2565 ผ่านพ้นไป มีการเปิดตัวบิ๊กไบค์ มอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆ ตลอดปี ทั้งที่เป็นรถใช้งานประจำวัน รถขี่ท่องเที่ยว ขี่แบบสปอร์ต หรือได้หลายอย่างในคันเดียว มีตั้งแต่ราคาไม่กี่หมื่น ถึง เกินครึ่งล้านบาท และผู้เขียนมีโอกาสสัมผัสลองขี่รถจริงหลากหลายรุ่น แต่ก็ยังไม่ถือว่าครนถ้วนรุ่นใหม่ทั้งหมดที่เปิดตัวในปีนี้ ส่วนหนึ่งเพราะติดภารกิจในช่วงที่มีจัดทริปทดสอบ อย่างไรก็ตามปีนี้ก็ได้เลือกที่ขี่แล้วชอบที่สุดมา 3 คัน และนี่คือเหตุผลที่ชอบของทั้ง 3 รุ่นรถในปีนี้
ยามาฮ่า TMAX Techmax 2022 ดีไซน์ใหม่ล่าสุด กับพลังที่เร้าใจระดับ 48 แรงม้า ในพรีเมียมสกู๊ตเตอร์สไตล์สปอร์ตที่เสมือนซูเปอร์คาร์ พร้อมกับความสมบูรณ์แบบในการใช้งานในชีวิตประจำวัน ขี่เล่น และเดินทางไกล ด้วยขุมพลัง 560 ซีซี กับเทคโนโลยีมากมาย นับเป็นที่สุดของตระกูล MaxSeries 2022
ด้วยราคา 569,000 บาท แลกกับความสมบูรณ์แบบ จากที่ขี่ทดสอบมากว่า 500 กม. ทั้งแบบใช้งานในชีวิตประจำวันและเดินทางท่องเที่ยว ทำให้ทราบว่ารถราคาระดับนี้ ไม่สามารถตัดสินความคุ้มค่าจากภายนอกและสเปคชีตได้ มันมีรายละเอียดหลายอย่างที่ทำให้เรารู้ว่านี่คือ สิ่งที่คุณจะได้จากรถระดับนี้เท่านั้น นอกเหนือไปจากอิมเมจของตัวรถ ถ้างบประมาณไม่ใช่ข้อจำกัด แล้ว TMAX Techmax อยู่ใน wishlist ก็ควรหาทางเป็นเจ้าของจะได้ไม่ค้างคาใจ ... เหมือนบอกตัวเอง
มอเตอร์ไซค์สไตล์ครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ล่าสุดจากทางซูซูกิ เด่นด้วยรูปลักษณ์แบบโมโตครอสที่สืบทอด DNA จากตระกูล RM-Z และ DR-Z รุ่นยอดนิยม ออกแบบมาให้ใช้งานได้ดีในทุกสภาพถนน ตามสโลแกน "ท้าทาย ... ทุกทาง"
ซูซูกิ Raider J Crossover เปิดตลาดใหม่ในคลาส 110 ซีซี อย่างแตกต่าง ด้วยการออกแบบที่ไม่เหมือนใครกับการผสมผสานความเป็นรถโมโตครอสเข้ากับรถอันเดอร์โบนอย่างลงตัว ด้วยราคาระดับ 5 หมื่นกว่าบาท ผ่อนเริ่มต้นเดือนละสองพันกว่าบาท ทำให้การตัดสินใจเป็นเจ้าของไม่ใช่เรื่องยากเหมือนกับรถใหญ่หลักแสน สามารถนำมาเป็นรถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี ทั้งในแง่ความประหยัดและการขี่ลุยทุกสภาพผิวถนน นอกจากนี้การนำไปขี่ท่องเที่ยวทางไกลก็ให้ความคุ้มค่าทั้งอัตราสิ้นเปลืองต่ำ สมรรถนะคล่องตัว สามารถตกแต่งเพิ่มเติมได้อีกตามใจไม่ว่าด้าน Performance หรือ Utility เป็นรุ่นรถที่ให้อะไรเหนือความคาดหมายของปีนี้จริงๆ
ฮอนด้า All New Click 160 รุ่น ABS มี 2 สี ดำ Magnetic Black และขาว-ดำ Crystal white ราคาแนะนำ 69,900 บาท สัมผัสแรกรู้สึกได้ถึงความกระทัดรัดของตัวรถและน้ำหนักที่เบาดูคล่องตัว การขี่ทดสอบในช่วงแรกรู้สึกได้ถึงอัตราเร่งที่ฉับไวและไหลต่อเนื่องของเครื่องยนต์ eSP+ การคอนโทรลตัวรถทำได้ง่ายและมั่นใจกับการเทิร์น เมื่อเบรกฉุกเฉินเต็มแรงจนล้อล็อค ระบบเบรกตอบสนองได้อย่างน่าประทับใจ ดิสก์หน้า-หลังทำงานผสานกันให้รถชะลอหยุดได้ด้วยระยะที่สั้นอย่างใจคิด
จุดสำคัญคือ การเบรกบนพื้นผิวทรายที่เทกระจายรอบ แม้เป็น ABS หน้า แต่ระบบก็ทำงานสะท้อนขึ้นมาให้ได้รู้สึกและไหลหยุดได้สั้นจริง ผู้เขียนลองกระแทกคันเร่งออกตัวแบบทันทีบนพื้นผิวทราย ตั้งใจให้ล้อหลังเสียแทร็คชันเพื่อจับอาการว่ารถคลาสนี้ที่ไม่มี แทร็คชัน คอนโทรล จะตอบสนองเวลาออกตัวบนพื้นลื่นอย่างไร ก็พบว่าล้อหลังที่เริ่มฟรีจนท้ายรถเริ่มดันออกข้างให้รู้สึก ก็สวยด้วยการยกคันเร่งจนรถเริ่มทรงตัวตรงแล้วเปิดคันเร่งไปต่อได้แบบสบายๆ การขี่ทดสอบเน้นไปที่เรื่องของสมรรถนะตัวรถเป็นหลักซึ่ง All New Click 160 ทำได้ดีเยี่ยมจากความรู้สึกที่ได้ขี่เทียบกับกลุ่มรถขนาดไม่เกิน 160 ซีซี ในราคาไม่เกิน 7 หมื่นบาท ขี่แล้วชอบเลย