รีวิวยามาฮ่า จัดทัพสื่อมวลชนเทสสมรรถนะ New YZF-R1 เวอร์ชันปี 2020 ครั้งแรกในเอเชีย
เข้าสู่ปีที่ 21 ของซูเปอร์ไบค์ระดับโลกอย่าง ยามาฮ่า R1 (Yamaha R1 2020)ที่ถ่ายทอดความแรงและเทคโนโลยีจากตัวแข่ง M1 ในศึกโมโตจีพีสู่ซูเปอร์ไบค์ที่ทุกคนสามารถครอบครองได้
ล่าสุดทาง ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ ได้จัดให้สื่อมวลชนได้มีโอกาสทดสอบขี่
ยามาฮ่า R1 ใหม่ ปี 2020 ก่อนใครในเอเชีย โดยใช้สนามแข่งโมโตจีพีอย่าง ช้างอินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต
สำหรับ ยามาฮ่า R1 ใหม่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีจากตัวแข่งอันล้ำสมัย ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ Crossplane 4 สูบเรียง 998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร พร้อมด้วยเทคโนโลยีการควบคุมรถสุดล้ำครบครัน
รายละเอียดภายนอกที่น่าสนใจใน
ยามาฮ่า R1 ใหม่ เช่น ผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้เองทั้งหมดผ่านหน้าจอสี TFT ซึ่งแสดงข้อมูลการขี่ครบทุกรายละเอียด ส่วนโช๊คอัพหน้าแบบ Upside Down และหลังแบบ Mono Shock เสริมด้วยซัพแท้งค์ ต่างถูกปรับปรุงใหม่ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ด้านไฟหน้าเป็น LED ใหม่ เช่นเดียวกับแฟริ่งใหม่ที่ปรับปรุงด้านอากาศพลศาสตร์ให้ดีขึ้นกว่าเดิมถึง 5%*นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปมากขึ้น เช่น ระบบควบคุมเบรคในโค้ง, ระบบควบคุมเอ็นจิ้นเบรค, คันเร่งไฟฟ้าแบบเต็มระบบ, ระบบ Launch Control ที่ดีขึ้น ด้านเครื่องยนต์ก็ได้รับการอัปเกรด ส่งผลให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นตั้งแต่รอบต้นถึงรอบปลาย ให้อัตราเร่งดีกว่ารุ่นเดิม
ส่วนการทดสอบ
ยามาฮ่า R1 ใหม่ ปี 2020 แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มทดสอบ แต่ละกลุ่มได้ทดสอบกันทั้งหมด 2 ช่วง ช่วงละ 15 นาที โดยไล่เรียงตามลำดับกลุ่ม มี R1 ใหม่สำหรับสื่อทั้งหมด 7 คัน ผู้เขียนได้อยู่กลุ่มที่ 2 การออกไปขี่ทดสอบมีผู้ฝึกสอนขี่นำ ไปตามความเร็วที่ผู้ตามสามารถไปได้ การขี่ในช่วงแรกนับเป็นการทำความคุ้นเคยกับตัวรถและลองความต่างระหว่างโหมด a กับ b ที่ทางทีมงานได้เซ็ตไว้ โดยระดับกำลังและความหน่วงของเครื่องยนต์ไม่เหมือนกัน โดยโหมด b ถูกปรับให้มีกำลังสูงสุด และระดับแทร็คชันน้อยกว่า ซึ่งเราได้ลองขี่ในช่วงแรกทำให้พบถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน พลังที่ปลดปล่อยออกมาตามจังหวะการเปิดคันเร่งนั้น แรงอย่างท้วมท้นผสานกับระบบเกียร์แบบควิกชิฟต์ทำให้การไต่และลดความเร็วทำได้อย่างแม่นยำ ไหลลื่นและต่อเนื่องดีมาก ระบบชดเชยรอบที่ยอดเยี่ยมสามารถให้การชิฟต์เกียร์รวบลงทีเดียว ทำได้ดีและไม่ต้องมาคอยหน่วงทีละเกียร์ การพลิกเข้าออกโค้งทำได้อย่างสนุกให้สมดุลที่ดี แต่มีบ้างที่ผู้เขียนโดนพลัง 200 แรงม้าเล่นงานจนเบรกลึกหลุดไป แต่ระบบช่วยเหลือก็ช่วยให้การควบคุมทำได้ง่ายขึ้น
ในช่วงที่สองของการทดสอบได้ให้อิสระในการเลือกโหมดที่ชอบเอง ผู้เขียนเลือกขี่ในโหมด b และลองใช้ความเร็วมากขึ้น แต่ยังคงมีผู้ฝึกสอนขี่นำด้านหน้ากลุ่มเหมือนเดิม และมีการตั้งกรวยดักเพื่อลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง12 อันเป็นโค้งสุดท้ายก่อนเข้าทางตรงยาวเวลา 15 นาที ในช่วงสองหมดไปอย่างรวดเร็ว การคุ้นกับมิติตัวรถและความแรงทำให้การขี่ R1 ใหม่สนุกมากขึ้น ด้วยสมรรถนะอันยอดเยี่ยมทำให้ไม่แปลกใจเลยว่า R1 ใหม่จะต้องได้รับการตอบรับที่ดีจากเหล่าไบค์เกอร์ที่ต้องการความเป็นที่สุดในทุกๆ ด้านของสปอร์ตไบค์ระดับเวิลด์คลาส ด้วยราคา 849,000 บาท แลกกับรถที่เปี่ยมไปด้วยความแรงและเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมจากตัวแข่งโมโตจีพีอย่าง
ยามาฮ่า R1 ใหม่ ล่าสุด อาจเป็นคำตอบให้ใครหลายคนที่มองหารถคู่ใจในราคาสมเหตุผล พร้อมการเซอร์วิสหลังการขายที่ให้ความมั่นใจเต็มเปี่ยมกับยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