มอเตอร์ไซค์พลังไฟฟ้า เรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด

ท่ามกลางกระแสยานพาหนะขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าในยุคนี้ ประกอบกับความตื่นตัวของแบรนด์ระดับโลกในวงการยานยนต์ที่ให้คำมั่นถึงการเลิกผลิตรถเครื่องยนต์ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันแบบเดิมๆ ภายในระยะเวลาอันใกล้ โดยมุ่งไปที่ตลาดรถอีวีต่อจากนี้ แน่นอนว่าอนาตปลายทางของการใช้พาหนะจะเปลี่ยนไปเป็นการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ากันหมด อย่างไรก็ตามในช่วงเปลี่ยนถ่ายสู่ยุคอีวี เรายังคงก้าวไปที่รถไฮบริดหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะปลั๊กอินที่ให้ลักษณะการใช้งานใกล้เคียงอีวีที่สุดก่อน เพราะข้อจำกัดด้านระยะทาง และความแพร่หลายของจุดชาร์จ ยังเป็นสิ่งที่ต้องนำมาคิดก่อนตัดสินใจซื้อ แม้มีตัวเลือกรถยนต์และมอเตอร์ไซค์อีวีมากขึ้นทุกวันก็ตาม

สำหรับมอเตอร์ไซค์พลังไฟฟ้าแบรนด์ชั้นนำเองก็ยังมีตัวเลือกให้ซื้อไม่มากนัก เว้นแต่ตลาดระดับล่าง ที่มีมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กพลังไฟฟ้าจากประเทศจีนนำเข้ามาจำหน่ายหลายแบรนด์ และเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ข้อดีทำให้หลายคนเริ่มคุ้นเคยกับพาหนะสองล้อพลังไฟฟ้า กลายเป็นเรื่องปกติของการใช้งาน แต่นั่นกลุ่มนั้นอาจทำให้ไบค์เกอร์ส่วนใหญ่มองเป็นภาพจำว่า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าต้องเป็นรถจีนคันเล็ก ราคาถูก ... ซึ่งในตลาดโลกมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมเกิดขึ้นมากมาย และมีการพัฒนามาโดยตลอด แม้แต่แบรนด์เก่าแก่ของโลกอย่าง ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน ก็มีรุ่น LiveWire ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2019 ในงาน Eicma ที่อิตาลี และนี่คือ ตัวอย่างมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าระดับท็อปของวงการ คัดเลือกมาให้ชมกันหลากหลายแบบ อาจจะทำให้หลายคนเปลี่ยนมุมมองและพร้อมเปิดรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่จะทยอยเปิดตัวให้เราได้เห็นกันมากขึ้นในอนาคตอันใกล้

ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน แบรนด์อนุรักษ์กับรถสไตล์ครุยเซอร์ กลายเป็นผู้เล่นที่ผันตัวเองไวและยืนตลาดในอีวีไบค์ได้อย่างโดดเด่น LiveWire ง่ายต่อการควบคุม ขี่สบาย งานดี สร้างมาอย่างเนี๊ยบ และเหมาะกับไบค์เกอร์ทุกเลเวล ช่วงล่างของรถรุ่นนี้ออกแบบมาได้อย่างยอดเยี่ยม รองรับการขับขี่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย ด้านสมรรถนะนับเป็นความโดดเด่นของรถรุ่นนี้เพราะสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3 วินาที เทียบเท่ากับไฮเปอร์คาร์ระดับโลกหลายรุ่น ทั้งยังทำระยะทางต่อการชาร์จเต็มได้ไกลถึง 234 กม. ส่วนความเร็วสูงสุดทำได้ที่ 153 กม./ชม. เห็นสมรรถนะแบบนี้่แล้วคงทำให้สายซิ่งหลายคนต้องหันมามองแน่

 

อีวีไบค์รุ่นล่าสุดจาก Zero Motorcycles ให้พลัง 14.4 kWh  จากมอเตอร์ไฟฟ้า  ZF75-10 แบตเตอรี่ลิเธียท-ไอออน ด้วยพลังระดับนี้ทำให้ SR/F เป็นอีวีไบค์ตัวแรงในระดับแถวหน้า ดูจากตัวเลขก็ต้องยอมรับเพราะอัตตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ภายใน 3.5 วินาที ความเร็วสูงสุดใกล้ 200 กม./ชม. นอกจากนี้ SR/F ยังเป็นอีวีไบค์ที่ทั้งแรงและเบา คล่องตัวสุดๆ เพราะน้ำหนักตัวอยู่ไม่เกิน 136 กก. ในแง่ของแรงม้าต่อน้ำหนักนับว่ายอดเยี่ยม

