5 สิ่งไม่ควรทำเมื่อขี่รถมอเตอร์ไซค์
รถมอเตอร์ไซค์นับเป็นยานพาหนะที่สะดวกสบาย โดยเฉพาะระยะหลังมานี้การจราจรติดขัดมาก การเดินทางด้วยรถยนต์ค่อนข้างลำบาก ซึ่งผู้เขียนเองก็หันมาพึ่งรถจักรยานยนต์เวลาเดินทางในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น
หลังจากที่ได้หันมาใช้รถมอเตอร์ไซค์มากขึ้นนั้น บ่อยครั้งก็เริ่มรู้สึกว่านอกจากรถยนต์บางคันที่ขับกับแบบไร้ระเบียบแล้ว ส่วนของรถมอเตอร์ไซค์เองนั้น บางคันก็ขับขี่กันแบบไม่เคารพกฏหมายจราจร หรือประมาทกันมากขึ้น ด้วยสมรรถนะของรถที่ดีขึ้นจากสมัยก่อน ทำให้การขับขี่เร่งได้ทันใจมากขึ้น จึงใช้ความเร็วสูงๆ แม้ในสภาพการจราจรแออัดก็ตาม
อีกสิ่งหนึ่งที่ยังคงเห็นผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์หลายคนทำกันก็คือ การไม่เตรียมพร้อมในการขับขี่รถ ซึ่งนอกจากผิดกฏหมายแล้วยังจะก่อให้เกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุขึ้นได้ งั้นมาดู 5 สิ่งที่มักจะเห็นผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์บนท้องถนนชอบทำกัน จะมีพฤติกรรมแบบไหนบ้าง และตรงกับตัวเราหรือไม่
1. ไม่ใส่หมวก
ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อค น่าจะเป็นอาการลำดับต้นๆ ติด Top Hit ของผู้ไม่รักตัวเองก็ว่าได้ครับ การใส่หมวกกันน็อคนั้น เพื่อรักษาศีรษะของเราเองไม่ใช่ของคนอื่น เมื่อเกิดอุบัติเหตุการใส่หมวกกันน็อคนั้นจะทำให้อาการจากหนักกลายเป็นเบาได้ และหากเลือกหมวกที่ได้มาตรฐานไม่ว่าจะเป็นหมวกในหรือจะซื้อหิ้วมาจากต่างประเทศก็ตาม ขอให้เป็นแบรนด์ที่ได้มาตรฐานใส่เถอะครับ และหากเลือกเป็นแบบ "เต็มใบ" ก็จะยิ่งดี เพราะบางครั้งเมื่อขับขี่ตามหลังรถบรรทุกมักมีเศษหินตกลงมาอาจจะ "ดีดเข้าตา" หรืออาจมีฝุ่นผงทำให้ระคายเคืองตา และทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลง
2. ใช้โทรศัพท์
ภาพจาก Youtube
ขี่ไปโทรฯ ไป-แชตไลน์-ลงไอจี ข้อนี้พอมีให้เห็นอยู่ไม่น้อยในปัจจุบันนี้ การขี่มอเตอร์ไซค์ปกติก็ว่าลำบากแล้ว เพราะอย่างน้อยๆ 2 มือก็ต้องบังคับควบคุมแฮนด์รถเอาไว้ แต่ทุกวันนี้ก็ยังเห็นผู้ขับขี่ประมาท "คิดว่าไม่เป็นไร ใช้งานนิดเดียว ฉันทำได้เก่งอยู่ ฯลฯ" โดยขาดสมาธิในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งหากไม่เกิดเหตุก็คงโชคดีไป แต่เมื่อมีเหตุฉุกเฉินก็มักมีให้เห็นบ่อยๆ ที่ก้มดูโทรศัพท์แล้วรถคันข้างเบรก ก็ชนเข้าเต็มๆ "สุดท้ายคือเจ็บบาดเจ็บเจียนตาย" ไม่คุ้มกันหรอกครับ
หากจำเป็นต้องติดต่อธุระทางโทรศัพท์ แนะนำว่าให้จอดรถในที่ปลอดภัยในปั๊ม หรือขอบทางที่มีพื้นที่เว้าให้พ้นถนน และไม่ควรจอดริมถนนเพราะอาจถูกเสยท้าย "ลา-ลา-ลอยล่องไปในอวกาศ" หรือจะใช้ชุด Small Talk ทั้งแบบสายหรือแบบ Bluetooth ก็ย่อมได้
3. แซงระยะเผาขน
การแซงแบบกระชั้นชิดเกินไป มักพบได้บ่อยๆ ในช่วงเวลารถติดๆ รถมอเตอร์ไซค์จะต้องขับขี่เรียงกันไปตามช่องทางตรงกลางระหว่างเลนรถยนต์ ซึ่งบางครั้งก็อาจมีรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับขี่ความเร็วต่ำๆ มาบังไลน์ ทำให้ต้องลดความเร็วและขับตามแบบช้าๆ เหตุการณ์นี้ผู้เขียนก็มักเจอเป็นประจำเช่นกัน แต่เมื่อต้องการจะแซงขึ้นหน้าก็ขอให้ดูระยะปลอดภัย ทั้งด้านหน้าที่แซงขึ้นไปแล้วต้องเบียดเข้าช่องทาง และต้องเผื่อระยะให้รถคันที่เราแซงให้เค้ามีระยะชะลอได้ทันด้วย
แต่ขณะเดียวกันนั้นหากเราเป็นฝ่ายที่ขับช้าเสียเอง ก็ควรมองดูทางด้านหลังด้วยว่าจะมีคันอื่นๆ ที่ต้องการแซงขึ้นไปหรือไม่ หากมีก็ควรจะเปิดโอกาสให้แซงผ่านขึ้นไปในระยะที่ปลอดภัย และหากมีกรณีที่จังหวะในการแซงและมีะระยะห่างที่ปลอดภัยแล้ว แต่เหตุการณ์ข้างหน้าเกิดการเบรก หรือชะลออย่างกระทันหันก็ให้ต่างคนต่างควรช่วยกันปรับระยะห่างให้ปลอดภัย หรือชะลอให้คันที่แซงขึ้นไปแล้วกลับเข้ามาในช่องทางเดิมหรือเรียกว่า "บางลีลาก็ควรมีน้ำใจให้กัน"
4. ย้อนศร
ภาพจาก www.komchadluek.net
การขับขี่ย้อนศร กลายเป็น "Signature" คู่กับรถมอเตอร์ไซค์ในบ้านเราไปแล้ว ด้วยความสะดวกที่สามารถขี่รถย้อนทางรถสวน หรือขับชิดขอบทางเพื่อลัดเลาะให้ไปยังจุดกลับรถหรือเข้าซอยได้อย่างสะดวก และง่ายนิดเดียวไม่ต้องเสียเวลาอีกด้วย แต่เดี๋ยวก่อน! มันผิดกฏหมายนะครับ! เข้าใจว่าการต้องขี่อ้อมเพื่อไปกลับรถไกลๆ เสียเวลาเสียน้ำมัน เสี่ยงกับรถใหญ่ หรือจะมีข้ออ้างอะไรก็ตามแต่ ล้วนผิดกฏหมาย อันตราย และอาจทำให้รถที่ขับในทางถูกต้องมาชนได้โดยไม่ทันจะระวัง และคนที่เจ็บก็เป็นผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่ย้อนศรมานั่นเอง
5. ขี่บนทางเท้า
ภาพจาก thainews.prd.go.th
ขี่รถบนทางเท้าหรือฟุตบาท กลายเป็นปัญหาระดับชาติไปแล้ว แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรแต่ก็ยังทำกันอยู่โดยไม่สนใจว่าคนเดินเท้าจะหลบกันแทบไม่ทัน ส่วนมากมักเจอบางคนที่ขี้เกียจรอรถติดยาวๆ หรือรอติดนานๆ ไม่ไหว ต้องขี่ขึ้นฟุตบาทเพื่อให้ไปได้เร็วขึ้น ฯลฯ ก็ตาม หรือขับขี่บนทางจักรยานกันไปเลย แต่ว่านั่นคือคุณกำลัง เบียดเบียน เอาเปรียบ ทำผิดกฏหมาย และเสี่ยงทำร้ายคนเดินเท้า และอาจโดนคุณตำตรวจดักจับ และที่น่ากลัวที่สุดคือ อาจโดนถ่ายคลิปแล้วนำไปประจานในโลกโซเชียลจนเสียผู้เสียคนไปเลยก็ได้ครับ ยอมเสียเวลาสักไม่กี่นาทีแต่ปลอดภัยจะดีกว่า
คิดเสมอนะครับว่าเมื่อกำลังนั่งคร่อมรถมอเตอร์ไซค์อยู่ นั่นหมายความว่าคุณต้องตั้งใจ มีสมาธิ และเคารพกฏ กติกา ของสังคม จนเมื่อลงจากรถ เพราะมอเตอร์ไซค์นับเป็นรถที่สะดวกในการเดินทางมากที่สุด แต่ก็ง่ายต่อการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุดเช่นกัน "ก็เนื้อหุ้มเหล็กอย่างที่โบราณว่าไว้จริงๆ"