7 รุ่นมอเตอร์ไซค์ น่าขี่ปี 2019
นี่คือ 7 รุ่นมอเตอร์ไซค์ใหม่ของปี 2019 ที่เชื่อว่าไบค์เกอร์ทั้งหลายเห็นแล้วคงอยากสัมผัส และพาออกไปขี่โลดแล่นบนถนนสุดๆ ด้วยรูปโฉมที่ปรับเปลี่ยน สมรรถนะที่ทรงพลังกว่าเดิม ฟังก์ชันและเทคโนโลยีล้ำสมัยขึ้น ในราคาที่จับต้องได้ตามคลาสของแต่ละรุ่น จึงน่าจะทำให้ปี 2019 เป็นช่วงเวลาดีๆ ของการได้ลองขี่รถใหม่หลากหลายรุ่น และมีโอกาสเป็นเจ้าของมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่ตรงใจมากกว่าเดิม
1. BMW S1000RR
สายซิ่งตัวจริงย่อมต้องไม่พลาดสปอร์ตไบค์อย่าง S1000RR รุ่นใหม่ล่าสุดที่พกดีกรีแชมป์รายการ TT และล่าสุดในรายการ เอเชียโรดเรซซิ่ง 2019 (ARRC 2019) ก็จะได้เห็น S1000RR มาวาดลีลาในสนามรุ่น ASB1000 ด้านตัวรถรุ่นใหม่ ปรับการออกแบบให้ตัวรถแหวกอากาศได้ดีกว่าเดิม เฟรมที่เป็นแบบเฟล็กช่วยให้การกระจายน้ำหนักและกริ๊ปดีขึ้น การวางตำแหน่งและระยะของจุดยึดต่างๆ ของพาร์ตช่วงล่างใหม่ ทำให้การควบคุม แทร็คชัน และการตอบสนองดีกว่าเดิมเช่นกัน นอกจากนี้ยังเป็นแบบอิเลคทรอนิค Dynamic Damoing Control (DDC) ส่วนเครื่องยนต์ใหม่พลัง 205 แรงม้ามีจุดเด่นอย่าง ShiftCam VVT และควิกชิฟท์ทั้งขึ้นและลง
2. Kawasaki Versys 1000 SE
แม้ว่า เวอร์ซิส 1000 เอสอี ไม่ใช่รถที่ดูดีและทรงพลังที่สุดของคาวาซากิในปีนี้ การเขียนหน้าทาปากใหม่ก็เพื่อให้เวอร์ซิสสามารถไปต่อกรกับแบรนด์อย่างดูคาติ และบีเอ็มดับเบิลยู ในตลาดมอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์หรือสปอร์ตทัวร์ริ่งได้ ฟีเจอร์เด่นในรุ่นนี้ก็มี ควิกชิฟต์, ไรดดิ้ง โหมด, แทร็คชัน คอนโทรล, ช่วงล่างปรับไฟฟ้า พร้อมขุมพลังขนาด 120 แรงม้า น่าจะทำให้พี่ใหญ่ตระกูลเวอร์ซิสเป็นรถที่พร้อมสำหรับใครหลายคน แน่นอนว่าเป็นอีกรุ่นที่ควรได้ลองขี่ในปีนี้
3. KTM 790 Adventure R
หลายคนรอคอยมอเตอร์ไซค์ แอดเวนเจอร์ คลาสระดับนี้จาก เคทีเอ็ม จาก 790DUKE ทำให้ก่อกำเนิด 790 Adventure/R ที่ปรับส่วนช่วงล่างใหม่โช๊คอัพหน้าจาก WP ที่มีช่วงยาวขึ้น ท่านั่งและแฮนด์ปรับให้สบายขึ้น ถังน้ำมันเปลี่ยนใช้ทรงหยดน้ำขนาด 20 ลิตร รองรับการขี่ทางไกล และอีกไม่นานก็คงได้เห็นวิ่งกัน เพราะเป็นคลาสยอดนิยมสำหรับคนเอเชีย ว่าแต่ในไทยจะมีโอกาสได้เห็นหรือเปล่ายังเป็นคำถามเพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงกับ KTM ในไทย
4. Harley-Davidson Livewire
ใครจะคิดว่าผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์อย่างฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน ที่เน้นความเป็นเทรดดิชัน เครื่องยนต์วีทวิน โลโก้อินทรี เสื้อหนัง วันหนึ่งจะหันมาทำมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้า Livewire จึงเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของทาง HD จริงๆ เราก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของรุ่นรถ HD ในช่วงหลังที่เน้นความร่วมสมัยและดูทันสมัย เหตุผลง่ายๆ คือ คนรุ่นใหม่แทบไม่สนครุยเซอร์หนักๆ ขี่ชิวๆ จากมิลวอกี้อีกต่อไป ดังนั้นพวกเขารู้ว่ามันต้องมีรถสำหรับคนเจนเนอเรชันใหม่ที่โตมาทดแทนคนรุ่นเก่า Livewire เป็นรุ่นสำคัญที่ทำให้หลายคนหันมามองด้วยกำลังขนาด 75 แรงม้า แรงบิด 71 นิวตันเมตร แบกน้ำหนักราว 200 กก. และเสียงการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าของ HD มันย่อมทำให้หลายคนอยากลองขี่แน่นอน
