การทดสอบบนถนนจริงทริปนี้ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้ เชิญอินฟลูเอนเซอร์ ยูทูปเบอร์ ฯลฯ รวมทั้งทีมงาน MotorBikeGuru Thailand โดย Checkraka.com ร่วมทดสอบสมรรถนะ ยามาฮ่า E01 บนเส้นทาง บางแสน - พัทยา
นับเป็นครั้งแรกกับการลองขี่ยามาฮ่า E01 รถที่เป็นโปรโตไทป์เสมือนผลิตจำหน่ายจริง ก่อนหน้าได้มีการลองขี่โดยทีมงานของยามาฮ่าทางภาคเหนือไปอย่างที่นำเสนอข่าว และอีกครั้งกับการพาสื่อมวลชนกลุ่มใหญ่ไปทดสอบขี่พร้อมกันกว่า 40 คัน ที่เขาใหญ่เพื่อพิสูจน์สมรรถนะกับเส้นทางที่ท้าทายสำหรับมอเตอร์ไซค์พลังไฟฟ้า ซึ่งก็ได้นำเสนอเรื่องราวไปแล้วเช่นกัน ครั้งนี้เป็นอีกทริปสำหรับการขี่บนถนนจริงบนเส้นทางสัญจรระหว่าง บางแสน - พัทยา จังหวัดชลบุรี โดยกลุ่มทดสอบส่วนใหญ่เป็น อินฟลูเอนเซอร์, ยูทูปเบอร์ และสื่อมวลชนบางส่วน ซึ่งผู้เขียนได้เข้าร่วมเป็นครั้งแรกขับรถหมายเลข 15 โดยรับฟังข้อมูลตัวรถและเส้นทางกันที่ร้าน Momoji ชลบุรี ร้านสไตล์แจแปนแบบโอซาก้า หลังรับฟังข้อมูลและเส้นทางขับขี่ ซึ่งการทดสอบจะไปเป็นขบวน โดยมีรถทีมงานเซฟตี้นำ และปิดท้ายให้เพื่อความปลอดภัย แนะนำความเร็วเดินทางสูงสุดราว 90 กม./ชม. แต่พอขี่จริงๆ มีทั้งแยกไฟแดง การจราจรที่หนาแน่น ทำให้ความเร็วเฉลี่ยจริงๆ ไม่มากนัก E01 ทยอยออกตัวตามกัน ผู้เขียนเลือกโหมดมาตรฐาน - STD ขับขี่ในช่วงแรกเพื่อทำความคุ้นชินกับตัวรถ เส้นทางจากบางแสนสู่แหลมบาลีฮายเป็นทางหลวงผ่านตัวเมือง มีแยกไฟแดง และยูเทิร์นสลับเป็นระยะ ทำให้การขี่เสมือนการใช้งานในชีวิตประจำวันจริงๆ ผู้เขียนหลังจากคุ้นมิติตัวรถที่ใกล้เคียงกับ Nmax ขับขี่คล่องตัว ฟิวลิ่งการตอบสนองของกำลังมอเตอร์ที่คล้ายรถเครื่องยนต์น้ำมันแต่นุ่มนวลมากกว่า ไม่มีอาการเผลอเปิดคันเร่งเร็วแล้วรถกระชากเหมือนที่คิด ทำให้ประทับใจจุดนี้มาก และก็เป็นจุดสำคัญที่แตกต่างไปจากมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์จากจีนส่วนใหญ่ ผู้เขียนลองปรับโหมดเพื่อเปรียบเทียบในช่วงออกตัวจากจุดหยุดนิ่งพบว่าทั้ง 3 โหมดมีความแตกต่างแบบรู้สึกได้ทันที โหมดอีโค - ECO ที่ลดทอนกำลังและแรงบิดลงชัดเจนนั้น ออกอาการหน่วงตอบสนองแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่พอรถเคลื่อนตัวและเติมน้ำหนักคันเร่งก็ให้ความเร็วที่ไม่นับว่าช้าแต่อย่างใด โดยถูกจำกัดไว้ที่ 60 กม./ชม. ด้านโหมดพาวเวอร์ - PWR นั้น ช่วงออกตัวฉับไวกว่าโหมดมาตรฐานนิดเดียวด้วยแรงบิดที่ไม่ถูกจำกัด แต่สำหรับการใช้งานทั่วไป เดินทางและขับขี่สนุกแบบสปอร์ตโหมดมาตรฐานก็เพียงพอ การขี่ขึ้นลงไปยังจุดชมวิวตัวรถก็ให้กำลังส่งต่อเนื่องที่ดีผู้เขียนหนัก 