การอัพเกรดช่วงล่างมาตรฐานสูงจาก YSS มั่นใจและตรงกับการใช้งานจริงแค่ไหน ?

 

การขี่รถสเปคโรงงาน เป็นเรื่องปกติของผู้ใช้รถส่วนใหญ่ทั่วไป และเมื่อพาร์ตเดิมเสียหายหรือเสื่อมหมดสภาพตามการใช้งาน ทำให้คุณภาพการขี่เปลี่ยนไปจากเดิม หลายคนก็มักเลือกเปลี่ยนด้วยพาร์ตเดิม รถก็กลับมาใช้งานได้ปกติเหมือนทั่วไป แต่สำหรับบางคนก็รู้ว่าการเปลี่ยนพาร์ตแบบอาฟเตอร์มาร์เก็ตที่เป็นแบรนด์มาตรฐานชั้นนำ จะช่วยยกมาตรฐานและคุณภาพการขี่ของรถให้ดีขึ้นได้อีก ซึ่งทำให้ขี่รถได้ปลอดภัย มั่นใจ และสนุกกว่าเดิม มีหลายคนตัดสินใจเปลี่ยนแทนของเดิมที่แม้ยังใช้งานได้อยู่เลยก็มี แม้มีวัตถุประสงค์การใช้รถต่างกัน แต่อย่างน้อยก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องการ บทความนี้แสดงให้เห็นถึงการติดตั้งระบบช่วงล่างที่รองรับการใช้งานได้หลากหลาย ขี่สนุกมั่นใจขึ้น โดยใช้สกู๊ตเตอร์ยอดนิยมอย่าง ยามาฮ่า XMAX300 เป็นตัวอย่าง

ขั้นตอนแรกคือ การเลือกพาร์ตให้เหมาะสมและครอบคลุมการขี่ของเจ้าของรถมากที่สุด ซึ่งไม่จำเป็นต้องแพงที่สุด เราจึงเลือกแบรนด์สัญชาติไทยที่ก้าวไกลระดับโลกอย่าง YSS suspension มาแนะนำกันผ่านการติดตั้งใน ยามาฮ่า XMAX300 

ไลน์อัพของสินค้าแบรนด์ YSS มีมากมายทั้งรถยนต์ และจักรยานยนต์ ซึ่งแตกออกเป็นหลายระดับตามสเปคและราคา ยามาฮ่า XMAX300 คันนี้ มีโจทย์อยู่ที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและออกทริปท่องเที่ยวทางไกล จึงได้รับคำแนะนำให้ใช้ตระกูล BLACK SERIES มีให้เลือกอีก 2 รุ่นคือ G-Top และ G-Sport โดยหลักๆ ต่างกันที่รุ่นแรกสามารถปรับ Compression ควบคุมจังหวะการยุบตัวของโช๊คอัพให้เร็ว-ช้าได้ นอกนั้นทั้งสองรุ่นสามารถปรับ Rebound ความหนืดในจังหวะการคืนตัวของโช๊คอัพให้ช้า-เร็วตามต้องการ, Threaded Spring Preload ปรับความแข็งของสปริงให้สัมพันธ์กับน้ำหนักส่วนใหญ่ที่โหลดเป็นประจำ เช่น ผู้ขี่+ผู้ซ้อน รวมกันเท่าไร สำหรับโช๊คอัพหลังรุ่นนี้ได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพที่เหนือกว่าโช๊คอัพติดรถ เน้นการขี่สไตล์สปอร์ต ตัวโช๊คอัพผลิตด้วยกรรมวิธี Aluminum Forging ให้ความแข็งแรงและสวยงาม มาพร้อมออฟชันการปรับความแข็งของสปริง Spring Preload การควบคุมจังหวะคืนตัว Rebound พร้อมซับแทงค์สไตล์ G-Sport BLACK-SERIES งานยิงด้วยเลเซอร์ดูดุดัน สวยงาม ส่วนด้านหน้าได้รับการแนะนำใช้ ชุด Fork Upgrade Kit เพื่อความรู้สึกนุ่มหนึบและควบคุมได้ดีกว่าเดิม พร้อมดูดซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งต้องใช้ร่วมกันน้ำมันโช๊คอัพ  YSS Fork Fluid 20W ที่มีคุณสมบัติป้องกันการกัดกร่อน, การเกิดออกซิเดชั่น, ป้องกันซีล, ป้องกันการสึกหรอและทนแรงดันสูง และส่วนสุดท้ายที่ติดตั้งคือ กันสะบัด YSS ป้องกันอาการสะบัดที่เกิดขึ้นจากการวิ่งบนพื้นถนนไม่เรียบ ช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ลดอาการเมื่อยล้าในการขี่ สามารถปรับระดับความหนืดได้ 30 ระดับ ติดตั้งกับชุดจับที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีอันทันสมัย ให้ความแข็งแรงและทนทาน

การที่ต้องติดกันสะบัดเพิ่ม เพราะจะช่วยเข้ามาเสริมในการใช้งานแบบท่องเที่ยวทางไกล นับเป็นส่วนเดียวที่ไม่ใช่การทดแทนของเดิม แต่เป็นการเพิ่มเข้าไป ก็เพราะว่า กันสะบัดเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดการเหวี่ยง การกระชากของแฮนด์ ที่อาจเกิดจากการวิ่งบนสภาพถนนที่ไม่ดีหรือเป็นคลื่น ซึ่งกันสะบัดจะสามารถช่วยให้อาการเหวี่ยงหรือกระชากนั้นน้อยลงได้ ช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น เป็นการป้องกันอุบัติเหตุได้อีกทางหนึ่ง โดยหลักการทำงานของกันสะบัดนั้น จะทำงานในลักษณะเดียวกันกับโช๊คอัพ โดยจะมีการหน่วงจากน้ำมันที่ไหลผ่านวาล์วที่สามารถควบคุมด้วยปุ่มปรับ Compression ว่าจะให้หนืดมากหรือน้อยตามความต้องการของผู้ใช้งาน

หลังจากเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปซึ่งสำคัญมากและเป็นความแตกต่างของการอัพเกรดช่วงล่างอย่างแท้จริงคือ การติดตั้งอย่างถูกวิธี ซึ่งต้องอาศัยข้อมูลพื้นฐานของผู้ใช้ อาศัยความรู้ความเข้าใจของการเซ็ตติ้ง เครื่องมือที่เที่ยงตรงแม่นยำ และความชำนาญ ไม่ใช่แค่ถอด-ใส่น็อตแล้วจบ ที่ YSS สำนักงานใหญ่ ซึ่งมีส่วนพื้นที่บริการรองรับลูกค้าที่ผ่านการนัดหมายล่วงหน้าผ่านทางระบบออนไลน์เข้ามานั้น จะเริ่มตั้งแต่เก็บข้อมูลการใช้งานของเจ้าของรถ น้ำหนักตัว เพื่อหาค่า SAG ในการปรับค่าพรีโหลดสปริง โดยหลังติดตั้งเซ็ตติ้งรอบแรกก็จะให้ผู้ใช้มาลองนั่งเพื่อเช็ครอบแรก หลังจากนั้นก็จะมีให้ขี่ลองเพื่อหาความพึงพอใจ สุดท้ายก็จะอธิบายการใช้งาน การปรับค่าต่างๆ ที่เซ็ตไว้ บอกถึงปรับค่าความหนืดในส่วนของโช๊คอัพหลัง ระยะสปริงพรีโหลดและค่าความหนืดกันสะบัดด้วยตนเอง