5. Honda CB650R
สมาชิกตระกูล Neo Sports Cafe' รุ่นล่าสุดจากฮอนด้า หลังจากที่คลอด CB150R, CB300R และ CB1000R มาก่อนหน้านี้ โดยถอดแบบ DNA มาจากรุ่นใหญ่ CBR1000RR อย่างไรก็ตามคงไม่ฮือฮาเท่ากับการมาแทนที่ CB650R รุ่นเดิม เพราะฉีกหนีรูปลักษณ์ความเป็น Naked Bike แบบเชยๆ ไปจนหมดสิ้น อย่างไรก็ตามเครื่องยนต์ยังเป็นบล็อคเดิมที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ทำงานร่วมกับโช๊คอัพ Showa หัวกลับขนาดใหญ่ (Upside down) ช่วยให้การควบคุมรถดีขึ้น ด้านระบบเบรกก็เป็นแบบเรเดียลเม้าท์จาก Nissin พร้อมระบบ Emergency Stop Tail Light แสดงไฟฉุกเฉินเมื่อรถเบรกกะทันหันแบบที่ใช้ในรถระดับซูเปอร์สปอร์ต และยังมี Assist & Slipper Clutch ช่วยลดอาการกระชากของล้อหลังในช่วงเปลี่ยนเกียร์สูงลงมาเกียร์ต่ำระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) เทคโนโลยีจากสนามแข่ง เรียกว่าครบถ้วนมากๆ ที่สำคัญ ราคาเพียง 305,000 บาท ลองแล้วอาจอยากได้เลย
6. Triumph Speed Twin
สปีดทวิน 2019 น่าจะเป็นรักพี่เสียดายน้องระหว่าง สตรีท ทริปเปิ้ล 750 กับตระกูลบอนเนวิลล์ ชื่อ SpeedTwin เป็นรุ่นตำนานตัวแรงของไทรอัมพ์ในยุค 1930 ที่ใช้ขุมพลัง 500 ซีซี ตอนนั้นและทำสถิติความเร็วในการซิ่ง การนำชื่อนี้กลับมาพร้อมกับสานต่อตำนาน ทำให้สปีดทวินฉีกตัวออกมาอย่างโดดเด่นเหลือรุ่นอื่นๆ ในปัจจุบัน ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์จากรุ่นทรักซ์ตัน ที่ให้พลัง 96 แรงม้า แรงบิด 112 นิวตันเมตร ระบบเบรกเบรมโบสเปคตัวท็อปด้านหน้า หลัง Nissin วงล้อเป็นอัลลอยต่างจากซี่ลวด สะท้อนให้เห็นว่า สปีดทวิน ใหม่ เน้นไปที่เพอฟอร์มานซ์มากกว่าความคลาสสิก ดูจากยางติดรถที่ให้เป็น พีเรลลี่ รอสโซ่ 3 ยิ่งมั่นใจว่ารุ่นนี้แรงแบบคลาสสิกเต็มๆ และอีกไม่นานก็จะมีการทดสอบขี่กันที่ประเทศสเปน ซึ่งไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) ได้นำสื่อมวลชนไทยบางส่วนไปทดสอบที่นั่น เราคงได้เห็นฟีดแบคของรถรุ่นนี้เร็วๆ นี้
7. Yamaha YZF-R3
ยามาฮ่า R3 สปอร์ตคลาส 300 ซีซี ใหม่ ได้เปิดตัวมาพร้อมรูปลักษณ์ที่โดดเด่น โดยเป็นการนำเอา DNA ของรุ่นพี่ตระกูล R อย่าง R6 มาใช้ ส่วนขุมพลังยังใช้เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ขนาด 321 ซีซี แบบ 4 จังหวะ 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด ด้านหน้าปัดออกแบบใหม่เป็น LCD แผงคอก็ใหม่เช่นกันดูดุดันกว่าเดิม พร้อมแฮนด์จับอะลูมิเนียมสไตล์เฉพาะตระกูล R - Series เพื่อความสมดุลในการขับขี่ทั้งบนถนนและในสนามแข่ง โช๊คอัพหน้าแบบอัพไซด์ดาวน์ ระบบกันสะเทือนหลังแบบ Monocross ทำงานร่วมกับโช๊คอัพหลัง KYB ที่สามารถปรับระดับได้ ด้วยราคาไม่เกิน 200,000 บาท R3 ใหม่จึงเป็นสปอร์ตรุ่นเล็กที่น่าหาโอกาสลองขี่แบบจริงจังให้ได้สักครั้ง
7 คัน 7 รุ่นต่างแบรนด์ และหลากหลายแนว คันไหนที่โดนใจต้องหาโอกาสไปลองขี่ให้ได้ เพราะรถต้องดูแล้วชอบ ลองแล้วใช่ !