65 กก. แต่มีผู้ร่วมทริปที่หนัก 120 กก. ก็ขี่ขึ้นลงได้ไม่มีปัญหา การกลับรถเวลาจอดก็สะดวกสบายด้วยเกียร์ถอยหลัง R พิเศษกว่าสกู๊ตเตอร์ที่เราคุ้นกัน อย่างไรก็ตามจังหวะการลงเขาไปตามทางโค้งนั้นยังต้องคุมเรื่องความเร็วมากกว่าปกติ เพราะส่งไปด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและแรงโน้มถ่วงของโลกล้วนๆ
ขบวนฯ แวะพักทานอาหารกลางวันกันที่หาดจอมเทียนหลังจากนั้นก็เดินทางถึงโรงแรมปลายทางของทริป แต่เปิดโอกาสให้กับใครที่อยากนำรถไปขี่ทดสอบเพิ่มเติมเอง ซึ่งผู้เขียนไม่รีรอที่จะพา E01 ขี่ไปแบบตามใจคันเดียว ซึ่งได้ลองรถในแบบที่เหมือนการขี่จริงๆมากขึ้นทั้งการออกตัว เบรก ทำความเร็วบนถนนใหญ่ หรือเลาะเลี้ยวไปช่องว่างระหว่างรถยนต์ที่ติดไฟแดง ขี่แวะจอดเข้า 7/11 กุญแจรีโมทเป็นสมาร์ทคีย์เหมือนในยามาฮ่ารุ่นใหม่ๆ ซึ่งใช้งานง่ายอยู่แล้ว ขี่ไปสักจนเปอร์เซนต์แบตเตอรี่เหลือราว 30 ระยะทางที่เหลือบอก 28 กม. จึงได้ขี่กลับไปคืนรถ เป็นช่วงที่ขี่สนุกและได้รู้ถึงสมรรถนะที่ผ่านทุกข้อสงสัยจริงๆ
สรุปว่า หลังจากชาร์จเต็ม ตัวเลขบอกวิ่งได้ 96 กม. ผู้เขียนขี่จบที่ 80 กม. ทางโล่งเร่งความเร็วสูงสุดได้ 102 กม./ชม. ฟิวขี่จริงเนียนมากๆ นี่คือ มาตรฐานของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ควรจะเป็น ฟิวช่วงล่างนุ่มหนึบสบายหลังและก้น แถมมีเกียร์ถอยให้ใช้เพิ่มความสะดวกไม่น้อย แต่ส่วนตัวอยากได้ปาร์คกิ้งเบรกมากกว่า เรื่องของราคายังไม่มี เมื่อไหร่จะทำขายก็ยังไม่มีกำหนดไทม์ไลน์ แต่ถ้าประกาศขายเมื่อไหร่ ราคาคาดว่าจะอยู่ราวแสนปลาย ถึงตอนนั้น E01 จะเป็นรถที่คนส่วนใหญ่ได้แค่ชอบหรือเป็นเจ้าของจริงๆ ก็ต้องขึ้นอยู่กับราคาและความพร้อม ตัดเรื่องเหตุผลความคุ้มต่า ความประหยัด กับเรื่องอเนกประสงค์ออกไปได้เลย คนที่ขี่ E01 ก็คงเป็นกลุ่มที่ใช้รถยนต์ไฮบริด อีวี และอยากลองใช้มอเตอร์ไซค์ที่ทันสมัยเหมือนกัน แต่ต้องมีอิมเมจที่ดี ไม่เกี่ยงเรื่องราคามากนัก
Fast Fact - ยามาฮ่า E01
ตัวรถเทียบเท่าจักรยานยนต์คลาส 125 ซีซี (อ้างอิงจากยามาฮ่า NMAX 125 ในยุโรป) ตำแหน่งท่านั่งขี่สะดวกสบาย ความยาวของรถ 1,930 มิลลิเมตร ที่เก็บของใต้เบาะ ขนาดความจุ 23 ลิตร สามารถเก็บหมวกกันน็อกได้ ความสูงเบาะ 755 มิลลิเมตร ขึ้นลงสะดวกเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทำความเร็วสูงสุดได้ราว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ควบคุมได้นุ่มนวลเหมือนจักรยานยนต์เครื่องยนต์ทั่วไป มีระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ Vehicle Control Unit, Battery Management