หลังจากที่เซ็ตทุกอย่างจนลงตัวก็ได้เวลาไปลองของจริง โดยค่าที่เซ็ตไว้ตอนออกจาก YSS ความหนืดที่โช๊คอัพหลังอยู่ที่ 15 จาก 30 ระดับ, ระยะกดสปริงคำนวนไว้เพื่อโหลดผู้ซ้อนรวมกับสัมภาระประมาณ 120 กก. และค่าหนืดกันสะบัดอยู่ที่ 15/30 การลองขี่ช่วงแรกในวันติดตั้งผู้เขียนได้ใช้เส้นทางบางนา สุขุมวิท เป็นส่วนใหญ่ซึ่งต้องฝ่าการจราจรที่ติดขัด นอกจากนี้ยังมีฝนตกลงมาทำให้ใช้ความเร็วไม่ได้มาก แม้บางช่วงเป็นทางโล่งก็ตาม โดยสรุปได้ว่า จังหวะการยุบหรือคืนตัวแตกต่างจากเดิมชัดเจน ความรู้สึกที่ได้คือ นุ่มหนึบขึ้น ลอนถนน หลุม หรือเนินกระแทกที่ขี่ผ่านตัวรถเก็บอาการได้ดีกว่าเดิมมาก ทำให้ขี่สบายขึ้น แต่ยังรู้สึกว่าจังหวะยุบตัวช้าไปหน่อย สปริงที่ปรับเพื่อโหลดเมื่อขี่คนเดียวก็ค่อนข้างแข็งไปบ้าง ที่ต้องรีบปรับหลังจากขี่ไปสักพักก็คือ กันสะบัด ความหนืดที่ค่ากลางเมื่อขี่เลาะเลี้ยวที่แคบกลับไม่ให้ความคล่องตัวนัก เพราะแรงต้านการหักแฮนด์มากเกินไป จึงปรับลงมาที่ 12 ก่อน หลังจากนั้นก็ลงมาที่ 10 เป็นอันว่ากำลังดี จริงๆ 8 น่าจะเหมาะและขี่สบายกว่า แต่ก็เผื่อไว้เวลาทางโล่งแล้วเจอพื้นผิวถนนไม่ดีไว้บ้าง 

หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสลองขี่ทางไกล เลือกใช้ถนนสายรองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมักมีช่วงพื้นผิวไม่ดีเป็นระยะ แต่ค่าที่ปรับไว้ก็ยังดีพอให้ความสบายตลอดการเดินทาง ที่สำคัญกันสะบัดช่วยให้รถมีสมดุลที่นิ่งและมั่นคงมากขึ้น ทำให้ขี่แล้วไม่เครียด สนุกไปกับการขี่รถชมเส้นทางธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ นับเป็นความรู้สึกที่น่าพอใจกับการได้อัพเกรดช่วงล่างจาก YSS กับรุ่นที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการใช้งานจริงๆ และราคาก็ไม่แพงมาก ในรุ่น G-Sport ถ้าซื้อเป็นกล่องรวมกับชุดอัพเกรดโช๊คอัพหน้ายิ่งคุ้ม ราคาแต่ละรุ่นลองเข้าไปดูได้ในเพจ YSS Thailand โดยตรง ส่วนกันสะบัดถ้าใครชอบใช้รถขี่เดินทางท่องเที่ยว ไม่ว่าจะออกทริปกับเพื่อนฝูงหรือเดินทางคนเดียวก็ควรมีติดตั้งไว้ เพราะทั้งหมดช่วยป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุได้ทางหนึ่ง ทั้งยังให้ความมั่นใจและสนุกกับการขี่มากขึ้น การอัพเกรดช่วงล่างมาตรฐานสูงที่ดีกว่าเดิม ถ้าได้ลองก็จะรู้ว่าทำไมถึงต้องเปลี่ยนกัน การเลือกแบรนด์ที่ให้มาตรฐานสินค้าที่มีคุณภาพระดับสากลพร้อมกับการติดตั้งโดยผู้ชำนาญ เครื่องมืออันทันสมัย มีโรงงาน ศูนย์บริการ ผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ คอยให้คำแนะนำและรับผิดชอบมักมีไม่กี่แบรนด์ ซึ่ง YSS suspension ก็ยืนหนึ่งมาตลอด ดีอย่างเดียวไม่พอ ใช้แล้วต้องสบายใจทั้งคุณภาพและการบริการ