พรีวิว Aprilia SR GT 200 สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยม DNA อิตาลี ยิ่งขี่ ยิ่งมัน!

รถคันนี้ “ยิ่งขี่ ยิ่งมัน” ที่พูดแบบนี้เพราะหลังจากที่เราได้ลองสัมผัส Aprilia SR GT 200 สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมสัญชาติ อิตาลี จากแบรนด์ อาพริเลีย (Aprilia) ซึ่งนำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จํากัด ที่ได้เปิดตัวไปหมาดๆ แม้จะมาในคลาสน้องเล็ก 200 ซีซี แต่ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ดูเท่ ไม่ซ้ำใคร ถ่ายทอด DNA จากรุ่นพี่สาย Sport มาหลายจุด จึงทำให้สกู๊ตเตอร์คันนี้น่าสนใจไม่น้อย

 

ซึ่งหลังจากที่เราได้รับหมายให้ไปสัมผัสกันในสนาม Impact speed park ทีมงาน Motorbike Guru by Checkraka ก็ไม่รอช้าที่จะไปเก็บข้อมูล พร้อมมาไขความพิเศษกับสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมคันนี้ Aprilia SR GT 200 กับราคา 143,900.- 148,900 บาท 

 

 

Aprilia เปิดตัวสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยม 2 รุ่น คือ SR GT 200 / SR GT 200 Sport รถคันนี้ออกแบบเส้นสายให้ดู Sport และรองรับการขี่ได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Road Touring และ Dirt หรือจะไปในแนว Urban Adventure ก็สามารถไปได้ทุกที่

 

 

จุดเด่นของ Aprilia SR GT เริ่มจากไฟหน้า 3 ดวง ที่คล้ายดวงตาเทพเจ้า ซึ่งทั้งคันเป็นไฟ LED ทั้งหมด แม้กระทั่งไฟเบรกหรือไฟส่องป้ายทะเบียน สุดเท่ด้วยชิลด์บังลมหน้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานอย่าง RSV4 แตกต่างด้วยแฟริ่งข้างแบบสองชั้น พร้อมบังลมที่ออกแบบให้การปกป้องผู้ขับขี่ตามหลักอากาศพลศาสตร์ อีกทั้งสร้างกิมมิค ลูกเล่นด้วยลายเคฟล่ารอบคัน ตั้งแต่บังโคลนหน้า, ใต้บังลมหน้า, ขอบทั้งสองข้างใกล้จอ, ขอบช่องพอร์ต USB, คอนโซลกลาง, แผงแฟริ่งข้างด้านใน, แผ่นกันร้อน ท่อไอเสีย ไปจนถึงบังโคลนหลัง เรียกว่าเท่แล้วก็เอาให้สุดๆ ไปเลย

 

 

ด้านระบบกันสะเทือนให้โช้คอัพหน้า เทเลสโคปิคจาก SHOWA ขนาดแกน 33 มม. โช้คอัพหลัง SHOWA เช่นกัน สามารถปรับ Preload ได้ 5 ระดับ เสริมความมั่นใจด้วยระบบเบรกดิสก์ด้านหน้าขนาดใหญ่แบบ Wavy ระบบ ABS และดิสก์เบรกหลัง ทำให้มั่นใจในการเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการหยุดรถที่ดีขึ้น เสริมทัพรับกับยางแบบ All - Terrain ล้อหน้าขนาด 14 นิ้ว หลัง 13 นิ้ว และยาง Michelin Anakee

 

มาดูที่หน้าจอเรือนไมล์ของ SR GT 200 คันนี้กันก่อนเพราะมาพร้อมหน้าจอแบบ LCD พื้นหลังโทนสีดำเข้มตัดกับตัวอักษรสีขาวให้ความชัดเจนและแสดงค่าต่างๆ ครบถ้วน โดยบริเวณด้านบนจะแสดงไฟเตือนระบบต่าง ๆ และยังสามารถเชื่อมต่อ Application ผ่านระบบ Bluetooth โดยดาวน์โหลด Application ที่ชื่อว่า Aprilia MIA ก็สามารถใช้งานได้สะดวกสบาย เห็นสายโทรเข้าได้ผ่านหน้าจอของตัวรถ โดยใช้ปุ่มควบคุมที่แฮนด์ได้ อีกทั้งตัวรถยังมีพอร์ต USB สำหรับชาร์จไฟ ให้ด้วย

 

 

เบาะนั่งเป็นทรง Sport สีทูโทนเทา-ดำ (รุ่น Sport) ส่วนรุ่น Standard สีดำล้วนตัดด้วยด้ายสีแดง และเปิดเบาะด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมช่องเก็บสัมภาระใต้เบาะขนาดใหญ่ ความจุ 25 ลิตร สามารถใส่หมวกแบบเต็มใบได้

