เลือก Honda CRF 1100L Africa Twin รุ่นไหนที่ใช่ MT หรือ DCT (Adventure Sports)
All New Honda Africa Twin CRF1100L เปิดตัวในเมืองไทยไปไม่นานด้วย 2 รุ่นย่อย คือ
รุ่น Standard และรุ่น
Adventure Sports ทั้งสองรุ่นได้รับการออกแบบด้วยแนวคิด True Adventure ทั้งคู่ หลายคนอาจมองว่า
CRF1100L เป็นการเฟซลิฟท์จากรุ่นที่ผ่านมาหรือเปล่า จริงๆ ตัวรถได้รับการออกแบบใหม่หมด โดยเฉพาะน้ำหนักตัวที่เบาลงกว่า 5 กก. และติดตั้งเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้าไปมากมาย นอกเหนือไปจากเครื่องยนต์ขนาด 1,100 ซีซี SOHC parallel twin with 270 องศา crank and Uni-cam ระบายความร้อนด้วยน้ำ สวิงอาร์มหลังได้รับอิทธิพลจากรุ่น
CRF450 MX ที่เคลมว่าทำให้ขี่บนทางออฟโรดได้ดีขึ้น การเลือกระหว่าง 2 รุ่นย่อยไม่ใช่เพราะราคาที่แตกต่าง แต่จริงๆ ตัวรถได้ถูกออกแบบมาให้ใช้ขี่แตกต่างสไตล์กัน แล้วแบบไหนจะเหมาะกับใคร ?
ความโดดเด่นที่เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น อย่างไฟคู่หน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED, หน้าจอสัมผัส TFT Touchscreen ขนาด 6.5 นิ้ว ที่ทันสมัยสุดๆ กับการรองรับระบบ Apple CarPlay จริงๆ Android Auto ก็น่าจะได้เช่นกัน ถ้ามีโอกาสทดสอบเราคงได้เจาะรายละเอียดมาให้ได้ทราบกัน แสดงข้อมูลการขับขี่ เช่น แผนที่ มาตรวัดความเร็วดิจิทัล และมาตรวัดมัลติฟังก์ชันครบทุกรายละเอียด
ด้านขุมพลังด้วยเครื่องยนต์ใหม่ขนาด
1,100 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 102 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 105 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบต่อนาที เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนราว 7 % ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นของ Showa ขนาด 45 มม. ที่ปรับระดับได้ ด้านหลังเป็นโมโนช็อคปรับระดับได้ของยี่ห้อเดียวกัน ระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์คู่ขนาด 310 มม. กับคาลิเปอร์เรเดียลเม้าท์ 4 pot คู่ ของนิชชิน หลังเป็นดิสก์ขนาด 256 มม. กับคาลิเปอร์เดี่ยวของโตกิโกะ พร้อมเอบีเอส 2 แชนแนล กับ
Cornering ABS ส่วนโหมดการขี่ให้เลือกใช้มากถึง 6 โหมด คือ Tour เน้นขี่ทางไกลยาวพร้อมสัมภาระเต็มที่เน้นอัตราเร่ง, Urban เปิดกว้างใช้งานทั่วไปหลากหลาย, Gravel เน้นเซฟตี้และสบายเวลาขี่ทางออฟโรดที่ไม่หนักอย่างทางกรวดทั่วไป, Off-Road ถ้าลุยออฟโรดหนักหน่วงก็ต้องโหมดนี้, User1-2 อันนี้ปรับได้ตามความชอบให้เข้ากับสไตล์ผู้ขี่เป็นได้ 2 แบบ ทั้งหมดคือ การปรับ Power, Engine Braking, ABS, G switch ร่วมกับปรับระบบ HSTC และWheelie control 3 ระดับ ด้านน้ำหนักตัว (เฉพาะรุ่นที่จำหน่ายในไทย) รุ่นธรรมดาเกียร์ MT อยู่ที่ 226 กก. และ
รุ่น Adventure Sports เกียร์ DCT อยู่ที่ 248 กก.
