MALAGUTI MADISON 150 สกู๊ตเตอร์สปอร์ตพรีเมียม ในคลาส 150 ซีซี ที่ถ่ายทอด DNA อิตาเลียนดีไซน์สุดโฉบเฉี่ยว สปอร์ต เร้าใจ พร้อมราคาเปิดตัวเพียง 79,800 บาท แบรนด์ MALAGUTI (มาลากูติ) ถือกำเนิดขึ้น ณ เมืองโบโลญญา ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ และเป็นเมืองต้นกำเนิดของแบรนด์ดังในวงการยนตกรรมระดับโลกมากมาย เช่น LAMBORGHINI, MASERATI, DUCATI และ MALAGUTI
สำหรับการผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย เป็นการร่วมลงทุนระหว่าง MALAGUTI อิตาลี กับ บริษัท ไดนามิค มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จริงๆ ก็เพื่อผลิตและจัดจำหน่ายในภูมิภาคนี้ และยุโรป ล่าสุดทีมงาน Motorbike GURU by CheckRaka.com นำ
MALAGUTI MADISON 150 มาขี่ทดสอบให้รู้จักตัวตนและสมรรถนะ ตลอดจนความคุ้มค่า
สเปคและจุดเด่นของ MALAGUTI MADISON 150
MALAGUTI MADISON 150 สกู๊ตเตอร์สปอร์ตพรีเมียม คลาส 150 ซีซี อิตาเลียนดีไซน์ โฉบเฉี่ยว สปอร์ตเร้าใจ ขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 150 ซีซี 4 จังหวะ 4 วาล์ว เทคโนโลยีหัวฉีด (Bosch EFI) ระบายความร้อนด้วยนํ้า ระบบส่องสว่างไฟหน้า ไฟท้าย และรอบคันเป็นแบบฟูล LED ด้านหน้าจอเป็นแบบ LCD DISPLAY DYNAMIC MOTION
ให้ความสะดวกตั้งแต่เริ่มกับกุญแจรีโมทที่ดูพรีเมียมเหมือนรถยนต์หรู ช่วยเสริมการปลดล็อคอีกขั้นก่อนบิดสตาร์ทออกตัว มั่นใจในทุกการหยุดด้วยระบบเบรกที่ด้านหน้าเป็นแบบ 3 POT หลัง 1 POT พร้อมระบบ CBS คอมบายเบรกที่ช่วยกระจายแรงเบรกให้สมดุลในทุกการชะลอหยุด เด่นด้วยถังน้ำมันขนาดใหญ่จุได้ถึง 10 ลิตร ตอบโจทย์ด้านการใช้งานเดินทาง และมี USB CHARGING SOCKET สำหรับชาร์จอุปกรณ์พกพา เข้ายุคสมัยที่เน้นการเข้าถึงโลกโซเชี่ยลในทุกวัน
การเดินทางและสมรรถนะ
MALAGUTI MADISON 150 เป็นสกู๊ตเตอร์คลาส 150 ซีซี ที่ขี่ทางไกลได้สบายกว่าที่คิด ช่วงล่าง เบรก อัตราเร่ง ดีพอแบบไม่ต้องกังวลเหมือนขี่รถเล็กทั่วไป ภาพรวมด้านการใช้งานขี่ทางไกลนับว่าผ่านสบาย ผู้เขียนได้รับรถมาเพื่อขี่ตามใจไลฟสไตล์ที่ไปไหนอย่างอิสระ พาไปชิลกับคาเฟ่เก๋ๆ ที่จัดเป็นฮิดเด้นของสายไบค์เกอร์ที่พลาดไม่ได้ พร้อมขี่ชมเมืองย่านบางรักที่มีเส้นทางท้าทายกับการจราจรที่สุดวุ่นวายและเต็มไปด้วยทางผ่านซอกแซกมากมายที่พร้อมให้ขี่สำรวจชื่นชมกับความงามของอาคาร สถานที่เก่าแก่ ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานเหมือน มาลากูติ ที่กำเนิดมาเกือบ 100 ปี
ตัวรถก้าวขึ้นลงสะดวกมาก เพราะเบาะนั่งสูงจากพื้น 755 มม. ทำให้ขาถึงพื้นสบาย ผู้เขียนสูง 171 ซม. วางเท้าได้เต็มขณะหยุด
