เตรียมพบกับงานแสดงรถรายการแรก งานใหญ่ประจำปีนี้ 23 มีค.- 3 เมย. ทีมงานมอเตอร์ไบค์กูรูชวนไปสัมผัสกับบิ๊กไบค์สไตล์แอดเวนเจอร์หลากหลายแบรนด์และรุ่นที่พร้อมเป็นตัวเลือกรถคู่ใจคันใหม่ด้วยรูปลักษณ์ สมรรถนะ และราคา รุ่นไหนตอบโจทย์ได้โดนใจสุด ดีลดีที่สุด ต้องไปชมตัวจริงกันในงาน และนี่คือ เหล่าบิ๊กไบค์แอดเวนเจอร์ ที่พร้อมไปโชว์ให้ได้สัมผัสกันงานนี้
แอดเวนเจอร์ไบค์อัพเดตใหม่ล่าสุดจากฮอนด้า บิ๊กไบค์ มาพร้อมคอนเซปต์ Endless Route Await ดีไซน์ใหม่ทั้งคัน สะดุดตาไปกับเส้นสายและรูปทรงที่มีความโฉบเฉี่ยวมากขึ้นกว่าเดิม โดดเด่นด้วยไฟหน้าดีไซน์ใหม่ และไฟ LED ทั้งคัน ให้ความเฉียบคมทุกมุมมอง หน้าจอ LCD Speedometer ดีไซน์ใหม่ มาพร้อม ระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบเกียร์แบบ DCT (Dual Clutch Transmission) เลือกเปลี่ยนได้ทั้ง MT/AT ควบคุมรถได้อย่างแม่นยำด้วยระบบคันเร่งไฟฟ้า Throttle by Wire มาพร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 4 โหมด ได้แก่ Sport, Standard, Rain และ User ปลอดภัยทุกการเดินทางด้วยระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) ป้องกันล้อหมุนฟรีเมื่อเจอพื้นลื่น นับเป็นบิ๊กไบค์แอดเวนเจอร์ ไบค์ที่ขี่ง่ายมากที่สุดรุ่นหนึ่ง
Ducati Multistrada V4 Pikes Peak
สุดยอดรถ Sport touring ที่คว้ารางวัลการแข่งขัน Pikes Peak International Hill Climb นับเป็นรถจักรยานยนต์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในปี 2022 ด้วยจุดเด่นพิเศษ คือ ล้อ Forged aluminium ขนาด 17 นิ้ว ของ Marchesini ยาง Pirelli Diablo Rosso IV กับสวิงอาร์มเดี่ยว พร้อมระบบกันสะเทือนแบบกึ่งแอ็คทีฟ Öhlins Smart EC 2.0 และโหมดการขับขี่แบบ Race Riding เครื่องยนต์ 170 แรงม้า สูงสุดของตระกูล Touring Adventure ในราคาเปิดตัวที่เร้าใจ คุ้มค่ากับความพิเศษที่จัดมาให้เต็มที่ในราคา 1,579,000 บาท
รถแอดเวนเจอร์ ทัวริ่งที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และนิยมมากที่สุดของเราในหลายภูมิภาค ล่าสุดมีการปรับ หน้าปัดแสดงผลการนำทางแบบเรียลไทม์ (real time) บนตัวรถที่มี Google Maps ในตัว และสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของผู้ขี่ผ่านแอปพลิเคชัน ‘Royal Enfield’ ได้ เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบป้องกันเบรกล็อคแบบสลับได้ ทำให้ผู้ขี่ควบคุมตัวรถได้ดีมากขึ้น
Himalayan อัพเกรดใหม่มาใน 3 สีใหม่ล่าสุด Granite Black, Mirage Silver และ Pine Green เพิ่มมาจาก 3 สีเดิม Rock Red, Lake Blue และ Gravel Grey และพร้อมให้ผู้ขี่ชาวไทยได้ทดลองขับและจองแล้ว ในราคา 189,700 บาท สำหรับทั้ง 3 สี
Harley-Davidson Pan America™ 1250 Special
เครื่องยนต์ Revolution™ Max 1250 V-Twin ใหม่ ความจุกระบอกสูบ 1,250 ซีซี 145 แรงม้า Adaptive Ride Height (ADR) หรือระบบปรับระดับความสูงในการขับขี่ (เฉพาะในรุ่น Pan America™ 1250 Special) ซึ่งจะช่วยปรับระดับเบาะนั่งให้เหมาะสมกับช่วงเวลาขณะกำลังขับ และขณะที่รถหยุดไฟหน้าแบบปรับได้ Advanced Daymaker™ สุดล้ำที่จะช่วยส่องไฟไปยังมุมต่างๆขณะเข้าโค้ง ที่ไฟหน้าแบบ LED ทั่วไปมักจะส่องไปไม่ถึง มาพร้อมเฉดสีใหม่ให้เลือก คือ Fastback Blue/ White Sand ราคา 1,046,000
บิ๊กไบค์ที่ใช้งานแบบ dual-purpose ให้ความอเนกประสงค์ขี่ได้สบายทั้งทางดำและฝุ่น อัพเดตขุมพลังใหม่ขนาด 652 ซีซี 4 วาล์ว สูบเดียว ทันสมัยกับมาตรวัดดิจิตอล และเดินทางไกลสบายๆ กับถังน้ำมันขนาด 23 ลิตร พร้อมมั่นใจกับระบบไฟส่องสว่าง LED Headlight ใหม่ ระบบเบรก ABS กับจานเบรกหน้าขนาดใหญ่ ชีลด์หน้าดีไซด์ใหม่ที่พร้อมผจญภัยไปทุกเส้นทาง
ยังคงหล่อเหลาด้วยสไตล์และสีสันใหม่ พร้อมคุณภาพการผลิตจากญี่ปุ่นโดยตรง เทคโนโลยีอัดแน่นไปด้วย Feature ต่างๆ ช่วยให้ขี่สนุกไปกับทุกการเดินทาง นับเป็นบิ๊กไบค์สาย Dual Purpose ที่สมกับเป็นเจ้าแห่งการผจญภัย ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 645 ซีซี สูบวี-ทวิน ให้ความแรงระดับ 70 แรงม้า ที่ 8,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 61 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที ถังน้ำมันจุ 20 ลิตร พร้อมหวดยาว
ทั้งหมดเป็นบิ๊กไบค์สไตล์แอดเวนเจอร์ ที่มีน้ำหนักตัวกำลังดีและกำลังขี่สนุก ควบคุมง่าย ราคาก็เข้าถึงได้ไม่ยากด้วย เหมาะกับการใช้งานขี่ท่องเที่ยวในบ้านเรา ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ รถทุกคัน ทุกรุ่นต่างมีจุดเด่นในตัว อยากเห็นและเปรียบเทียบกับชัดๆ ไปเดินดูกันได้ในงานมอเตอร์โชว์ ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมนี้