Test on Road บิดมันส์ คล่องตัวไม่เกรงใจใคร ออโตเมติกยุคใหม่ Yamaha AEROX สายสปอร์ตจัดเต็ม

กลับมาสัมผัส Yamaha AEROX อีกครั้งด้วยเวอร์ชันใหม่ปี 2023 ที่เติมสีสันสปอร์ตจัดจ้านเร้าใจกว่าเดิม คงความเป็นที่สุดแห่งสปอร์ตออโตเมติก สายสปอร์ตจัดเต็มด้วยสมรรถนะความแรงจากเครื่องยนต์บลูคอร์ 155 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VVA บิดมันส์ติดมือ ขี่สนุก คล่องตัว ทะลุซอยไหนก็เอาอยู่ บวกกับเทคโนโลยี Yamaha Y-Connect เชื่อมต่อข้อมูลรถกับมือถือ  

 

 

การขี่ New Yamaha AEROX 2023 ครั้งนี้ผู้เขียนใช้เส้นทางในเมืองเป็นหลัก ตัวรถที่ใช้ขี่ครั้งนี้เป็นรุ่น ABS สีม่วงดำ สเปคเครื่องยนต์และฟังก์ชันต่างๆ ยังตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเหมือนเดิม เน้นตอบสนองทันใจ ขี่สนุกสไตล์สปอร์ต ผู้เขียนเริ่มสตาร์ทจากถนนแจ้งวัฒนะ ที่ผิวถนนมีการทำซ่อมแซมและปิดบางส่วนไว้เพื่อทำเส้นทางและสถานีรถไฟฟ้า ทำให้ต้องเบาเบรก เบี่ยงหลบหลีกเป็นระยะ แต่ด้วยตัวรถที่มีขนาดคล่องตัว ตอบสนองการเร่งและเบรกได้ทันใจ ประกอบกับความมั่นคงจากการใช้ยางหลังใหญ่ขนาด 140 มม. จึงขี่ไปโดยไม่ต้องพะวงมากนัก 

 

 

ผู้เขียนขี่ตัดเข้ามาทางซอยสามัคคี เพื่อไปออกถนนประชาชื่น และเข้าสู่ถนนโลคัลโร้ดเลียบทางรถไฟเพื่อไปพักเก็บภาพที่ สถานีกลางบางซื่อ การขี่ผ่านซอยแคบเลนสวนหลายจังหวะต้องอาศัยพลังเครื่องยนต์บลูคอร์ VVA เร่งแซงรถช้า ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย แซงผ่านได้แบบไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย แถมการควบคุมตัวรถเปลี่ยนเลนฉับไวก็ทำได้ดีด้วย ขี่มาถึงถนนโลคัลโร้ดที่หลายช่วงผิวถนนเป็นลอนเนิน อาจทำให้มอเตอร์ไซค์เสียจังหวะได้ง่ายถ้ามาเร็วเกินไป ตอนขับขี่ New Yamaha AEROX 2023 มาด้วยความเร็วประมาณ 50 กม./ชม. พอช่วงกระแทกเนินก็ผ่อนคันเร่งลง พอพ้นก็เติมคันเร่งแล้วก็ไปต่อแบบสบายๆ จนมาถึงช่วงถนนกำแพงเพชร 2 ซึ่งโล่งมีรถน้อย ทำให้เร่งความเร็วได้เต็มที่มากขึ้น ผู้เขียนเร่งจนเลย 100 กม./ชม. ไปไม่นานก็ยกเพราะเริ่มมีรถบนทางมากขึ้น จากนั้นก็เข้าสู่ถนนเทอดดำริมาจอดพักบริเวณสถานีกลางบางซื่อเพื่อเก็บภาพตัวรถที่เป็นเวอร์ชันใหม่ของปี 2023 กับชุดสีม่วงดำที่ไม่เคยมีมาก่อน ช่วงขี่มาก็ดึงดูดสายตาผู้ที่พบเห็นไม่น้อยเลย 

 

