หลายความสงสัย และแคลงใจของเหล่าไบค์เกอร์ที่ชอบทางเทรล และฝุ่น ตลอดจนผู้ที่อยากเริ่มต้นกับเส้นทางการขี่เข้าธรรมชาติ ว่าต้องใช้รถแบบไหน เครื่องยนต์ขนาดกี่ซีซี ถึงจะพอตอบโจทย์การเดินทาง ทั้งยังมีเรื่องของราคาค่าตัวอีก
ยามาฮ่า WR155R เป็นจักรยานยนต์แนวเอนดูโร่ ลุยทางฝุ่น วิ่งทางเทรล แต่ก็สามารถใช้งานแบบออนออฟได้ทั้งถนนและทางดิน ด้วยราคาค่าตัว 119,000 บาท นับเป็นราคาที่เข้าถึงได้ง่ายและจับต้องได้ แม้เครื่องยนต์ขนาดเพียง 155 ซีซี แต่ด้วยสเปคที่ดีเยี่ยมทำให้รถพร้อมลุยออกทริปได้โดยแทบไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรมากเลย
ทริปนี้เราได้โอกาสไปพิสูจน์ความสงสัยของใครหลายคน รวมทั้งผู้เขียนเองที่มักใช้รถขนาดหลายร้อยซีซีไปออกทริปแอดเวนเจอร์ ลุยทางฝุ่น วิ่งเข้าป่า โดยทีมประชาสัมพันธ์บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้เชิญผู้เขียนตัวแทนของเพจ MotorbikeGuru Thailand และเว็บไซต์ Checkraka.com ไปออกทริปทดสอบกับภารกิจพิชิตผายูเอฟโอ และผายายเที่ยง (ภูเขาสูง-วังไทร) แบ่งเป็นผาละวัน เส้นทางส่วนใหญ่ทั้ง 2 วัน เป็นทางดินและหิน อย่างไรก็ตามยางรถมีการเปลี่ยนไปใช้แบบ knobby เพื่อให้เหมาะสมกับเส้นทางส่วนใหญ่ที่ต้องลุยกัน โดยวันแรกเน้นทางดินแน่น ฝุ่น กรวดลอย และช่วงท้ายที่ท้าทายมากกับการไต่ทางหินขึ้นสู่ลานกางเต็นท์ UFO ทางดูเหมือนยาก แต่ WR155R ไปได้สบายนะยิ่งถ้าใส่ความมั่นใจเต็มร้อยกับรถจะขี่ผ่านทางที่เป็นร่องหินได้ไม่ยาก ผู้เขียนกับเพื่อนสื่อมวลชนที่ขี่กันขึ้นมาถึงลานกันแบบถูไถไรเดอร์ สนุกสนานช่วยกัน มาชมพระอาทิตย์ตกดิน ถ่ายภาพร่วมกันก่อนชาเลนจ์ขากลับลงผายูเอฟโอ ลำตะตอง ตอนมึด !
