ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถมอเตอร์ไซค์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ Royal Enfield Himalayan เพรียวบางคล่องตัว เบากว่าที่คิด เครื่องนิ่งขี่สบาย

icon 29 ก.ค. 63 icon 11,716
รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ Royal Enfield Himalayan เพรียวบางคล่องตัว เบากว่าที่คิด เครื่องนิ่งขี่สบาย

รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ Royal Enfield Himalayan เพรียวบางคล่องตัว เบากว่าที่คิด เครื่องนิ่งขี่สบาย 
Royal Enfield Himalayan รถมอเตอร์ไซค์ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ทุกสภาพถนน แม้ว่ารูปทรงจะเน้นไปทางการขี่ลุย ผจญภัย ทางฝุ่น ปีนโขดหินหรือลุยโคลน แต่เมื่อได้ลองสัมผัสแล้วกลับรู้สึกว่า มันก็ขี่ในเมืองหรือใช้งานทั่วไปได้ดีมากไม่แพ้รถรุ่นอื่น และนอกจากนี้ก็ยังไม่มีคู่แข่งตรงตัวอีกด้วย


จุดเด่น Royal Enfield Himalayan

หลายคนอาจคิดว่าเจ้ามอเตอร์ไซค์วิบากหรือแอดแวนเจอร์ "หิมาลายัน" ต้องขี่แต่ทางโหดๆ บทความนี้นำเสนอในอีกแง่มุมนึง เพราะเจ้าหิมาลายันถูกเน้นไปทางด้านการ "ลุย" อยู่แล้วด้วยพื้นฐานของโครงสร้างตัวถังเป็น "เหล็ก" แต่น้ำหนักเบาไม่หนักอย่างที่เห็น ความกว้างของตัวรถ 840 มม. ก็ไม่เกะกะเลย มีความผอมเพรียวกว่าที่คิดเอาไว้มาก 



ความสูงเบาะ 800 มม. กำลังดี เครื่องยนต์ที่มีแรงบิดดีในรอบต่ำๆ แม้รอบเครื่องยนต์อยู่ที่หนึ่งพันกว่าๆ ก็สามารถเปิดหรือกลอคันเร่งในจังหวะขับขี่ความเร็วต่ำๆ ในเมืองการจราจรติดขัดได้อย่างสบาย

ช่วงล่างของ Himalayan ก็นับว่าออกแบบมาให้มีระยะยืดหดของโช๊คมาก โดยโช๊คหน้าขนาด 41 มม. ระยะชัก 200 มม. พร้อมกับบังโคลน 2 ชั้น ด้านหลังระยะชักขนาด 180 มม. ซึ่งในรถแนวนี้ระยะโช๊คหน้าประมาณ 200 - 240 มม. และหลังราว ๆ 200 มม. กับราคาประมาณนี้นับว่าไม่ขี้เหร่เลย พร้อมรองรับการลุยทุกรูปแบบ ด้วยเหตุนี้เองเจ้า Himalayan จึงเหมาะกับการขับขี่ทั้งใช้งานในชีวิตประจำโดยเฉพาะสภาพถนนของเมืองไทยหรือออกทริปกางเต็นท์หรือเข้าป่าก็ไปได้ชิวๆ








ข้อมูลทางเทคนิค 

Royal Enfield Himalayan มาพร้อมรูปทรงดิบๆ ดุๆ ไม่สวยหวือหวานักออกแบบเพื่อให้ง่ายต่อการบำรุงรักษาและใช้งานโดยที่ไม่ต้องกังวล เมื่อต้องลุยทาง Off-Road หรือเกิดการ "ล้มแปะ" เพราะโครงสร้างเหล็กแบบ Half-duplex split cradle frame แทบทั้งคัน มีชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติกหรืออื่นๆ น้อยชิ้นมาก เหมือนเกิดมาเพื่อลุยจริงๆ ไฟหน้าฮาโลเจน แม้จะดูไม่ทันสมัยนักแต่มองชัดเจนแม้ฝนตกหรือมี "หิมะ" บางพื้นที่ของถิ่นกำเนิดในอินเดีย! 

มิติตัวรถยาว 2,190 มม. กว้าง 840 มม. สูง 1,360 มม. และหนัก 191 กก. ความสูงใต้ท้อง 220 มม. เครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่ LS410 แบบ 1 สูบ 4 จังหวะ SOHC จ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีด ระบบายความร้อนด้วยอากาศพร้อม Oli-cooler ความจุ 411 ซีซี. 24.5 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที ช่วงชักยาวให้แรงบิดที่สูง 32 นิวตันเมตร ที่ 4,250 รอบต่อนาที เกียร์ 5 จังหวะ มีการปรับปรุงชิ้นส่วนภายในเครื่องให้ลดการสั่นสะเทือนได้มากขึ้น 

ระบบเบรกหน้าดิกส์ขนาด 300 มม. เดี่ยว คาร์ลิเปอร์ 2 ลูกสูบ ด้านหลังดิกส์ขนาด 240 มม. เดี่ยว คาร์ลิเปอร์ 1 ลูบสูบ พร้อมกับมี ABS ทั้งหน้าและหลัง ระบบกันสะเทือนหน้า เทเลสโคปิก (Telescopic) ขนาดตะเกียบหน้า 41 มม. ระยะยุบตัว 200 มม. ระบบกันสะเทือนหลัง โมโนช็อคแบบมีแขน (Monoshock with Linkage) ระยะยุบตัว 180 มม. ส่วนยางหน้าขนาด 90/90-21 และหลัง 120/90-17 จากค่าย Pirelli MT60  

การทดลองขับขี่ 

การได้ลองขับขี่ถึงได้รู้ว่ารถเบากว่าที่คิดเอาไว้มาก จากรูปทรงและโครงเหล็กเต็มคัน แต่กลับเบาและแคบ การนั่งไม่ต้องกางขากว้างนัก ความสูงของเบาะ 800 มม. สำหรับผู้ทดสอบสูง 176 ซม. กำลังดีวางเท้าได้เต็มๆ  ส่วนถ้าคนที่ส่วนสูง 160 - 170 ซม. ก็น่าจะขี่ได้ไม่ยาก อาจใช้การเขย่งปลายเท้า แต่ด้วยตัวรถที่เบาทำให้ไม่ต้องเกร็งมากและไม่เมื่อยอย่างแน่นอนครับ

มาดูที่หน้าปัดมี 3 ช่องหลักได้แก่วัดความเร็ว วัดรอบเครื่องยนต์ และช่องล่างทางขวาบอกระดับน้ำมันและเข็มทิศทางมาให้ด้วย แอนด์บาร์ขนาดกว้างพอสมควร กระจกมองข้างยกสูงขึ้น แต่ก็ยังยื่นออกเล็กน้อยต้องคอยระวังกระจกมองข้างเวลามุดตอนรถติดๆ โดยเฉพาะความสูงที่ใกล้เคียงกับกระจกมองข้างรถปิคอัพเลยทีเดียวครับ

การออกตัวบอกได้เลยว่า ไม่แรงแบบกระชาก แต่มาเรื่อยๆ แบบรถที่มี "ทอร์ค" เยอะคือ "ไม่เน้นเร็วแต่เน้นกำลัง" ซึ่งข้อดีของเครื่องแรงบิดรอบต่ำก็คือ ในรอบต่ำสามารถขับไปได้โดยยังมีเรี่ยวแรงเหลือให้เปิดคันเร่งได้ทันที โดยการขับขี่ในความต่ำเมื่อเจอจราจรติดขัดสามารถแช่เกียร์ 2 ได้ยาวๆ และยังลากรอบสูงๆ ได้จนถึง 5,000 กว่ารอบต่อนาทีได้สบาย นอกจากนี้เครื่องยนต์ตัวนี้ถูกจับแก้อาการ "สั่นสะท้านโลกันต์" แล้ว ยิ่งทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวลราบรื่นและไม่เหนื่อยอีกด้วยครับ

จุดเด่นอีกอย่างของสามารถเครื่องยนต์ 1 สูบ 411 ซีซี ทอร์คหนักคันนี้คือ ในเกียร์ 1 ขับในรอบต่ำที่ 1,100 รอบต่อนาทีและไหลไปได้เรื่อยๆ ซึ่งนับว่าเหมาะกับการขับขี่ลุยทางโคลน กรวดหิน ได้เป็นอย่างดี และด้วยความที่เป็นเครื่องรอบไม่จัดมากนัก ทำให้ควบคุมคันเร่งได้ง่าย รถไม่เสียอาการ หากต้องลุยน้ำหรือบ่อโคลนต่างๆ และในการขับขี่ความเร็วสูงนั้นก็ทำได้ระดับกลางๆ ด้วยความเร็วเดินทางราวๆ 100 - 110 กม./ชม. แบบสบายๆ และในท่ายืนขี่สามารถควบคุมรถได้ง่าย 

ส่วนของแฮนด์ไม่ต่ำเกินไป พักเท้าก็อยู่ในมุมที่ไม่เมื่อยนัก ซึ่งตรงกับที่เน้นขี่ทางฝุ่นมากกว่า นอกจากนี้ในการขับขี่ทดสอบระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร กลับให้ความประหยัดเกินคาด น้ำมันจากเต็มถังในวันรับรถทดสอบลดลงมาไม่เกินครึ่งขีด ประหยัดไม่น้อยหน้ารถระดับ 300 ซีซีเลยทีเดียวครับ  

จุดที่ควรปรับปรุงก็มีในเรื่องของชิ้นส่วนงานประกอบโดยเฉพาะสวิตช์สั่งงานต่างๆ บริเวณแฮนด์ยังดูไม่ค่อยแข็งแรงผิดคอนเซ็ปต์ไปสักนิด กำลังเครื่องยนต์ที่มี 24.5 แรงม้านับว่าไม่น้อย แต่กลับยังทำอัตราเร่งช่วงออกตัวไม่ค่อยจัดจ้านเท่าไหร่ ช่วงล่างอาจเหมาะสมกับการใช้งานในทางฝุ่นมากเกินไป เมื่อขับขี่ทางเรียบจะรู้สึกกระด้างและมีอาการ "จุก" เมื่อขับผ่านหลุมหรือคอสะพานแรงๆ แต่ถ้าจำเป็นต้อง "รูด" ผ่านเร็วๆ ก็พอแก้ด้วยการยืนครับ 

และในบางจังหวะเข้าเกียร์ยากต้องขยับรถหรือปล่อยคลัทช์เบาๆ ให้เฟืองเกียร์ลงล็อค จึงจะเข้าได้ และไฟโชว์บอกตำแหน่งเกียร์ค่อยข้างดีเลย์ จึงทำให้ "หลงเกียร์" ในบางครั้งครับ

สรุปความคุ้มค่าและราคา Royal Enfield Himalayan 169,800 บาท ดีไหม?

สำหรับ Royal Enfield Himalayan รถมอเตอร์ไซค์ที่มีช่วงล่างยกสูง ตอบสนองการใช้งานได้ดีทั้งในเมืองที่ผิวถนน "น่ากลัว" อย่างในเมืองหลวง สามารถขับขี่ผ่านสภาพถนนที่ "พัง" ได้อย่างสบาย ลุยน้ำท่วมขังได้สบายหายห่วง กำลังเครื่องยนต์ที่ไม่แรงมากเกินไปจึงทำให้ควบคุมคันเร่งได้ง่าย ไม่พุ่งพรวดพราดเกินไป ให้ความปลอดภัยในระดับหนึ่งบวกกับระบบเบรกที่ให้ ABS มาด้วย ในขณะที่จะขี่ทางฝุ่นก็สบาย กำลังเครื่องยนต์ดีในรอบต่ำรถน้ำหนักเบาไม่เหนื่อยเลี้ยวง่ายอีกด้วย 

ราคา 169,800 บาท เมื่อเทียบรุ่นใกล้เคียงกันในราคานี้แล้วส่วนมากจะได้ขนาดเครื่องยนต์ 250 - 300 ซีซี และด้วยรูปทรงดิบๆ เถื่อนๆ แนวลุย ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใครค่าตัวนี้นับว่าไม่ถูกแต่ก็ไม่แพงเกินไป โชว์รูมและฝ่ายบริการก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นกับว่า "คุณกล้าที่จะแตกต่างออกจากกรอบเดิมๆ หรือไม่"  
สนใจทดลองขับขี่เจ้า Himalayan ได้ที่โชว์รูม Royal Enfield ทั่วประเทศ 

แท็กที่เกี่ยวข้อง royal enfield himalayan ข่าวรอยัล เอนฟิลด์ ข่าวมอเตอร์ไซค์ royal enfield 2020 รีวิวมอเตอร์ไซค์ royal enfield himalayan 2020
Motorbike Guru
เขียนโดย เช็คราคา.คอม Motorbike Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)