แนะนำ 5 มอเตอร์ไซค์ สายลุยยอดฮิต ปี 2020
เลือกคนถูกใจก็เหมือนเลือกมอเตอร์ไซค์ถูกคัน เชื่อว่าหลายๆ คนที่ชอบขี่ออกทริป หรือสายทัวร์ริ่งทั้งหลาย การเลือกบิ๊กไบค์ที่จะมาตอบสนองความต้องการของตัวเอง ก็คงต้องคิดหนัก และชั่งใจ ทั้งดูเรื่อง Performance การบรรทุกหนัก ช่วงล่าง และเทคโนโลยี ฟังก์ชั่นต่างๆ ที่หลายๆ ค่ายเริ่มยัดความเป็นไฮเทคโนโลยี ให้กับสายสองล้อเพื่อให้ช่วยในเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่ แต่สิ่งที่สำคัญของหลายๆ คนที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือ เรื่องของความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไป หรือ ราคา นั่นเอง ครั้งนี้ทีมงานเช็คราคา.คอม จึงจะมาแนะนำ บิ๊กไบค์สายทั่วร์ริ่ง ที่มองแล้วว่าคุ้มค่า ราคาจับต้องได้ 5 รุ่น ยอดฮิตครับ
1. BMW R 1200 GS Adventure ราคา : 975,000
BMW R 1200 GS เป็นรถที่เห็นบ่อยในกลุ่มทัวรริ่งที่สุดกับรถตระกูลค่ายใบพัด ซึ่งนอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์เท่ๆ แล้ว ฟังก์ชั่นการใช้งานที่จัดจ้านเพื่อใช้ตอบสนองผู้ขับขี่ ได้ทันที แม้ราคาเกือยแตะล้าน แต่ถ้าเทียบกับสมรรถนะ ความนุ่มนวล และระบบต่างๆ ทั้งเรื่องความปลอดภัย และสิ่งอำนวยความสะดวก สายลุยก็พร้อมที่จะยอมจ่าย
BMW R 1200 GS ใช้ขุมพลังตัวเดียวกันเป็นเครื่องยนต์บอกเซอร์ 2 สูบ ระบายความร้อนด้วยระบบหล่อเย็นด้วยอากาศและน้ำ ขนาดความจุ 1,170 ซีซี ให้กำลังสูงสุดที่ 125 แรงม้าที่ 7,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 125 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที เกียร์ 6 สปีด ขับเคลื่อนด้วยเพลา ทางโรงงานได้เคลมว่ารุ่นนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเคลมว่าทำได้ 24.4 กิโลเมตรต่อลิตร นอกจากนี้ยังมี 4 โหมดการขี่ทั่วไปให้เลือก คือ Rain, Road, Dynamic และ Enduro และอีก 2 โหมดในแบบ Pro คือ Dynamic Pro และ Enduro Pro ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ กรณีไปลุยทางออฟโรด หรือลงแข่งได้
อ่านรีวิวเพิ่มเติม BMW R1200 GS
2. Honda CRF 1100L Africa Twin MT ราคา : 599,000 บาท
มาฝั่งค่ายญี่ปุ่นสัญลักษณ์ปีกแดง Honda ที่มีรถให้เลือกหลากหลายประเภทรวมไปถึงรุ่นยอดฮิตที่สายลุยรู้กันดีก็คือ เจ้า แอฟริกาทวิน
Honda CRF 1100L Africa Twin สุดยอดแอดเวนเจอร์ที่ตอบโจทย์ไบค์เกอร์สายลุยบ้านเรา ซึ่งจะเห็นว่าทางค่ายฮอนด้าเองมักจะจัดทริปให้ออกไปลุยบ่อยๆ ซึ่งจุดเด่นของ ฮอนด้า แอฟริกา ทวิน แอดเวนเจอร์ สปอร์ต เกียร์ดีซีที ปี 2020 นั้นมีการปรับ เกียร์ดีซีที หน้าจอ TFT ทัชสกรีนใหม่ขนาด 6.5 นิ้ว ที่รองรับระบบ Apple car play และการเชื่อมต่อบลูทูธ แสดงข้อมูลการขี่ต่างๆ โดยเฉพาะการใช้โหมดต่างๆ ที่มีให้เลือก 6 รูปแบบ
เครื่องยนต์ 1,084 ซีซี 102 แรงม้า โดดเด่นด้วยไฟหน้า-ท้าย LED พร้อม Daytime Running Lights (DRL) และสะดวกสบายในการขี่บนถนนทางไกลด้วย cruise control
Honda CRF 1100L Africa Twin มี 2 รุ่นย่อย ธรรมดา MT กับ Adventure Sports DCT โดยต่างกันที่ถังน้ำมัน 18.8 กับ 24.8 ลิตร และเป็นยางทูปเลสเพื่อให้เซอร์วิสง่ายขึ้น กับราคา 559,000 บาท เกียร์ธรรมดา 6 สปีด (Adventure Sports DCT ราคา : 699,000 บาท ) ชิลด์หน้าสั้น ใช้ยางใน เน้นความคล่องตัวมากขึ้นบนเส้นทางออฟโรด ก็ตอบโจทย์สายลุยได้ไม่เบา
อ่านรีวิว Honda CRF 1100L Africa Twin
3. Suzuki V-Strom 1000XT ABS ราคา : 599,000 บาท
Suzuki V-Strom 1000XT รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ขายดิบขายดีของค่ายซู เพราะด้วยดีไซน์ ฟังก์ชั่น กับราคาที่ไม่แรง แถมได้สมรรถนะเหลือล้นจึงเป็นอีกตัวเลือกของสายลุยที่มักจะเห็นขี่กันบนท้องถนนบ่อยๆ และเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ซึ่งจุดเด่นหลักๆ ของ
Suzuki V-Strom 1000XT คือ โครงสร้างตัวรถรูปทรงกะทัดรัด น้ำหนักเบา มีระบบเบรคหลังลูกสูบคู่ เครื่องยนต์แบบ V-Twin 90? 2 สูบ ขนาด 1,037 ซีซี DOHC 4 จังหวะ
Suzuki V-Strom 1000XT ABS มีการติดตั้งระบบ Traction Control เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่โดยเฉพาะบนถนนที่ขรุขระ หรือแม้บนสภาพถนนที่เปียกลื่น ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ แถมยังมีกล่อง ECU ที่จะคอยประมวลผลการสั่งงานจากเซ็นเซอร์ทั้ง 5 จุด เซ็นเซอร์ความเร็วล้อหน้า - หลัง, เซ็นเซอร์ตำแหน่งเกียร์, เซ็นเซอร์เรือนลิ้นเร่ง และเซ็นเซอร์เพลาข้อเหวี่ยง ซึ่งเป็นอีกระบบที่ทำให้ผู้ขัขี่ควบคุมรถได้มั่นใจมากขึ้น ถือว่าเป็นอีกค่ายที่คุ้มมากในราคาไม่เกิน 8 แสน
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม Suzuki V-Strom 1000XT
4. Triumph Tiger 900 Rally Pro ราคา : 659,000 บาท
Triumph Tiger 900 Rally Pro เป็นอีกรุ่นที่หน้าตาดีไม่เบา แต่พิกัดความแรงอยู่ที่ 900 ซีซี สำหรับ
Triumph Tiger 900 Rally Pro รถสายลุยจากแบรนด์ไทรอัมพ์ แอดเวนเจอร์ไซส์กลาง
เครื่องยนต์ 3 สูบ ขนาด 900 ซีซี ให้แรงบิดสูงสุด 87 นิวตันเมตร ที่ 7,250 รอบต่อนาที และแรงม้าสูงสุด 95 แรงม้า ที่ 8,750 รอบต่อนาที ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้มีครบ ในการใช้งานบนทุกสภาพถนนหรือทุกรูปแบบการขับขี่
โครงรถถูกออกแบบใหม่ เป็นการผสมผสานกันของโครงรถแบบ modular ที่มีน้ำหนักเบา รายละเอียดการตกแต่งที่ผ่านการปรับแต่งและลายเส้นที่คมชัดขึ้น ตัวรถแคบลงดูปราดเปรียวมากขึ้น ด้านหน้าโปร่งขึ้น จากการพัฒนาทำให้น้ำหนักของตัวรถเบาลง 5 กิโลกรัม ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด ระบบช่วงล่างควบคุมด้วยโช้ค Marzocchi ขนาด 45 มิลลิเมตร กลุ่มรถ Rally จะใช้ชุดกันสะเทือนเฉพาะรุ่น ที่พร้อมสำหรับการขี่บนทางวิบาก ซึ่งได้แก่โช้คหน้าสเปคสูงระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ของ Showa พร้อมระยะยุบตัวล้อ 240 มม. รองรับการปรับตั้งพรีโหลด การยุบตัว และการคืนตัวอย่างเต็มที่ ที่ล้อหลังจะใช้ RSU แก๊สระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ของ Showa Tiger 900 ทุกรุ่น จะมีกลไกเบาะนั่งในตัวที่ปรับได้ 2 ตำแหน่ง ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขี่สามารถเปลี่ยนแปลงความสูงเบาะนั่งได้ 20 มม. ตามความต้องการใช้งาน
ไทรอัมพ์ ไทเกอร์ แม้จะไม่ใช่รุ่นที่โดดเด่นในกลุ่มสายลุย แต่แอดเชื่อว่าถ้าใครรู้จักแบรนด์นี้ดี คงมองข้ามเรื่องราคาและซีซี ที่เปรียบเทียบกับรุ่น 1000 เจ้าอื่น เพราะคุณจะได้ความเท่ คล่องตัว เทคโนโลยีฟังก์ชั่นที่ตอบสนองคนขี่ จัดไปแบบเต็มๆ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม Triumph Tiger 900 Rally Pro
5. Kawasaki Versys 1000 SE ราคา : 729,000 บาท
ปิดท้ายหล่อๆ กับค่ายยักษ์เขียว
Kawasaki Versys 1000 SE แม้จะเอ่ยชื่อออกมาหลายท่านอาจทำหน้างงๆ ว่า คาวาซากิ มีรุ่นนี้ด้วยหรือ แต่ก็มีดีเหมือนเป็นเงาะซ่อนรูป เพราะได้ฉายาว่าเป็น "ม้าศึกนอกสายตา" (ข้อมูลจาก pantip.com) Kawasaki Versys มาพร้อมเครื่องยนต์ 1043 ซีซี 4 สูบ ที่ปรับใหม่ให้ตอบรับได้ฉับไวและทรงพลังมากขึ้นแซสซีที่ออกแบบมาให้มีความคล่องตัวสูงพร้อมระบบกันสะเทือนประสิทธิภาพเยี่ยมก็สามารถทำให้คุณขี่สนุกในทุกเส้นทาง ตำแหน่งท่านั่งแบบหลังตรงที่ช่วยให้ทุกการขับขี่รู้สึกไม่เกร็งและควบคุมได้ตามสั่ง เสริมด้วยเบาะที่ออกแบบมาให้มีความสบายเวลาขี่และท่านั่งที่เป็นการช่วยปกป้องตัวผู้ขับขี่จากกระแสลม ทำให้การใช้งานในระยะทางไกลเป็นเรื่องง่าย
จุดแข็งของ
Kawasaki Versys 1000 SE คือระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ล้ำหน้า โดยเลือกใช้ฮารด์แวร์น้อยที่สุด ช่วยให้กล่อง ECU สามารถประมวนผลและเห็นภาพว่าแซสซีกำลังทำอะไรอยู่แบบ real-time Kawasaki Versys 1000 SE มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Electronic Cruise Control) สามารถควบคุมและรักษาระดับความเร็วของรถได้ง่ายเพียงแค่กดปุ่ม เมื่อระบบทำงานผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องคอยคุมระดับในการใช้คันเร่ง ซึ่งช่วยลดความเมื่อยล้าของมือขวาเมื่อขับขี่ท่องเที่ยวเป็นระยะทางไกล เรือนไมล์ระดับไฮคลาส Kawasaki Versys1000 มีเรือนไมล์ใหม่สุดไฮเทคดูหรูหราเหนือระดับมาตรวัดรอบ อนาล็อคจับคู่กับจอ LCD (ในรุ่นสแตนดาร์ด) หรือจอสี TFT LCD เกรดสูงในรุ่น SE และนอกจากนี้ยังมี ระบบ Traction control ทั้งสามโหมดที่ถูกออกแบบมาให้ครอบคลุมในการใช้งานมากที่สุด ไม่ว่าจะขี่แบบสปอร์ตหรือเพิ่มความปลอดภัยในสภาพทางที่พื้นผิวลื่นให้ผู้ใช้สามารถขับขี่ได้มั่นใจ
* สำหรับ Versys 1000 ระบบ KCMF ใช้ข้อมูลจากชุดเซ็นเซอร์ IMU เพื่อควบคุมและทำงานร่วมกับระบบต่อไปนี้: - KECS - KIBS (KIBS (นอกจากป้องกันล้อล็อกแล้วยังควบคุมไม่ให้หน้ารถมีอาการปักขณะใช้เบรกหน้าและควบคุมแรงดันเบรกขณะเข้าโค้ง) * ซึ่งมีเฉพาะในรุ่น SE เท่านั้น
สุดท้ายการเลือกรถก็เหมือนการเลือกคนข้างกาย อาจต้องดูภาพรวมหลายๆ ปัจจัย ทั้งความชอบ ระบบความปลอดภัยที่รถแต่ละคันจับยัดเข้ามาใส่ ความเหมาะสมกับตัวผู้ขับขี่ และที่สำคัญภาระที่คุณต้องแบกในแต่ละเดือน เพราะสายนี้รู้กันงบมันต้องมีสำรอง เพราะฉะนั้นคิดให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อนะ...
เช็คราคามอเตอร์ไซค์ทุกรุ่น