เป็นประสบการณ์การขี่แบบเอนดูโร่ลงเขาตอนพระอาทิตย์ลับฟ้าไปแล้ว สายตาจับจ้องไปตามแสงไฟหน้าของ WR155R ที่สาดให้เห็นทุกรายละเอียด การยืนขี่ควบคุมตัวรถ การทำงานของช่วงล่างที่เป็นพระเอกของรถรุ่นนี้ พลังจากเครื่องยนต์ในรอบต่ำและเบรกที่หน่วงชะลอได้เนียนมากๆ ทำให้การขี่ลงผ่านไปด้วยดี เราถึงที่พักกันในช่วงค่ำทุกคันโดยปลอดภัย พร้อมกับความรู้สึกทึ่งในสมรรถนะของตัวรถระดับนี้ อย่างไรก็ดีภารกิจในวันที่ 2 ลุยไต่ทางหินขึ้นผายายเที่ยง ไฮไลท์อยู่ที่ ภูเขาสูง จุดชมวิวที่เสมือนรางวัลของผู้พิชิตเส้นทาง
วันที่สองเราเริ่มออกเดินทางกันแต่เช้าเพื่อให้จบก่อนเที่ยง ขี่ข้ามฝั่งจากคลองไผ่ผ่านถนนมิตรภาพไปสู่เขายายเที่ยงเส้นทางช่วงแรกสบายๆ เสมือนการวอร์มอัพร่างกายที่ยังไม่เข้า สภาพอากาศและอุณหภูมิในช่วงเช้านับว่าวิเศษที่สุดสำหรับคนขี่เอนดูโร่แบบนี้เพราะวัดจากสมาร์ทวอชบอกที่ 22 องศาเซลเซียส ซึ่งนั่นทำให้เราไม่ล้าและท้อง่ายๆ เหมือนขี่ตอนอากาศร้อน 30 กว่าองศาขึ้นไป เส้นทางที่สวยงามเริ่มหมดไป เส้นทางเริ่มแคบลง จนเป็นทางเทรลแคบๆ ทางขึ้นและลงเขาบางช่วงมีโค้งหักศอกดัก และจุดก็ทริคกี้ไม่น้อย ผู้เขียนเห็นสัญลักษณ์ขอทางวิ่งเทรลอยู่บ้าง แต่ช่วงโหดสุดคือ ทางหินก้อนใหญ่ที่มองด้วยสายตาบอกเลยว่ายอมแพ้ ไม่น่าจะไหว แต่เมื่อผู้นำทริปขี่ผ่านไปได้ ผู้ตามหลายคนก็ทยอยผ่านได้ ตัวรถก็ตอบสนองเต็มที่ว่าไหว ระยะเคลียร์แลนซ์ใต้ท้อง ช่วงล่างที่ยุบยืด การคอนโทรล น้ำหนักรถที่เบา สลิมหนีบง่าย ทำให้ความมั่นใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับความเชื่อว่า WR155R ไหว ที่เหลือขึ้นกับความแข็งแกร่งของร่างกายและสำคัญที่สุดคือ ใจ สุดท้ายทุกคนก็ไต่ผ่านอุปสรรคต่างๆ มาถึงจุดไฮไลท์ของทริปที่ภูเขาสูง ได้ชมทัศนีย์ภาพสวยมุมกว้างด้านล่าง และบันทึกภาพของผู้พิชิตทริปนี้ร่วมกัน
ทริปจบไปกับความประทับใจในสมรรถนะตัวรถมากกว่าเส้นทาง ไม่เคยคิดมาก่อนว่ารถเอนดูโร่คลาส 155 ซีซี สามารถพาเราโลดแล่นผ่านอุปสรรคโหดและให้ความสนุกได้ขนาดนี้ เอาเป็นว่าถ้าใครมองหารถลุยรุ่นเริ่มต้น ในราคาที่ดีสุดๆ ไม่ว่ามือใหม่หรือมือเก่า ส่วนตัวชี้เลยว่ายามาฮ่า WR155R ตอบรับความต้องการได้เพียงพอแน่นอน อีกทั้งยังมั่นใจกับการรับประกัน 5 ปี หรือ 5 หมื่นกิโลเมตร
All New WR155R ใช้เครื่องยนต์สูบเดี่ยว SOHC 4 วาล์ว 155 ซีซี พร้อมเทคโนโลยี Variable Value Actuation (VVA) ให้พลัง 16.5 แรงม้า ที่ 10,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 14.3 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด ตัวเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบกันสะเทือนทั้งหน้า-หลัง kayaba ด้านหน้าขนาด 41 มม. หลังเป็นแบบโมโนปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ ฝาถังน้ำมันป้องกันการย้อนกลับ ถังน้ำมันจุ 8.1 ลิตร เคลมว่าวิ่งได้ไกลมากกว่า 300 กม. เบาะสูง 880 มม. น้ำหนักตัวรถ 134 กก. ยางหน้าขนาด 2.75-21 45p หลัง 4.10-18 59p ดิสก์เบรกหน้าขนาด 240 มม. หลังขนาด 220 มม.