ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถมอเตอร์ไซค์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

ยามาฮ่า Experience Riding สู่ถนนจริงญี่ปุ่น ... ลอง 4 รุ่นบิ๊กไบค์ 500 กม. 2 วัน

icon 31 ต.ค. 66 icon 3,631
ยามาฮ่า Experience Riding  สู่ถนนจริงญี่ปุ่น  ... ลอง 4 รุ่นบิ๊กไบค์ 500 กม. 2 วัน
ทีมงานเพจมอเตอร์ไบค์กูรูและเว็บไซต์เช็คราคา.คอม ได้รับโอกาสจากทางบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เดินทางมาร่วมทริปขับขี่บิ๊กไบค์ยามาฮ่า Yamaha riding experience in Japan 2023  ที่ประเทศญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์สุดพิเศษร่วมกับทีมสื่อมวลชนสายจักรยานยนต์และอินฟลูเอนเซอร์ชั้นนำจากไทย กับเส้นทางจากเมืองคาเคกาวะ สู่ เส้นทางรอบภูเขาไฟฟูจิ พร้อมค้างแรมกันที่ ปิก้า-ฟูจิยาม่า รีสอร์ตแนวแคมปิ้ง จุดที่เห็นฟูจิซังชัดเจนสมกับเป็นทริปสุดเอ็กคลูซีฟ
ผู้เขียนเป็นตัวแทนจากทีมงานฯ ได้เตรียมความพร้อมชุดและอุปกรณ์เพื่อมาขี่สัมผัสความเร้าใจของบิ๊กไบค์ยามาฮ่าบนถนนญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งมีหลากหลายรุ่นให้ได้สลับขี่กัน โดนเริ่มต้นกับสปอร์ตบิ๊กไบค์ยอดนิยม YZF-R7 จากตระกูล R-series ที่ให้ความสปอร์ตที่กำลังพอดีทั้งบนถนนและในแทร็ค งานนี้เดินทางไปรับรถกันที่ ยามาฮ่า เทคนิคเคิ่ล เซนเตอร์ ในคาเคกาวะ ร่วมกับเพื่อนสื่อฯ ที่ขี่รุ่นอื่นๆ คละกัน การขี่ในช่วงแรกเป็นเส้นทางในเมืองที่แม้เป็นถนนไม่กว้างมาก แต่ก็โล่งการจราจรเบาบางตามสไตล์เมืองเล็ก ตัวรถที่คุ้นชินกับการขี่ในเมืองไทยมาหลายครั้งทำให้ไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก และการขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ว่าที่ไหนในโลกก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพวงมาลัยซ้าย-ขวา ยิ่งในญี่ปุ่นขับเลนซ้ายเหมือนไทยยิ่งแทบไม่ต้องปรับความรู้สึกอะไรเลย ตัวรถ R7 ขี่ง่ายไม่ซับซ้อนให้กำลังที่สมดุลควบคุมง่าย การขี่บนถนนสาธารณะและทางด่วนพิเศษของญี่ปุ่นที่มีพื้นผิวเนียนเรียบให้ความรู้สึกที่ดีและมั่นใจมากๆ เส้นทางในวันแรกเป็นการขี่เป็นเน้นจุดจอดสวยๆ รอบภูเขาไฟฟูจิ
ข้อดีของการขี่บิ๊กไบค์ก็คือ ใช้ทางด่วนได้เหมือนกับรถยนต์ ซึ่งตรงนี้เป็นความพิเศษที่ทางยามาฮ่าจัดให้ นอกจากนี้เรายังสามารถแวะใช้จุดพักทางด่วนได้ สะดวกเรื่องเข้าห้องน้ำและอาหารระหว่างทาง ทำให้ไม่เสียเวลาตอนมื้อกลางวัน ในช่วงบ่ายผู้เขียนสลับมาขี่รุ่น MT-09SP เน็กเก็ตไบค์รุ่นใหญ่ที่ให้พลังสูงจากเครื่องยนต์ครอสเพน 3 สูบ ยิ่งเป็นเวอร์ชัน SP ที่อัพเกรดช่วงล่างมากอย่างดียิ่งทำให้การขี่สนุกและมั่นใจสุดๆ ไฮไลท์วันนี้อยู่ที่การขี่ไปตามเส้นทาง ฮาโกเน่ สกายไลน์ เพื่อไปชมบรรยากาศรอบทะเลสาบฮาโกเน่ที่มองเห็นฟูจิซังได้หลายมุม การได้ขี่ MT-09SP เป็นครั้งแรกของผู้เขียนกับถนนญี่ปุ่นยิ่งทำให้ซึบซับความรู้สึกได้อย่าเต็มที่ โดยจุดหมายปลางวันแรกอยู่ที่แคมปิ้ง รีสอร์ตที่ชื่อว่า ปิก้า ฟูจิยาม่า