 

สำหรับ Aprilia SR GT มาพร้อมกับเครื่องยนต์ i-get หัวฉีด 1 สูบ 174 ซีซี ให้กำลังสูงสุดที่ 13 กิโลวัตต์ (17.7 แรงม้า) ที่ 8,500 รอบ/ นาที แรงบิดสูงสุด 16.5 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบต่อนาที ระบายความร้อนด้วยน้ำ กับถังน้ำมัน 9 ลิตร ที่เติมได้ตั้ง 95-E20 ผ่านมาตรฐาน Euro5 เป็นที่เรียบร้อย และรถยังมีระบบสตาร์ท & สต๊อป ควบคุมการทำงานด้วยโปรแกรม ECU ใหม่ RISS (Regulator Inverter Start & Stop System) เวอร์ชันใหม่ 3.0 ให้เครื่องยนต์ปราศจากเสียงรบกวนจากมอเตอร์ขณะสตาร์ทและระบบจะหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ขณะรถติดหรือจอดนิ่งเองโดยอัตโนมัติ

 

ความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นนั้นถ้าเป็นรุ่น Sport จุดที่แตกต่างก็จะมีล้อแม็กที่เป็นสีแดง เบาะแบบทูโทน สติ๊กเกอร์ตัวอักษร a เล็กที่ข้างแฟริ่ง ด้ามจับคนซ้อนท้ายเบาะจะเป็นสีเดียวกับรถ รวมไปถึงสีในรุ่น SR GT 200 Sport จะมี 3 สี เหลือง, เทา, ดำ ส่วน SR GT 200 มี 2 สี เทา-ขาว, ดำ - ขาว

 

เป็นรถที่พูดเต็มปากว่า ขี่โคตรมัน ความรู้สึกครั้งแรกที่เห็นเฮ้ย! รถมันหล่อมาก เท่ ดู Sport แต่ดูสูงนะสำหรับเรา (ตอนตั้งขาคู่) พอเอาลงเป็นขาตั้งเดี่ยวพอใจชื้นขึ้นมาหน่อย เพราะมันไม่ได้สูงจนขาไม่ถึง สำหรับคนสูง 150 ซ.ม. รถคันนี้ความสูงจากพื้นถึงเบาะอยู่ที่ 799 มม. เท้าสองข้างบัลเล่ต้องเอียงตัวช่วย แต่ด้วยรถน้ำหนักเบา 148 กก. ก็สบายๆ ไม่ได้เป็นอุปสรรค บวกกับหน้ารถขนาดแฟริ่งก็ไม่ได้ใหญ่เก้งก้าง ซอกแซกรถติด มุดสบาย

 

 

ถึงเวลารอบขี่ จัดไป 3 รอบใหญ่ๆ รอบแรกแอบเกร็งเพราะยังไม่คุ้นชิน พอทำความรู้จักไปสักพัก ต้องบอกเลยว่า มันขี่สนุก รถเบา บิดเร่งติดมือดี แฟริ่งมีช่องระบายทั้งสองข้าง มันเหมือนช่วยรีดลมที่เข้ามาปะทะ ทำให้คุมรถไม่เหนื่อย (ความกว้างของแฮนด์อยู่ที่ 765 มม.) แฮนด์บาร์เลี้ยวง่ายตามใจสั่ง พร้อมระยะโอเวอร์แฮงค์ต่ำ ทำให้รู้สึกว่ารถมันขี่ง่าย ขี่มัน และที่พักเท้าสำหรับวางเท้าไปด้านหน้าที่มีระยะยาวขึ้น ทำให้ผ่อนคลายขี่แล้วไม่เมื่อย

 

 

ช่วงเข้าสลาลมพลิกคืนกลับง่าย และตอนขี่ด่านเนินลูกระนาด รู้สึกถึงความนุ่มนวล เพราะได้โช้คอัพดีช่วยซับจาก Showa ทั้งหน้าและหลัง (หลังปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ ) ท้ายมีสไลด์บ้างช่วงโค้งที่ทำความเร็ว แต่ถือว่าเอาอยู่ เหมาะขี่ลุยเมือง ลุยออฟโรดเบาๆ หรือน้ำท่วมกรุงก็สบายเพราะท่อสูง เรียกได้ว่ารถคันเดียวที่ตอบโจทย์ได้ทุกกิจกรรมจริงๆ

 

 

 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/OfficialApriliaThailand และโชว์รูม Motoplex ทั่วประเทศ