หลักจากพักจนหายร้อนก็ออกเดินทางต่อโดยขี่ไปทางถนนพระราม ๖ ที่ถนนเริ่มกลับมาพลุกพล่านด้วยรถอีกครั้ง รวมทั้งแยกไฟแดงที่ถี่ขึ้นทำให้ต้องเลาะเลี้ยวตามช่องว่างระหว่างรถบ่อยขึ้น ข้อดีที่ชัดเจนคือ ตัวรถที่หนักเพียง 125 กก. ทำให้การควบคุมรถที่ความเร็วต่ำ ตลอดจนการขยับเข็นทำได้ง่ายมากๆ นอกจากนี้ตำแหน่งท่านั่งก็เอื้อต่อการมองช่องทางหรือไลน์ที่จะไปได้สะดวกด้วย  เมื่อขี่มาถึงถนนเพชรบุรีตัดใหม่แล้วมุ่งหน้าไปถนนเจริญกรุงผ่านช่วงบางรักตัดเขาซอยเจริญกรุง 40 ตัดซอยเล็กๆ แวะถ่ายรูปสวยๆ กับกำแพงสถานฑูตฝรั่งเศสแล้วไปออกซอย 36 นับเป็นข้อดีของการขี่ ยามาฮ่า แอร็อกซ์ ที่มีความคล่องตัวสูง สามารถขี่ไปจอดแวะไหนในเมืองได้ดั่งใจ 

 

จากนั้นก็ขับมาทางตลาดน้อยแวะซอยเจริญกรุง 33 ที่ล่าสุดมีกำแพงถูกตกแต่งเป็นลวดลายกราฟฟิตี้นักเตะดังทีมฟุตบอลลิเวอร์พูล ซึ่งหลายครั้งที่ขับรถยนต์ผ่านมาแล้วไม่มีโอกาส แต่การขี่ ยามาฮ่า แอร็อกซ์ สนุกไปกับเส้นทางในเมืองวันเดียวสามารถเก็บเกี่ยวจุดที่น่าสนใจได้ไม่น้อยเลย 

การขี่เข้าสู่ถนนเยาวราชเพื่อท้าทายกับถนนที่พลุกพล่านมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ซึ่งการขี่ผ่านกลุ่มรถช้าที่ทยอยไหลไปตามจังหวะสัญญานไฟนั้นกลายเป็นเรื่องง่ายมากๆ ลัดเลาะตามซอยต่างๆ ในเยาวราชอยู่สักพัก ก็มาพักเติมความหวานกับร้านลอดช่องสิงคโปร์เจ้าแรกบนถนนเจริญกรุง ณ จุดนี้ร้านมีเก้าอี้แค่ตัวเดียวก็ไม่เป็นปัญหา เพราะมากับ New Yamaha AEROX 2023 จอดง่ายแวะสะดวกทุกที่ 

ชื่นใจกับความหวานเย็นสักพัก ก็มุ่งหน้าต่อไปยังถนนพระราม๓ เพื่อไปจิบกาแฟกับเบอร์เกอรี่  เบเกอรี่อร่อยๆ ต่อ จากเจริญกรุงสู่ร้านกาแฟ Chimney Coffee House ใช้เวลาไม่นานมากนัก ความสนุกยังอยู่กับการขี่ไม่ว่าไปไหนในเมืองก็ดูเหมือนเราสามารถวาร์ปไปได้ด้วยเวลาไม่นานจริงๆ เมื่อมาถึงร้านก็ขอพักจิบกาแฟ เก็บภาพรถสวยๆ กับแสงยามเย็นริมแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนพระอาทิตย์จะลับฟ้า ระหว่างจิบกาแฟก็ทบทวนการเดินทางในวันนี้ที่ไปได้หลายที่เหลือเกิน แต่ยังไม่ได้เติมน้ำมันเลย อัตราสิ้นเปลืองที่เห็นบนหน้าจอคิดได้ประมาณ 31 กม./ลิตร นับว่าประหยัดจริงๆ

ผู้เขียนนั่งจมอยู่กับความคิดเกี่ยวกับตัวรถ New Yamaha AEROX 2023 (ยามาฮ่า แอร็อกซ์ ใหม่)  ที่ให้ความคุ้มค่ารอบด้านจริงๆ ถ้าจะมีสกู๊ตเตอร์คันหนึ่งที่ราคาไม่แพงและใช้ประโยชน์ได้มาก ใต้เบาะเก็บหมวกและของได้เยอะ ขี่เล่นก็สนุก ไปไหนก็คล่องตัว ซิ่งก็เร้าใจได้ ก็คงต้องเป็นรุ่นนี้

 

 

แสงสุดท้ายกำลังลับฟ้าก็เดินทางต่อ จุดหมายต่อไปคือ ซอยธนิยะ ถนนสีลม งานนี้ตั้งใจไปหาความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นเป็นมื้อเย็น แต่ช่วงเย็นแบบนี้การขี่ฝ่ารถติดบนถนนนราธิวาสและสีลมกลายเป็นความท้าทายสุดท้ายที่ต้องผ่านไปให้ได้สวยๆ แน่นอนว่า New Yamaha AEROX 2023 ไม่ทำให้ผิดหวัง สามารถเลาะเลี้ยว เร่ง เบา เบรกได้ดั่งใจไปตลอดทาง มีบ้างที่อยากให้พลังเบรกหนักแน่นกว่านี้ เพราะเวลาเร่งออกตัวยาวๆ แล้วชะลอเบาต้องออกแรงกดก้ามเบรกเยอะอยู่ แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปก็นับว่าเพียงพอมากแล้ว

 

เมื่อมาถึงซอยธนิยะก็แวะกันเป็นจุดสุดท้ายเพื่อเติมพลังมื้่อเย็นกับอาหารญี่ปุ่นง่ายๆ ที่จอดปุ๊บปั๊บก็ลงเข้าร้านสั่งได้เลย จบมื้อเย็นค่ำกันแบบอิ่มๆ ก็เริ่มง่วงได้เวลาเดินทางกลับ ยังต้องขี่กันอีกหลายเลี้ยวหลายกิโลเมตร เพื่อไปสิ้นสุดที่ถนนแจ้งวัฒนะเหมือนตอนเช้า แต่การขี่ในขากลับได้ระบบไฟส่องสว่างของตัวรถที่ให้ความสว่างสบายตาและชัดเจนเพราะเป็นฟูล LED ทั้งหน้าหลัง และชอบที่มีจับกันตกแบบกลมกลืนไปกับส่วนท้าย

 

ส่วนการอ่านข้อมูลบนเรือนไมล์ก็สว่างชัดเจนด้วยจอแบบ LCD ทั้งยังบอกข้อมูลจากสมาร์ทโฟนเมื่อเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชั่น Y-connect ทำให้ไม่พลาดทุกเรื่องสำคัญไม่ว่าสายเรียกเข้า ข้อความ และ Email ผู้เขียนใช้ถนนคู่ขนานจากดินแดงสู่หลักสี่เข้าถนนแจ้งวัฒนะจบทริปเทสจริงบนถนนในเมืองกับ ยามาฮ่า แอร็อกซ์ ใหม่ ไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยกับสกู๊ตเตอร์สปอร์ตคลาส 155 cc ที่ให้ความคุ้มค่ากับราคา และความสนุกที่ได้รับจากออโตเมติกสายเรซซิ่งสปอร์ตพันธุ์แท้จากยามาฮ่า แถมยังมั่นใจกับการรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร ! 

 

 

ขุมพลังเครื่องยนต์บลูคอร์ ขนาด 155 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVA ให้กำลังสูงสุด 15.4 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.9 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงตั้งแต่ออกตัว ตอบสนองดีเยี่ยมทุกอัตราเร่ง ส่วนระบบระบายความร้อนด้วยน้ำเป็นแบบเต็มระบบ พร้อมลูกสูบเนื้อฟอร์จ แข็งแกร่ง ทนทาน

 

 

ลายกราฟิกดีไซน์ใหม่หมด ให้ความรู้สึกสปอร์ตรอบคัน ดุดันตามแบบฉบับรถ Super Sport สายพันธุ์ R-Series DNA ด้วย Full Cowling พร้อม Air Management Layer Design และ X Iconic ใหม่ เช่นเดียวกับไฟหน้าใหม่ FULL LED HEADLIGHT และ Daytime running lights ทรงสปอร์ต สว่างชัดเจน ทัศนวิสัยดีขึ้น และสอดรับอารมณ์สปอร์ตเต็มลำด้วยท้ายสั้นและไฟท้าย LED TAILLIGHT สว่างจัด ชัดเจน พร้อมที่จับกันตกแบบในตัว 

 

 

ฟีเจอร์สุดล้ำ อย่างเช่น หน้าจอดิจิทัล LCD ให้อารมณ์สปอร์ต เร้าใจด้วยกราฟิกแสดงผลวัดรอบแบบใหม่ พร้อมแสดงผลครบทุกฟังก์ชัน รวมทั้งสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วยได้ด้วยแอพพลิเคชั่น Y-Connect, สวิตซ์เปลี่ยนโหมดหน้าจอง่ายขึ้นที่แฮนด์ซ้าย, SMART KEY SYSTEM ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (เฉพาะรุ่น ABS) สะดวกสบายในการเปิดหรือปิด สตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์ / ปลดล็อคแฮนด์ / ปลดล็อคเบาะ / ปลดล็อคฝาถังน้ำมัน พร้อมสัญญาณ ANSWER BACK, D/C CHARGING SOCKET ช่องเสียบเพื่อชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าพกพา, ช่องเก็บของด้านหน้าพร้อมฝาปิด รวมถึง MEGA BOX, ที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ความจุ 25 ลิตรใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบได้ และฝาถังน้ำมันด้านหน้า พร้อมถังน้ำมันใหญ่ขนาด 5.5 ลิตร 

 

 

ระบบความปลอดภัยเต็มสมรรถนะด้วย ดิสก์เบรกหน้าพร้อม ABS (เฉพาะรุ่น ABS) ป้องกันล้อล็อคขณะเบรกกะทันหัน ส่วนระบบกันสะเทือนหลังแบบซับแทงค์ (เฉพาะรุ่น ABS) ดูดซับแรงกระแทกดีเยี่ยม ลดแรงสะท้านขณะขี่ การยึดเกาะมั่นใจในทุกเส้นทางการขี่ด้วยยางหลังใหญ่ 140 มม. กับล้อแม็กซ์ 14 นิ้ว ใหญ่สุดในคลาสสปอร์ตออโตเมติก เฉียบคมทุกการเข้าโค้ง ด้านความประหยัดมีระบบ Stop & Start System ที่ดับเครื่องยนต์อัตโนมัติด้วยการใช้ SMART MOTOR GENERATOR เครื่องยนต์จะหยุดทำงานเมื่อรถหยุดเดินเบาเกิน 5 วินาที และจะดับทันทีกรณีขี่ด้วยความเร็วแล้วเบรกจนรถหยุด

 

 

เทคโนโลยีใหม่ เหนือชั้นกับแอปพลิเคชัน Y-Connect เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อข้อมูลรถผ่าน CCU ช่วยให้ทราบข้อมูลสำคัญของรถและลักษณะการขี่นำขึ้นไปแสดงผลบนสมาร์ตโฟน และตัวแอปฯ เลือกดูได้ 9 เมนู คลอบคลุมทุกข้อมูลสำคัญดังนี้

 

New Yamaha AEROX 2023 มาพร้อม 2 ตัวเลือก ได้แก่ รุ่น ABS Version ราคาแนะนำ 83,500 บาท มาพร้อม สีม่วง-ดำ Deep Purple และสีเทา-น้ำเงิน Dark Blue และ รุ่น

 

Standard Version ราคาแนะนำ 72,500 บาท มาพร้อมสีเทา-ดำ Neon Grey และสีขาว-แดง Sporty White นอกจากนี้ยังสามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจ กับการรับประกันนาน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) ข้อมูลการรับประกันทั้งคัน 5 ปี หรือ 50,000 กม. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.yamaha-motor.co.th และแฟนเพจ Yamaha Society Thailand