การขี่ในช่วงครึ่งวันหลังเป็นช่วงเวลาที่ดีและโหดร้ายที่สุด ตัวรถนั้นนับว่าสมบูรณ์แบบทั้งขี่ง่ายและตอบสนองกำลังได้อย่างฉับไว การถ่ายทอดกำลังระหว่างเกียร์ต่อเกียร์สมูธกว่าคลาส 700 ชัดเจน นอกจากนี้ท่านั่งขี่ที่เปลี่ยนไปแบบหลังตรงมากขึ้นยิ่งทำให้เพลิดเพลินไปกับการขี่และมองทิวทัศน์ได้มากขึ้น เมื่อยน้อยลงด้วย แต่ความโหดร้ายเป็นเรื่องของอากาศที่เย็นลงเรื่อยๆ เมื่อเราขี่เข้าใกล้ฟูจิซังพร้อมกับเวลาที่พระอาทิตย์ลับฟ้าเร็วตั้งแต่ก่อนหกโมงเย็น แม้เตรียมแจ็กเกตขี่แบบมีซับในกันหนาว ถุงมือขี่กันหนาวก็ยังรู้สึกสะท้านและทรมานไม่น้อย ถ้าให้แนะนำก็ควรเป็นแจ็คเกตหนังแบบวินเตอร์ อย่างไรก็ตามก็เป็นแค่ช่วงระยะทางไม่ไกลมากราว 60 กม. แต่ก็นานพอที่จะตัองกัดฟันให้ผ่านช่วงเวลาอึดอัดแบบนี้ไปให้ได้ เพราะขี่ให้เร็วขึ้นก็ยิ่งหนาวมากขึ้น ทุกอย่างต้องพอดีกับตัวเอง การเตรียมหมวกที่ไม่มีแว่นกันแดดในตัวมาก็ต้องเลือกใสไว้ก่อน หาแว่นกันแดดใส่ข้างในทีหลัง สำหรับผู้เขียนเลือชิลด์แบบดาร์คสโม๊คมาตั้งใจไว้กันแดดอย่างเดียว ก็เลยยิ่งทำให้เพิ่มความอึดอัดมากยิ่งขึ้น แต่การใช้ชิลด์กับหมวกกันน็อคคุณภาพดีความชัดเจนก็อย่างพึ่งพาได้แม้จะมึดกว่าเดิมก็ตาม
เราเข้าพักกันที่ ปิก้า ฟูจิยาม่า นอนกันแบบแกลมปิ้งเต๊นท์ใหญ่มีฮีทเตอร์และผ้าห่มไฟฟ้าให้ อาหารเป็นแบบปื้งย่างทางที่พักใส่ตระกร้ามาให้ทำกันเอง ก็เป็นอีกประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ให้ความสนุกสนานร่วมไปกับเพื่อนๆ ด้านห้องน้ำเป็นแบบรวมแต่ก็สะอาด อุ่นและดีมากๆ แบบเข้าไปแล้วไม่อยากออก เช้าวันใหม่เราเดินทางขี่กันต่อผู้เขียนสลับมาขี่รุ่น MT-07 เน็กเก็ตไบค์ไลท์เวทที่ขี่ง่ายและสบายมากที่สุดของคลาส ไฮไลท์ของวันนี้ยังคงเป็นเส้นทางรอบฟูจิซัง โดยมีแวะชมวิวกันที่ทะเลสาบโมโตะซูโกะที่มีวิวมองฟูจิซังเหมือนในธนบัตร 1,000 เยนนั่นเอง จากนั้นก็ขี่ไปกันที่ อาซากิริ โคเกน เพื่อปล่อยให้ขี่แบบฟรีรันหาจุดบันทึกภาพสวยของฟูจิซังกัน จากนั้นก็มาแวะทานกลางวันที่จุดพักระหว่างทางด่วนคูชิตานิ ผู้เขียนสลับมาขี่รุ่น Tracer 9GT บิ๊กไบค์แนวทัวร์ริ่งที่ให้ท่านั่งสบายที่สุดในทริปนี้และยังให้กำลังที่ยอดเยี่ยม มีชิลด์สูงบังลม นับเป็นรุ่นที่เหมาะสมกับการขี่ทางไกลเดินทางในครั้งนี้มากที่สุด เรามาจบทริปกันที่จุดเริ่มต้น ยามาฮ่า เทคนิคเคิ่ล เซนเตอร์ ในคาเคกาวะ โดยสวัสดิภาพทุกคน พร้อมกับความรู้สึกประทับใจตลอด 2 วันของการขับขี่ทริปนี้ นับเป็นหนึ่งในช่วงเวลาดีๆ ที่ต้องจดจำไปตลอด สุดท้ายก็ต้องขอขอบคุณ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ที่เปิดโอกาสทำความฝันขี่บิ๊กไบค์ในญี่ปุ่นให้เป็นจริง พร้อมกับแสดงให้เห็นถึงคุณภาพรอบด้านของตัวรถบิ๊กไบค์ยามาฮ่าที่ขี่ได้สนุกทุกเส้นทางและปลอดภัย ในครั้งหน้าขอให้ติดตามกันเราจะพาไปขี่สกู๊ตเตอร์คลาสเล็กจากยามาฮ่าจากโตเกียวไปไหนติดตามกันเร็วๆ นี้
 
แท็กที่เกี่ยวข้อง yamaha yamaha bigbike
Motorbike Guru
เขียนโดย ชลัคร ช่วยชู Motorbike Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)