First Ride All New Yamaha Aerox สปอร์ตสกู๊ตเตอร์ เท่ทุกองศา
การขี่ทดสอบยามาฮ่า
ออล นิว แอร็อกซ์ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยทีมงานมอเตอร์ไบค์กูรู / เช็คราคา.คอม ได้รับโอกาสจากทาง บ.ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ส จก. ให้ได้ลองสัมผัสรูปลักษณ์และสมรรถนะที่ได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใหม่ไปจากรุ่นเดิม โดยครั้งนี้เน้นไปที่การสมรรถนะการขี่เป็นหลัก เพราะเป็นการทดสอบในสนามปิดที่ ยามาฮ่า ไรดิ้ง อคาดามี่ โดยมี 2 รุ่นย่อยให้ขี่สลับครบถ้วน ได้ลองทั้งอัตราเร่ง เบรก การเข้าโค้ง แรงบิดการขึ้นทางชัน ผลที่ได้จากการทดสอบเป็นอย่างไรติดตามกันจากบทความและคลิป
การขี่ทดสอบที่ศูนย์ฝึกอบรมขับขี่ปลอดภัยยามาฮ่าเริ่มกันตั้งแต่ช่วงเช้า โดยก่อนลงไปสัมผัสและขี่รถคันจริง ทาง ยามาฮ่า ได้มีการบรรยายข้อมูลโดยรวมทั้งหมดก่อน พอสรุปเบื้องต้นได้ว่า ยามาฮ่า ออลนิว แอร็อกซ์ มีการพัฒนาและปรับปรุงในหลายจุด เช่น ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขยับจาก 4.6 ลิตร เป็น 5.5 ลิตร, เปลี่ยนตำแหน่งวางเท้าผู้ซ้อน,ไฟหน้า LED ให้กำลังสว่างมากขึ้น, เครื่องยนต์ปรับปรุงหลายจุดจนได้พลังและความประหยัดดีขึ้น, เพิ่มจุดชาร์จไฟในช่องเก็บของด้านหน้า, เพิ่มสวิตช์ควบคุมบนแฮนด์บาร์, เรือนไมล์ปรับให้เห็นชัดขึ้นในหลายมุม และที่สำคัญคือ การเพิ่มระบบ ยามาฮ่า มอเตอร์ไซเคิ่ล คอนเนค ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชั่น Y-Connect แต่การทดสอบครั้งนี้เน้นกันเรื่องสมรรถนะตัวรถเป็นสำคัญดังนั้น มิติตัวรถที่เปลี่ยนแปลงอย่างค่าเทรล หรือความยาวที่ลดลง ประกอบกับขุมพลังที่ดีขึ้นย่อมส่งผลต่อการขับขี่อย่างแน่นอน
ช่วงแรกของการขี่ทดสอบผู้เขียนเริ่มกับรุ่นสแตนดาร์ดสีเขียว-ดำ สัมผัสแรกคือ รถนั่งสบายมาก เบาจับเคลื่อนย้ายเข็นสะดวก สตาร์ทแล้วเครื่องยนต์เดินเบาได้สมูธไม่มีอาการสั่นสะท้านขึ้นมาที่แฮนด์บาร์ แต่ก็พยายามทำความเข้าใจว่านี่เป็นรถใหม่ยังไม่ได้รันอินแต่อย่างใด ขี่ด้วยความระมัดระวัง การขี่ในช่วง 2 รอบแรกเน้นความคุ้นชินกับสมรรถนะและตัวรถ จากข้อมูลที่ได้ฟังมาก่อนขี่คือ ขุมพลังดีขึ้น แต่น้ำหนักตัวก็เพิ่มตามไปด้วย ระยะเทรลด้านหน้ากับมุมแคสเตอร์เปลี่ยน ควมยาวตัวรถลดลงแต่ระยะฐานล้อเท่าเดิม ระยะเคลียร์แลนซ์จากพื้นกับเครื่องยนต์สูงขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลให้การขี่เปลี่ยนไปบ้าง
หลังจากขี่ผ่านไป 2-3 รอบสนาม พร้อมแวะเข้าจุดสสลาลอม พอสรุปได้ว่า รถตอบสนองการเร่งได้ทันใจ การไล่ความเร็วขึ้นไปในทางตรงทำได้ดีอย่างต่อเนื่องมีแรงบิดส่งไปจนถึงโค้งแบบต้องยกก่อน ส่วนหนึ่งเพราะเครื่องยนต์ปรับใหม่และมี VVA เสริมการทำงาน การเบาชะลอเบรกจากหน้าดิสก์หลังดรัมให้ความรู้สึกการตอบกลับที่ดี เติมน้ำหนักตอนกดง่าย แม้จะเป็นรถใหม่ยังไม่ได้รันอินก็ตา่ม การเข้าโค้งความเร็วรถไต้เกาะโค้งไปได้สนุก เทได้ลึกจนถึงขาตั้งกลาง ช่วงเข้ากรวยซ้าย-ขวาสลาลอม การเดินคันเร่งกับการบังคับเลี้ยวทำได้ง่ายเกินคาด รถมีความคล่องตัวสูง คิดแล้วเหมาะกับขี่ในเมืองและสนุกไปกับการขี่ท่องเที่ยวทางเขาหรือที่มีโค้งมากหน่อย