อีวีไบค์สายลุยแสนน่ารัก สามารถพาคุณไปเที่ยวได้ไกลกว่า 170 กม. ที่ความเร็วเฉลี่ยประมาณ 30 กม./ชม. ใช้เวลาชาร์จเต็มต่อครั้ง 2.5 ชม. การไต่ทางชันเด่นมาก ขนาด 17 องศา จะใช้ความเร็วได้มากถึง 40 กม./ชม. ถ้าน้อยๆ  6 องศา ก็ฉิว 70 กม./ชม. เป็นอีวีคันน้อยที่พาคุณไปเที่ยวได้เสมอทั้งทางออฟโร้ด (เบาๆ) และทางดำสายรอง นี่คือ มินิอีวีแอดเสนเจอร์ไบค์ ที่น่าจับจองมากๆ มอเตอร์ไฟฟ้าถูกออกแบบมาให้ทำงานผ่านทางโคลนและเปียกได้สบาย พร้อมพื้นที่ใต้เบาะที่เก็บแบตเตอรี่สำรองได้อีก และไม่ต้องกลัวหายเพราะรุ่นนี้ใช้สแกนลายนิ้วมือเหมือนสมาร์ทโฟนเจ๋งป่ะล่ะ  

ซูเปอร์สปอร์ตอีวีไบค์ ที่สร้างด้วยกลุ่มที่มีแพสชั่นกับการขี่แนวสปอร์ตอย่างแท้จริง ด้วยพาร์ตต่างๆ ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำเหมือนที่เห็นซูเปอร์สปอร์ตบิ๊กไบค์ อย่าง เบรมโบ้, โอห์ลิน ฯลฯ LS-218 ผ่านการพัฒนาและออกแบบเน้นไปที่สมรรถนะ และความเร้าใจด้วยพลังสูงสุด 200 แรงม้า ชุดแบตเตอรี่ของ Lighting LS-218 ได้รับการเคลมว่ามันสามารถใช้งานวิ่งเป็นระยะทางไกลถึงประมาณ 600 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดชวนขนลุก 350 กม./ชม. โดยมีอัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตร / ชั่วโมงได้ภายใน 2.2 วินาที และ 0-160 กิโลเมตร / ชั่วโมงได้ภายใน 5.5 วินาที ระบบชาร์จถ้าได้แบบควิกชาร์จ ก็แค่ครึ่งชม. ถ้าปกติเลเวล 2 ก็ 2 ชม.ดูรูปลักษณ์แล้วนี่คือ สปอร์ตไบค์พลังไฟฟ้าที่ใช่เลย

อีวีไบค์แนวเรโทร แน่นอนว่ามันตอบโจทย์เหล่าไบค์เกอร์ที่แสวงหาความทันสมัย พลังงานที่ยั่งยืนอย่างไฟฟ้า ไปไหนไม่มีมลพิษ แต่ต้องมีสไตล์ที่ตอบโจทย์ความชอบส่วนตัวอย่างกลุ่ม เรโทร และคลาสสิคที่มักมองข้ามการลองรถพลังไฟฟ้า และนี่คือ Super Soco TC Max ที่ให้ทั้งความทันสมัยกับพลังมอเตอร์ไฟฟ้าและสไตล์เรโทรควบคู่กัน สมรรถนะอาจไม่หวือหวาแต่ก็นับว่าตอบรับกับความเป็นเรโทรอีวีไบค์ รุ่นนี้เคลมวิ่งได้ไกล 110 กม. ต่อการชาร์จเต็ม ที่ความเร็ว 45 กม./ชม. กับน้ำหนักผู้ขี่ 75 กก. ระยะเวลาชาร์จเต็มปกติ 8-9 ชม. และควิกชาร์จ 5 ชม. นับว่านานอยู่ สมกับเป็นแนวเรโทรที่ไม่รีบร้อน

เห็นได้ชัดว่าตลาดมอเตอร์ไซค์พลังไฟฟ้ามีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดกันมากมาย ด้วยเทคโนโลยีและงานชิ้นส่วนที่ไม่ซับซ้อนเหมือนรถเครื่องยนต์เชื้อเพลิงน้ำมัน ทำให้กลุ่มที่ชำนาญด้านเทคโนโลยีไฟฟ้าสามารถก้าวเข้ามาเล่นได้เองมากขึ้น ในอนาคตก็มีตัวเลือกมอเตอร์ไซค์พลังไฟฟ้าระดับกลางไปถึงพรีเมียมมากขึ้น จากการพัฒนาอีวีไบค์ที่เริ่มชัดเจน จนผลิตรุ่นที่ทดแทนการใช้งานได้หลากหลาย สามารถตอบโจทย์แพสชั่น และความชอบในรูปลักษณ์สไตล์ต่างๆ ได้มากขึ้น ดังนั้นอนาคตอันใกล้เราคงได้มีโอกาสสัมผัสพาหนะขับเคลื่อนพลังไฟฟ้าหลากหลายรุ่นแน่นอน