1.ปฏิวัติวงการรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์ที่ดีที่สุดของโลก
ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ โปร (Tiger 1200 Rally Pro) และ
ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์ (Tiger 1200 Rally Explorer) ได้รับการพัฒนาและปรับแต่งมาเพื่อให้เหมาะกับการขับขี่แนวผจญภัยทั้งระยะทางไกลและการขี่แบบออฟโรดขั้นสูง โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยต้องยกให้มาตรฐานของเบรก Brembo Stylema® ระบบเบรก ABS ขณะเข้าโค้ง ที่มาพร้อมระบบ IMU และระบบกันสะเทือนแบบ semi-active ที่ล้ำสมัยสุดๆของ Showa รวมถึงล้อซี่ลวดแบบ tubeless ขนาด 21 นิ้ว และ 18 นิ้ว พร้อมยาง Metzeler Karoo Street™ และความโดดเด่นของไทรอัมพ์ คือ เ
บาะนั่งที่ถูกออกแบบมาให้สามารถปรับตำแหน่งการนั่งให้เหมาะกับสรีระของผู้ขับขี่แต่ละคน เพื่อช่วยทำให้การทรงตัวดีขึ้นและให้ความรู้สึกถึงความสบายขณะขับขี่ ด้วยความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 875 มม. และ 895 มม. โดยลูกค้าสามารถลดตำแหน่งเบาะนั่งได้อีก 20 มม. ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์เสริมเบาะนั่งแบบ low seat นอกจากนี้ยังมีกระจกบังลมแบบใหม่ที่ปรับได้ง่ายพร้อมกลไกที่ปรับได้ด้วยมือเดียว ตลอดจนด้านความจุถังน้ำมันขนาดใหญ่ โดย ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ โปร มาพร้อมถังน้ำมันขนาด 20 ลิตร และ ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์ มาพร้อมถังน้ำมันขนาด 30 ลิตร ให้ความคุ้มค่าในการสามารถกำหนดเวลาเดินทางได้ตามใจทั้งระยะใกล้และระยะไกล
2. ขุมพลังเครื่องยนต์สามสูบแรงบิดสูงอันเป็นเอกลักษณ์
เครื่องยนต์สามสูบขนาด 1,160 ซีซี ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความทรงพลังด้วยแรงบิดที่มากขึ้นจากการปรับแต่งเพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-plane ใหม่ ช่วยเพิ่มอัตราเร่ง รวมถึงกระบอกสูบและระยะชัก ฝาสูบ กระปุกเกียร์ คลัตช์ ตลอดจนเพลาขับและเฟืองบีเวลแบบใหม่ทั้งหมด ทำให้เจ้าเสือแอดเวนเจอร์รุ่นท็อปนี้ ให้พละกำลังสูงสุดได้ถึง 150 แรงม้า ที่ 9,000 รอบต่อนาที และแรงบิดมากขึ้นถึง 130 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด และอีกความพิเศษอยู่ที่ ท่อเก็บเสียงใหม่แบบมินิมอล น้ำหนักเบาเวลาออกตัวมีเสียงที่นุ่มนวลขึ้นกว่าเดิม
3.นิยามบทใหม่ของดีไซน์ ปราดเปรียว คล่องตัว พร้อมสไตล์สุดโดดเด่น
การดีไซน์ของ
ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ โปร (Tiger 1200 Rally Pro) และ
ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์ (Tiger 1200 Rally Explorer) อยู่ตรงที่ตัวรถที่มีน้ำหนักเบาขึ้น หากเทียบกับรถรุ่นก่อน ต่างกันมากถึง 25 กิโลกรัม รวมถึง
เฟรมแบบใหม่และซับเฟรมหลังพร้อมชุดพักเท้าอะลูมิเนียมที่ยึดด้วยสกรู สวิงอาร์มแบบ 'tri-link' ทุกองค์ประกอบเน้นความคล่องตัวและออกแบบให้มีน้ำหนักเบาขึ้น แต่ยังคงความแข็งแกร่ง ในขณะที่ท่าทางและการทรงตัวที่เน้นการขี่ผจญภัย ตัวถังแบบใหม่ ดีไซน์หม้อน้ำคู่แบบใหม่ พร้อมตำแหน่งของแฮนด์บาร์และตำแหน่งที่พักเท้าที่ปรับแต่งอย่างลงตัว
4.ที่สุดแห่งเทคโนโลยีการขับขี่เหนือระดับ เทคโนโลยีครบวงจรที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อยกระดับการขี่ ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และการควบคุมรถ เริ่มต้นที่ ความอัจฉริยะของแผงหน้าปัด TFT ขนาด 7 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อ My Triumph Connectivity ทำให้เข้าถึงระบบนำทางแบบ turn-by-turn นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกภาพจากการควบคุมกล้อง GoPro พร้อมเพิ่มความสะดวกสบายที่ใส่ใจผู้ขับขี่ให้สามารถใช้งานโทรศัพท์ ไปพร้อมกับการเล่นเพลงอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีโหมดการขี่รองรับถึง 6 โหมด ได้แก่ Road, Rain, Sport, Rider-configurable, Off-Road และ Off-Road Pro อีกทั้งการทำงานของเครื่องยนต์ควบคุมด้วยระบบไร้กุญแจที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด เช่น การสตาร์ทรถ ล็อคพวงมาลัย และเปิดฝาถังน้ำมัน ขณะที่ในส่วนของระบบไฟมีการออกแบบไฟ LED แบบใหม่ พร้อมไฟ DRL และไฟหน้าปรับทิศทางตามการเข้าโค้ง (Adaptive Cornering Lights) รวมถึงระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์แบบไม่ใช้คลัตช์ (Triumph Shift Assist) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และเบาะนั่งปรับอุณหภูมิสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังมี Tyre Pressure Monitoring System หรือระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) ที่ช่วยตรวจสอบแรงดันลมยางเพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่อีกด้วย ในขณะที่รุ่น ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์ (Tiger 1200 Rally Explorer) มีอุปกรณ์มาตรฐานพิเศษเพิ่ม คือ เทคโนโลยีเรดาร์จุดอับสายตา (Triumph Blind Spot Radar) ระบบช่วยเหลือขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist) ซึ่งแจ้งเตือนได้แม่นยำขึ้นหากผู้ขี่กำลังเปลี่ยนเลนและมีรถเข้ามาใกล้
5.ตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ มาพร้อมความคุ้มค่าสูงสุด
ไทเกอร์ 1200 มี 3 โทนสีให้เลือก ได้แก่ Snowdonia White, Sapphire Black และMatt Khaki พร้อมการรับประกันคุณภาพ Triumph Warranty 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง นอกจากนี้ยังเข้ารับบริการเช็คระยะฟรีถึง 16,000 กิโลเมตร หรือ 12 เดือน และฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง (Triumph Roadside Assistance) เป็นระยะเวลา 2 ปี
สนใจสามารถชมรถตัวจริงพร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ ฟรีอุปกรณ์เสริมมูลค่ารวมกว่า 92,690 บาท ได้ที่ บูธไทรอัมพ์ G11 งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2022 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1 - 12 ธันวาคม 2565