การใช้งานในเมืองสะดวกมั่นใจกับรีโมทก่อนสตาร์ท แต่หลายครั้งก็คิดว่าระบบส่งเสียงเตือนมากเกินไปไหม การขี่ชิลชมเมืองและแวะคาเฟ่ลับสุดเก๋ที่สะท้อนความมีสไตล์ของตัวรถ ผ่านไปทางไหนใครก็มอง จอดได้ไม่นานก็ต้องมีคนเข้ามาขอถ่ายรูปและสอบถาม นับเป็นความรู้สึกที่ดีไม่น้อยเพราะ MADISON 150 ไม่ใช่แค่สกู๊ตเตอร์ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ยังเป็นสกู๊ตเตอร์ที่มีเอกลักษณ์และสไตล์เหมือนการครอบครองรุ่นรถที่มีคุณค่าต่างจากทั่วไป หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิตอล LCD สว่างชัดเจน ออกแบบไม่เหมือนใคร และมีลูกเล่นเวลาเปิดไฟเลี้ยวด้วย การขี่เลี้ยวเลาะตามช่องว่างระหว่างรถยนต์ หรือเข้าออกซอยแคบหักเลี้ยวกลับรถ คุมรถได้ง่ายสบายเพราะน้ำหนัก 142 กก. สบายมากกับการควบคุม และเข้าจอดในที่ต่างๆ ด้านสมรรถนะพบว่าอัตราเร่งตอบสนองได้ดีพอตัว แรงบิดนี่นับว่าดีมาก เร่งออกตัวอาจไม่หวือหวาแต่ก็ไม่ช้า ซุ่มเสียงการทำงานของเครื่องยนต์จัดว่าดี ถ้านำไปไล่ข้างและแต่งท่อเพิ่มเติมน่าจะโดนใจขึ้นอีกไม่น้อย การขี่เลาะเลี้ยวไปตามถนนบางรักและซอยแคบต่างๆ ในละแวกนั้น ให้ความประทับใจกับความคล่องตัว ระบบช่วงล่าง(ด้านหน้าเทเลสโคปิค หลังดับเบิ้ลช็อคปรับได้ 5 ระดับ) และระบบเบรกมากๆ
ผู้เขียนยังไปลองขี่ใช้พื้นที่ย่านหัวลำโพงที่การจราจรพลุกพล่านตลอดเวลา
MADISON 150 กับสเปคที่ให้มายางเกรดพรีเมี่ยม เบรกหน้า 3 pot ทำงานร่วมกับดิสก์หลังบอกได้เลยว่า
ขี่สนุก ควบคุมรถไปในทิศทาง และช่องว่างได้อย่างดีเยี่ยม เข้าโค้งได้มั่นใจ การทำงานของเบรกที่มีระบบ CBS นั้นทำให้ไว้วางใจได้สุดๆ การตอบกลับของระบบเบรกให้สัมผัสที่ดีและง่ายต่อการเพิ่มน้ำหนักเบรกมากๆ ช่วยให้ขี่ได้อย่างสนุกสนานตลอดวันจริงๆ
บทสรุปและความคุ้มค่า
MADISON 150 ขี่ในเมืองสุดคล่องตัว ฝ่าการจราจรรถติดได้พลิ้วเลย ทำให้สนุกไปกับการขี่ในทุกๆ วันของการใช้งาน ด้วยรูปลักษณ์สวยมีสไตล์เฉพาะตัว ออกแบบรายละเอียดได้อย่างมีมิติ ชิ้นงานก็พรีเมี่ยมเกินใครในคลาส การประกอบก็เรียบร้อย เห็นแล้วประทับใจไม่น้อย ส่วนสมรรถนะการใช้งานรอบด้านจัดว่าคุ้มค่าตัวเหลือเกิน
นับเป็นแบรนด์ใหม่ที่ให้ผลลัพธ์การขี่ที่เหนือความคาดคิดไปไม่น้อย จนส่วนตัวอยากจะมีครอบครองเองไว้สักคัน MALAGUTI MADISON 150 มีให้เลือกถึง 4 สี
- 1. VIBRAN MATT RED SATIN (สีแดง)
- 2. VENGEANCE NIGHT BLACK (สีดำ)
- 3. EMPTINESS FORCE WHITE (สีขาว)
- 4. MAMBAS MATT GREEN SATIN (สีเขียว)
กับราคาค่าตัวเพียง 79,800 บาท ใครสนใจสกู๊ตเตอร์สปอร์ตพรีเมียมสัญชาติอิตาเลียน ไปลองและจองได้ตั้งแต่วันนี้ที่ศูนย์ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 50 สาขา หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง
www.malaguti.bike/th