First Ride ! "ซูซูกิ V-Storm 800DE บิ๊กไบค์แอดเวนเจอร์ พร้อมซิ่งและลุย จบครบในคันเดียว"

ซูซูกิ V-Strom 800DE แอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ล่าสุดจากซีรี่ส์ V-Storm ทั้งหมด 10 คัน นำมาให้สื่อมวลชนและอินฟลูเอนเซอร์ ได้ประเดิมขี่ทดสอบเป็นครั้งแรกในไทย โดยกำหนดเส้นทางไว้ 80 กม. ซึ่งมีทั้งถนนและทางออฟโร้ด ขบวนทดสอบออกจากโรงแรมฯ ส่วนใหญ่เป็นถนนคอนกรีตผู้โดยจุดพักแรกช่วงแรกคือร้าน Chocolate lake ระยะทางที่ขี่มาราว 40 กม. มีทางออฟโร้ดรถยนต์ 2 ล้อผ่านได้สลับ เป็นการสร้างความคุ้นชินกับตัวรถช่วงแรก โดยเฉพาะเบาะที่สูง 855 มม. สำหรับผู้เขียนที่สูง 171 ซม. กับรองเท้าบูธยังต้องอาศัยการหย่อนสะโพกลงข้าง แต่จริงๆ รถมีสมดุลที่ดีมากๆ ในช่วงความเร็วต่ำจนหยุดนิ่งแม้เบาะสูงก็ยังทรงตัวนิ่งได้เกือบสนิทค่อนๆ หย่อนเท้าลงข้าง ด้านการขับบนถนนเป็นช่วงสั้นๆ ทำได้แค่ลองอัตราเร่ง ระบบเกียร์แบบควิกชิฟต์สองทิศทางช่วยในเรื่องความสะดวกและให้ความต่อเนื่องเมื่อเปลี่ยนเกียร์ การตอบสนองของขุมพลังใหม่ขนาด 776 ซีซี 84 แรงม้า 78 นิวตันเมตร ให้ความน่าประทับใจสุดๆ โดยมีโหมดให้เลือกใช้จากทั้งหมด 3 แบบ +  โหมด G ครอบคลุมการใช้งานได้ครบถ้วนสายแอดเวนเจอร์ ผู้เขียนลองหลายแบบ แต่ก็เลือกปรับส่วนของ Power จาก C (omfort) เป็น B (asic) และ A (ctive) ที่คันเร่งตอบสนองแตกต่างกันตามชื่อ ซึ่ง A ก็ให้ความสนุกกระฉับกระเฉงไม่ได้น่ากังวลอะไร การขี่ด้วยความเร็วต่ำก็ง่ายเพราะมี low RPM assist ช่วย

หลังจากพักครึ่งทางดื่มน้ำพักกันอยู่ 20 นาทีก็ออกไปท้าทายกับเส้นทางรอบโป่งดินดำกันต่อ ซึ่งเส้นทางออฟโร้ดช่วงสุดท้ายเป็นลาดชันให้ได้ลองไต่ขึ้นและลง ตลอดจนทางเลี้ยวหักศอก โหมดที่ใช้เป็น G (ทำงานเมื่อตรวจพบองศาการหมุนของล้อที่จะสลิปมากไป ช่วยคุมการส่งกำลังทำให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ไม่เสียการทรงตัวแม้ขณะเข้าโค้งบนพื้นผิวลูกรังและทางเรียบ) พร้อมปิด ABS ล้อหลัง แม้น้ำหนักรถอยู่ที่ 230 กก. แต่ก็ให้การควบคุมที่ง่าย ยืนขี่ผ่านดิน ทราย หิน สบายๆ สบายใจกับการ์ดแฮนด์ที่ให้มาเป็นอุปกรณ์มาตราฐานไม่ต้องกลัวหินดีดใส่ ด้านหน้าจอเป็น TFT ขนาด 5 นิ้ว แสดงข้อมูลและการแจ้งเตือนที่สำคัญได้ครบถ้วนหมด โดยเฉพาะการบอกแบบเรียลไทม์ หน้าจอยังปรับธีมตามแสงกลางวัน-กลางคืน ซึ่งมีช่วงขี่ผ่านใต้ร่มไม้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงบนหน้าจอชัดเจน ส่วนช่วงล่างนับเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ ด้านหน้าเป็น Showa ปรับได้ทั้งการหยุบและคืนตัว (Compress/Rebound) ด้านหลังเป็นโมโนโช๊คพร้อมรีโมทแก๊สแบบ Piggback ให้ความคล่องตัวสามารถปรับค่าพรีโหลดสปริงด้วยมือเปล่าได้เลย

ช่วงสุดท้ายเป็นการขี่ถนนเข้าสู่จุดหมายปลายทางได้ลองปรับโหมดกลับมาที่ 1 เน้นความสปอร์ตมากที่สุดเพราะมีระบบคุมน้อยสุด จึงได้ลองลากรอบสูงบ้าง การเปลี่ยนเกียร์ด้วยควิกชิฟต์ช่วยให้การขี่สไตล์สปอร์ตสนุกมากยิ่งขึ้น การใช้ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว หลังขนาด 17 นิ้วแสดงถึงสไตล์การขี่แบบ Dual purpose ชัดเจน รัดด้วยยาง Dunlop Trailmax Mixtour ใช้งานแบบรอบด้านจริงๆ จบทริปสั้นๆ ด้วยความประทับใจจนอยากเอาไปออกทริปทางไกลท่องเที่ยว ส่วนอัตราสิ้นเปลืองตัวเลขหน้าจอแสดงไว้ที่ 21 กม./ล.