ทีนี้มาถึงการเลือกเนื้อคู่สำหรับผู้ที่ต้องการรถคู่ใจใหม่เป็น
All New Honda Africa Twin CRF1100L อย่างที่ทราบว่า
รุ่น Standard ราคา 559,000 บาท
รุ่น Adventure Sports ราคา 699,000 บาท แต่พิเศษซื้อภายใน 30 มิถุนายนนี้ ได้ลดอีก 30,000 บาท เหลือจ่าย 669,000 บาท ในความแตกต่างด้านราคาที่ห่างกันราว 140,000 บาท ถ้าเทียบกับราคาปกติ อาจดูเหมือนมากทั้งๆ ที่เครื่องยนต์และองค์ประกอบสำคัญหลายอย่างของตัวรถเหมือนกัน จริงๆ สิ่งที่ทำให้ราคาดูห่างกันเยอะ นอกจากความเป็นรุ่นแอดเวนเจอร์ที่เพียบพร้อมสำหรับสายทัวร์ริ่งแล้ว ก็คือเกียร์ DCT กับเกียร์ธรรมดานั่นเอง เพราะในไทยทางฮอนด้า บิ๊กไบค์ ได้เลือกที่จำหน่ายเฉพาะเกียร์ MT กับรุ่นธรรมดาและ DCT กับรุ่นแอดเวนเจอร์ สปอร์ต ขณะในตลาดต่างประเทศทั้ง 2 รุ่นสามารถเลือกประเภทของเกียร์ได้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะมองตลาดไว้แล้วว่า ผู้ที่ต้องการขี่รุ่นธรรมดา ซึ่งเน้นการขี่ที่ลุยทางออฟโรดเข้มข้นมากกว่า อย่างสไตล์ดาการ์ แรลลี่ มักชอบควบคุมเกียร์ด้วยตนเอง ตัวรถรุ่นธรรมดาที่ถูกกว่าไม่ใช่เพราะด้อยกว่าเหมือนรุ่นรถทั่วไป แต่เป็นสไตล์แนวแรลลี่ที่ผู้ขี่มักชอบขี่ทางออฟโรดมากกว่า เน้นยืนขี่บุกตะลุย แม้กระทั่งยกล้อหรือโดด ชิลด์หน้าจึงออกแบบให้สั้นลง ถังน้ำมันจุ 18 ลิตร เพื่อให้ตัวรถดูเพรียวสลิม คล่องแคล่วการควบคุม ล้อซี่ลวดแบบมียางในที่เซอร์วิสได้หลากหลายกว่าเวลาเข้าทางออฟโรด ส่วนรุ่น Adventure Sports ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ส่วนใหญ่และกลุ่มเดิมที่ขี่ฮอนด้า แอฟริกา ทวินอยู่แล้ว เน้นขี่ทัวร์ริ่ง ท่องเที่ยวทางไกล ออฟโรดแบบเบาๆ ทางค่อนข้างเรียบแข็ง สำหรับรุ่นล่าสุดได้ถังน้ำมัน 24 ลิตร ล้อซี่ลวดแบบแทงข้างกับยางทูปเลส เอาใจสายเดินทางอย่างแท้จริง และการเพิ่มขุมพลัง 102 แรงม้า ก็ทำให้การขี่ออนโรดได้สมรรถนะดียิ่งขึ้น ทำให้รุ่นแอดเวนเจอร์ฯ กลายเป็นความโดดเด่นของ CRF1100L ใหม่อย่างแท้จริง นอกจากนี้ราคา 669,000 บาทในตอนนี้ ยังให้ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งชั้นนำในตลาด ทั้งค่าใช้จ่ายในการเซอร์วิสรถและสมรรถนะที่ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันมากนัก ถึงตรงนี้หลายคนที่สนใจ
All New Honda Africa Twin CRF1100L น่าจะพอได้คำตอบในใจแล้วว่าจะไปรุ่นไหนถึงเหมาะและใช่สำหรับเรา