การทดสอบช่วงสองเปลี่ยนมาขี่รุ่น ABS สีเงิน ที่ต่างหลักแค่ มีระบบเบรก ABS กับโช้กอัพหลังซับแท้งค์ กับน้ำหนักตัวที่มากกว่านิดหน่อย ในแง่ของฟิลลิ่งการขี่ไม่ต่างกัน แต่ผู้เขียนที่เริ่มคุ้นชินกับรถ ทำให้รู้สึกสนุกกับการขี่ ออล นิว แอร็อกซ์มากขึ้น การเข้าโค้งก็มั่นใจมากขึ้นเช่นกัน บนพื้นฐานความเป็นสแตนดาร์ดทั้งยางและช่วงล่าง ซึ่งเรื่องแบบนี้มักมีผู้ใช้บางคนคิดว่าพาร์ตสแตนดาร์ดติดรถบางอย่างใช้งานจริงไม่ดีต้องเปลี่ยนทันที อย่าลืมว่าเราจ่ายเงินค่ารถก็รวมไปถึงพาร์ตเหล่านี้ด้วย ถ้าขี่อยู่ในขอบเขตปกติของการเดินทางชีวิตประจำวันย่อมเพียงพอ ในช่วงที่ลองเบรกกระทันหันแบบให้หยุดนิ่งพบว่าตัวรถชะลอหยุดได้แบบเอาอยู่ ไม่ถึงจุดที่เอบีเอสทำงาน อาจเพราะผิวสนามที่มีแทร็คชันดีกว่าถนนทั่วไป น่าเสียดายที่ไม่มีช่วงพื้นลื่นให้ลองเบรก รวมไปถึงลองระบบ Y-Connect และเล่นฟังก์ชันหน้าจอไมล์ดิจิตอล แต่น่าจะได้ลองรีวิวแบบเจาะลึกมากกว่านี้ในโอกาสต่อไป จากการขี่ออล นิว แอร็อกซ์ครั้งแรก ผู้เขียนชอบความเบา คล่องตัว ตอบสนองอัตราเร่งดี ท่านั่งขี่สนุก
สรุป นับเป็นความประทับใจจากครั้งแรกที่ได้ลองขี่ยามาฮ่า
ออล นิว แอร็อกซ์ การขี่ทั้ง 2 รุ่นย่อยจริงๆ ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกตอนขี่แตกต่างกันมากนักในสนามทดสอบสั้นๆ แบบนี้ เพราะสเปคต่างแค่โช้กอัพหลังที่มีซับแท้งค์และระบบเบรก ABS ช่วงที่ลองเบรกก็ไม่ถึงจุด ABS ทำงานรถก็หยุดสนิทเสียก่อน โดยรวมนับเป็นรถใหม่ที่สัมผัสครั้งแรกแล้วชอบทันทีตั้งแต่รูปลักษณ์สปอร์ตสวยลงตัว ด้านการขี่ก็คงความคล่องตัวและให้ความสนุกสนานมากกว่าเป็นสกู๊ตเตอร์ใช้งานทั่วไปจริงๆ ส่วนตัวผู้เขียนเห็นแล้วก็อยากถอยมาแต่งเลย ถ้าให้เลือกระหว่างรุ่นสแตนดาร์ดกับ ABS ที่ราคาต่างกันอยู่ 11,000 บาท (67,500 กับ 78,500 บาท) บางคนอาจเลือกไปที่รุ่นเริ่มต้นเก็บเงินหมื่นไว้แต่งเพิ่ม ก็เป็นทางเลือกที่ดูดีกับการซื้อสปอร์ต สกู๊ตเตอร์ คลาส 155 ในราคา 6 หมื่นกว่าบาท เพราะโช้กอัพหลังสายซิ่งมักไปอัพเกรดเพิ่มกันเอง สมาร์ทคีย์ก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นเสมอไปโดยเฉพาะบางคนที่รำคาญเสียงเตือน แต่ชุดสีอาจเป็นอีกปัจจัยในการตัดสินใจด้วยเพราะ 2 รุ่นนี้ชุดสีไม่เหมือนกันเลย
สำหรับผู้เขียนเลือก สี R-series รุ่น ABS เพราะราคา 7 หมื่นกว่าบาทแลกกับการได้สกู๊ตเตอร์คลาส 155 ที่สวย ทันสมัยกับเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน พละกำลังมาดี ไฟส่องสว่างสวยงาม จะว่าไปหารถในราคาระดับนี้มาทาบได้ยากจริงๆ