 2 ฝั่งค้าขาย-เดินทางกัน ใช้เวลาอยู่นานพอสมควรเพราะสมาชิกเกือบ 50 คน เสร็จจากเอกสารครบก็ขี่มุ่งไปเมืองหงสาเพื่อแวะรับประทานอาหารกลางวัน เราใช้เวลากันกระชับจากจุดนี้เพื่อเซฟเวลาที่ต้องขี่ไปเมืองหลวงพระบางจุดหมายปลายทางของวัน ขี่กันมาเกือบ 200 กม. ได้จุดที่ทางทีมจัดงานเสนอออปชันให้ได้เลือกขี่ต่อแบบเอาสบายออนโร้ดเข้าที่พักหรือสนุกกับออฟโร้ดลุยเส้นทางดินสัญจรของชาวบ้านหลากหลายรูปแบบ ผู้เขียนย่อมเลือกไปสนุกกับเส้นทางออฟโร้ดเพราะมั่นใจในตัวรถ Transalp อยู่แล้วว่าลุยได้สบายๆ ทั้งช่วงที่เป็นโคลน หรือทางแคบ หลังลุยกันกว่า 25 กม. ก็มาถึงริมแม่น้ำโขงเพื่อข้ามแพยนต์ไปสู่โรงแรมแกรนด์หลวงพระบางอีกฝั่งพร้อมแสงสุดท้ายของวันพอดี
วันที่ 2 จากหลวงพระบางสู่ปลายทางที่น้ำกัดยอละปาระยะทางไม่ต่ำกว่า 200 กม. เหมือนในวันแรก เส้นทางส่วนใหญ่ในวันนี้เป็นออนโร้ดที่มีความคดเคี้ยวขึ้นลงเขาและขี่ยากพอสมควรเพราะมักมีรถขนส่งสินค้าใหญ่ขับสวนผ่านด้วยความเร็ว ทั้งสภาพผิวถนนนที่มักเป็นหลุมบ่อ ไม่มีไหล่ทาง ทำให้ต้องระวังกันอยู่ตลอด ส่วนตัวผู้เขียนมองว่าเส้นทางออฟโร้ดยังขี่ง่ายและปลอดภัยกว่าด้วยซ้ำ โดยช่วงสุดท้ายก็มีออปชันทางออฟโร้ดให้เลือกเหมือนวันแรก เรามาถึงเมืองไชยแวะพักรับประทานอาหารกลางวันและเข้าที่พักได้เร็วกว่าวันแรกเพราะมาถึงรีสอร์ตน้ำกัดฯ ก็ราว 16.30 น. โดยเป็นรีสอร์ตตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สงบเงียบ มีธารน้ำไหลและน้ำตก ช่วงกลางคืนเป็นการกินดื่มอาหารค่ำร่วมกัน เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวตลอดการเดินทาง 2 วัน ที่ผ่านมา ก่อนได้เวลาอันสมควรแยกย้ายพักผ่อนเพื่อเตรียมเดินทางขี่กลับเมืองไทยในวันรุ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการขีออนโร้ดไกลที่สุดของทริปนี้
เช้าวันที่ 3 กับการเดินทางสู่เมืองไทยที่ด่านห้วยโก๋นเหมือนกับขาเข้ามา ฝนโปรยปรายตั้งแต่เช้าเป็นละอองพอให้ขี่ได้ แต่ก็ทำให้พิ้นผิวถนนลื่นกว่าปกติ รวมทั้งยังมีดินหล่นจากเขาบางช่วง หลุม บ่อ พื้นผิวถนนเสียหาย รถยนต์ยังต้องชะลอเบาเบรกบ่อย บิ๊กไบค์ยิ่งต้องเล็งไลน์กันให้ดี เรียกว่าขี่แบบใจลอยไม่ได้เลย อย่างไรก็ตามการออกทริปกันเป็นกลุ่มใหญ่มากับผู้จัดที่เป็นค่ายรถโดยตรง มีการเซอร์เวย์เส้นทางไว้ก่อนล่วงหน้า และมีทีมเซอร์วิส หน่วยพยาบาลตามไปด้วยตลอด ย่อมทำให้สบายใจที่สุด เพราะถ้ามาเองนี่ต้องแบกความเสี่ยงและรับผิดชอบทุกอย่างเอง ขบวนฯ มีเวลาแวะทานอาหารกันแบบชิวๆ ในวันสุดท้ายที่ร้าน K-pop cafe&hangout เมืองฮุนกับอาหารท้องถิ่นคลุกเคล้าบรรยากาศบ้านไรชายทุ่งตรงข้ามกับชื่อร้านไม่น้อย หลังอิ่มท้องก็ทยอยขี่กันไปที่เมืองเงินพร้อมร่ำลากันที่ด่าน หลายคนแยกย้ายเดินทางเที่ยวต่อ บ้างฝากรถกลับพร้อมนอนปัวที่น่านต่อ เพราะนำรถยนต์ส่วนตัวมาจอดไว้เอง ตัวรถบิ๊กไบค์สามารถฝากขนส่งกลับไปยังดีลเลอร์บิ๊กวิงก์ใกล้บ้านได้ ค่าใช้จ่ายก็ถูกมาก เป็นทางเลือกของหลายคนที่อยากขับรถมาขี่มากกว่าขี่ยาวๆ ซึ่งขึ้นกับความชอบส่วนตัว ทริป XVENTURE น่าน - หลวงพระบาง - อุดมไชย จบลงอย่างเรียบร้อยและได้ประสบการณ์สนุกครบรส ครั้งหน้าการเดินทางเป็นทริป ไทย-ซาปา ซึ่งถ้าใครกำลังคิดจะถอยฮอนด้าบิ๊กไบค์รุ่น XL750 Transalp อยู่นับเป็นโอกาสดีเพราะตอนนี้ถ้าซื้อรุ่นนี้มีข้อเสนอพิเศษ จองแล้วสามารถเลือกรับ
Gift Voucher 30,000 บาท*ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 + ทะเบียน+พ.ร.บ.* หรือ เลือกรับข้อเสนอสุดพิเศษ! ฟรี! Package Xpedition EP 1. ไปออกทริปเวียดนาม มูลค่า 38,000 บาท*ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 +ทะเบียน+พ.ร.บ.* จองได้ตั้งแต่ 1 สิงหาคม ถึง 30 กันยายน 2567 ที่ Honda BigWing สาขาใกล้บ้าน