System, Motor Control Unit พร้อมระบบเบรก Regenerative Brake ที่จำลองความรู้สึกของ Engine Brake เพื่อให้ลดความเร็วได้อย่างนุ่มนวล มีระบบป้องกันล้อลื่นไถล Traction Control System รวมทั้งยังสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลการทดสอบ POC ผ่านระบบเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ E-sim และมี GPS ในตัว โดยข้อมูลที่ถูกเก็บมา จะถูกส่งต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์เ พื่อทำการวิเคราะห์และพัฒนาต่อไป
ยามาฮ่า E01 ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไลออน ขนาดใหญ่ 4.9 กิโลวัตต์ชั่วโมงให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุด 8.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่ 5,000 รอบ และแรงบิดสูงสุด 30.2 นิวตันเมตรที่ 1,950 รอบ สามารถวิ่งได้สูงสุด 130 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน WMTC คลาส 1 ในยุโรป และสามารถเลือกชาร์จแบตเตอรี่ได้ 3 รูปแบบ ได้แก่
1. เครื่องชาร์จแบบเร็ว - เหมาะสำหรับการติดตั้งโดยผู้ให้บริการแบ่งเช่ารถ หรือ ตัวแทนจำหน่าย สามารถชาร์จ จาก 0% ถึง 90% ได้ภายใน 1 ชั่วโมง
2. เครื่องชาร์จแบบปกติ - เหมาะสำหรับการติดตั้งภายในบ้าน สามารถชาร์จ จาก 0% ถึง 100% ได้ภายใน 5 ชั่วโมง ที่แรงดันไฟฟ้า 200V (เข้ากันได้กับเต้ารับ 200–240V ในประเทศต่างๆ)
3. เครื่องชาร์จแบบพกพา - พกพาสะดวกด้วยขนาดที่พอดีกับช่องเก็บของใต้เบาะนั่ง สามารถชาร์จจาก 0% ถึง 100% ได้ภายใน 14 ชั่วโมง ที่แรงดันไฟฟ้า 100V (200–240V ในประเทศต่างๆ)
ยามาฮ่า E01 มี 3 โหมดการขี่ เพื่อความเหมาะสมตามการใช้งาน และไลฟ์สไตล์ ได้แก่
• PWR (โหมดเพาเวอร์): กำลังสูงสุด 8.1kW ที่ 5,000rpm แรงบิดสูงสุด 30.2Nm ที่ 1,950 rpm สามารถทำความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับการขับขี่ที่ดึงกำลังสูงสุดของมอเตอร์ออกมา เหมาะสำหรับการขี่ขึ้นเนิน และการเร่งแซง ฯลฯ
•
STD (โหมดมาตรฐาน): กำลังสูงสุด 8.1kW ที่ 5,000rpm แรงบิดสูงสุด 24.5Nm ที่ 1,500 rpm สามารถทำความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เหมาะกับการขับขี่ทั่วไปที่ใช้บ่อยที่สุดในช่วงความเร็ว 30-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
•
ECO (โหมดอีโค): กำลังสูงสุด 5.4kW ที่ 4,500rpm แรงบิดสูงสุด 21.4Nm ที่ 1,500rpm ทำให้ประหยัดพลังงานและสามารถเดินทางได้ระยะไกลขึ้น เพื่อจำกัดการใช้พลังงานแบตเตอรี่และจำกัดความเร็วสูงสุด อยู่ที่ประมาณ 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง