รีวิว - ทดลองขี่ All new Honda CRF 300L และ 300Rally มอเตอร์ไซค์สายเอนดูโร่ พร้อมลุยป่า รุ่นใหม่ล่าสุด
All New Honda CRF300L และ 300Rally รถจักรยานยนต์สไตล์เอนดูโร่ พร้อมลุยป่า ใหม่ล่าสุด ดูเหมือนจะหน้าตาไม่เปลี่ยนมากแต่ความจริงนั้น ปรับโฉมใหม่ทั้งคัน!!..เครื่องยนต์ใหม่ทั้งตัวเพื่อ CRF300 นี้โดยเฉพาะ พัฒนาใหม่ทุกชิ้นส่วน เพิ่ม Assisted Slipper Clutch ถังน้ำมันใหญ่ขึ้นเป็น 12.8 ลิตรในรุ่น Rally และ 7.8 ใน 300L เคลมว่า 1 ลิตรวิ่งได้ 30 กว่ากม. สำหรับ
CRF 300L ราคาเปิดตัวที่ 145,800 บาท และ
CRF 300Rally อยู่ที่ 172,200 บาท เฟลมใหม่ขนาดเล็ก น้ำหนักเบาลง 5 กก. แต่แข็งแรงขึ้น ในแต่ละรุ่นทั้ง 300Rally และ 300L เปลยึดเครื่องยนต์ขนาดเล็กลง ตำแหน่งมุมคอหน้า เอียงมากขึ้น เพื่อการควบคุมที่แม่นยำมากขึ้น ถังน้ำมันในรุ่น 300Rally ใหญ่ขึ้นเป็น 12.8 ลิตร ทรงตั้งสูงแต่ผอมเพรียวกว่าเดิม ทำให้ท่านั่งสบายขึ้น และเบาทรงใหม่นั่งได้ชิดถังมากกว่าเดิม เรียกว่าเปลี่ยนแทบจะทุกชิ้นส่วน
ขุมพลัง 1 สูบ 300 ซีซี DOHC พัฒนาจากซีรีย์ 300 ซีซี แต่มีการปรับเปลี่ยนในหลายชิ้นส่วนใหม่หมดตั้งแต่ ลูกสูบแบบเยี่ยงศูนย์ ลดแรงกระทบข้าง พร้อมบาลานซ์เซอร์ลดการสั่น ลูกปืนเพลาข้อเหวี่ยงใหม่ ระบบฉีดน้ำมันหล่อลื่นลดผิวสัมผัสได้มากขึ้น..อัตราทดเกียร์ดีขึ้นยาวขึ้น ท่อไอเสียเล็กลงไม่เกะกะคล่องตัวขึ้น
โช้คหน้าใหญ่ขึ้น 43 มม. โช้คหลังปรับได้ ระบบเบรกหน้าใหญ่ขึ้น และน้ำหนักรถเบาลงรุ่นละ 5 กก. โดย 300L หนัก 133กก.และ 300Rally หนัก 150 กก. จากการลดน้ำหนักแฟรม สวิงอาร์มออกแบบใหม่ ท่อไอเสีย ฯลฯ โดยรวมแล้วรุ่นก่อนหน้าและรุ่นใหม่นี้ "ไม่สามารถ" ใช้ชิ้นส่วนร่วมกันได้เกือบ 100%!!!
จากการได้ทดลองขับขี่แบบ "ลุย" ของจริงสไตล์เอนดูโร่ ที่ทางฮอนด้าจัดให้ทดสอบ มีรถทั้ง 6 คัน แบ่งเป็นรุ่นละ 3 คัน ให้สื่อสลับกับขี โดยแบ่งเป็น 2 เส้นทางที่แตกต่างกันออกไป ทางของ 300L นั้น จะเป็นลักษณะแคบกว่า และ ทางตรงยาวเยอะ ส่วน 300Rally ก็จะโหดกว่าเล็กน้อย แต่ก็จะมาบรรจบกันในตอนปลาย ๆ ของเส้นทางทดสอบ ใช้เวลาในแต่ละรอบราว ๆ 20-30 นาที
ซึ้งในแต่ละเส้นทางมีความยาวประมาณ 2 กม. กว่า ๆ และเป็นพื้นทรายลื่น มีช่วงเป็นทางกรวด ร่องน้ำ และหินก้อนโต ขับลัดเลาะผ่านป่ามันและต้นไผ่ นอกจากนนี้ยังมีเนินและทางชันให้ได้เล่นท่าเสียวกันอีกด้วย
CRF300L เพรียวบางคล่องตัว ควบคุมง่าย
All new CRF300L นับว่าเบาคล่อง ควบคุมง่ายในสภาพทางฝุ่นในป่า ที่มีโค้ง ทราย บ่อน้ำ หญ้า และ หินกรวด สามารถขับขี่ได้ดีสะดวกกว่า และกำลังเครื่องยนต์ดีในรอบต่ำ น้ำหนักตัวเบา 133 กก. ยิ่งขี่ง่าย แม้จะไม่ได้มีทักษะมากมายนัก ท่านั่งตัวเบาะแคบลง เบาะต่ำมากเวลานั่ง โช้คนุ่มนวล โดยรวมเหมาะกับการเข้าป่าสุดๆ
กำลังเครื่องยนต์ใหม่ 300 ซีซี ที่มีแรงบิดในรอบต่ำทำให้ขับง่าย ใช้เกียร์ 2 แม้ความเร็วเกือบจอดสนิท หรือในบางครั้งใช้ออกตัวก็ยังสบาย น้ำหนักแฮนด์เบาควบคุมง่าย ไม่ต้องออกแรงมากนัก ท่านั่งขี่กำลังดี ระดับความสูงเบาะที่ต่ำมาก เมื่อนั่งลงไป โช้คอัพจะยุบตัวลงไปอีกมาก ทำให้สามารถใช้ขาช่วยในการทรงตัวเมื่อต้องขับขี่ผ่านอุปสรรคได้ หรือในท่ายืนก็ยังพอควบคุมได้ดี เพราะในเส้นทางทดสอบนี้ทางครูฝึกผู้ควบคุมเน้นว่า กว่า 80% ควรยืนขับเพื่อลดแรงกระแทกและตัวผู้ขับจะไม่กระเทือนเกินไป
การเข้าเกียร์และเบรก ต้องยอมรับว่า เมื่อใส่รองเท้าสำหรับขับขี่แล้ว ด้วยความที่นาน ๆ ได้ขับขี่ในรูปแบบนี้ ทำให้ไม่ถนัดนัก แต่ด้วยการใช้กำลังเครื่องยนต์และใช้การผ่อนคันเร่งช่วย นอกจากนี้ยังใช้การยกและเหยียบเบรกแบบเต็มเท้า ก็พอที่จะประคองให้ผ่านไปได้ ส่วนเรื่องการเข้าเกียร์นั้น เมื่อออกตัวตบ 1 แล้วรีบไป 2 ทันที เพื่อไม่ต้องกังวลในการจะเปลี่ยนเกียร์ต่อไป เพราะส่วนมากจะต้อง "ยืนขี่" เกือบตลอดทาง
CRF300Rally หนักแน่นเน้นวิ่งทางตรงยาว ๆ
All new CRF300Rally นับเป็นรถที่มีความใหญ่ขึ้นจาก 300L เล็กน้อย และหนักกว่า ทำให้การขับขี่ในป่าเขาอาจจะไม่ค่อยคล่องตัวเท่านัก เว้นผู้มีประสบการณ์น่าจะชอบ กำลังเครื่องดีเช่นกัน โช้คนุ่มนวล สำหรับผมมองว่า น่าจะได้ลองขี่ทางดำควบคู่ไปด้วยเพราะรถเหมาะกับทาง ดำ ทางฝุ่นกว้าง ๆ ยาว ๆ หรือทางกรวดที่กว้างและตรงยาวจะขับขี่สนุกกว่า โดยรวมแล้ว 300Rally น่าจะเหมาะในทางตรง ทางฝุ่นยาว ๆ ในป่าแคบ ๆ อาจต้องใช้ทักษะและกำลังในการควบคุมมากขึ้น แต่ถ้ามีประสบการณ์ก็สามารถไปได้ทุกทีครับ เพราะน้ำหนักรถและความผอมเพรียวมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าพอสมควร
โดยส่วนตัวแล้วรุ่น 300Rally น่าจะต้องมีการขับขี่บ่อยกว่านี้ และอาจต้องเพื่อเติมทักษะการขี่ทางฝุ่น เอาไว้บ้าง เพราะน้ำหนักและตัวแฟริ่งที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ลดความคล่องตัวลงไป แต่หากใครที่ขับขี่เป็นประจำอยู่แล้วคงไม่มีปัญหาครับ เพราะ เอาเข้าจริงรภก็เบากว่ารุ่นก่อนหน้า แถมยังผ่อมเพรียวกว่า และกำลังเครื่องยนต์มีเพิ่มขึ้น ทำให้ขับขี่สบายขึ้นอีกเยอะครับ
เลือกให้เหมาะกับการใช้งาน
สรุปว่าสำหรับการได้ลองทั้ง 2 รุ่นในป่าเขาแบบนี้ส่วนตัวชอบรุ่น
300L กว่าเพราะ เบา ผอม ขี่ง่าย แก่อาการง่ายกว่าและไม่ต้องใช้แรงในการควบคุมแฮนด์มากเท่ากับรุ่น Rally ครับ สำหรับค่าตัว 300L ก็ไม่สูงมากแสนต้น ๆ ของครบไม่ต่องแต่งเพิ่มพร้อมลุยทันที ขอเพียวร่างกายผู้ขี่ต้องฟิตพร้อมเข้าป่าก็พอแล้ว
สำหรับเจ้า
300Rally อาจจะเน้นไปวิ่งทางฝุ่นสลับทางดำเยอะ ๆ หรือวิ่งไกลยาว ๆ คงสบายและควบคุมง่ายกว่าลุยป่าอย่างเดียว ซึ่งก็ขึ้นกับประสบการณ์ของผู้ขับขี่แต่ละคนด้วยครับ เพราะบางคนยังควบ
Africa Twin 1100 เข้าป่าอย่างชิว ๆ มากแล้ว