ขี่มอเตอร์ไซค์ทริปลุย ใส่ชุด 'แอดเวนเจอร์' หรือ 'โมโตครอส' แบบไหนดีกว่า ?

ไบค์เกอร์ที่เริ่มอยากหันมาออกทริป อาจจะต้องเผชิญกับปัญหากับการเลือกชุดที่ใส่ระหว่างถนนดำ และเส้นทางออฟโรด หลายๆ คนมักจะเริ่มสับสนกับการใช้อุปกรณ์ เครื่องแต่งกายอยู่ไม่น้อย บางคนยังใช้หมวกกันน็อคแบบสตรีท (FULLFACE) ออกทริปอยู่ก็มี รวมไปทั้งกางเกงยีนส์ธรรมดา รองเท้าผ้าใบ บทความนี้จะเป็นแนวทางเรื่องการเลือกอุปกรณ์ เครื่องแต่งกาย ออกทริปลุยแบบต่างๆ ให้เหมาะสม ซึ่งไม่มีอะไรผิดหรือถูกที่สุด แค่เลือกให้เหมาะกับทริป และสิ่งที่ตนเองชอบก็พอครับ

 

เริ่มแรกหลายคนคงเลือกไปที่หมวกแบบ ON-OFF เพราะใช้งานได้สะดวก เหมาะกับถนนดำ และทางออฟโรด สามารถขี่บนถนนดำและใช้ความเร็วได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถถอดชิลด์หน้าแล้วใส่แว่นวิบาก (MX Goggle) ได้เหมือนหมวก MX เมื่อต้องเข้าเส้นทางออฟโรด

แล้วใช้หมวกกันน็อคแบบสตรีทออกทริปออฟโรดไม่ได้เหรอ? มันก็อาจทำได้ แต่จะทำให้ผู้ใส่ลำบาก เพราะการขี่ทางออฟโรดไม่ได้ใช้ความเร็วสูงเหมือนบนถนนปกติ

โดยทั่วไปเวลาขี่เข้าเส้นทางออฟโรด เรามักใช้ความเร็วช้ากว่าบนถนน และต้องเจอกับอุปสรรคที่ต้องอาศัยแรงกายอยู่บ่อยๆ หมวกที่เบาและมีช่องลมเข้าได้ ย่อมช่วยให้อากาศถ่ายเทและรู้สึกสบายกว่า ส่วนแว่นวิบากก็จะช่วยให้คุณหายใจได้เต็มที่เช่นตอนยกรถ ฝ้าก็ไม่ค่อยขึ้นด้วย ตัวโฟมที่อยู่ใต้กรอบกรอบแว่นก็ยังช่วยซับเหงื่อไม่ให้ไหลเข้าตา นอกจากนี้แว่นยังช่วยกันฝุ่นและทรายเวลาคุณขี่ลุยทางแห้ง

หมวกกันน็อคโมโตครอส หรือ MX ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการขี่แบบออฟโรดโดยตรงอยู่แล้วจึงทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งเบากว่า มีช่องรับลมใหญ่กว่า ปีกบนก็กันแดดได้ดีด้วย ส่วนจุดด้อยก็คงเป็นเวลาเจอฝนและอากาศหนาวจัดๆ มันจะไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่ และการใส่ขี่บนถนนดำก็จะเจอกับเสียงลมรบกวนที่มากกว่า

หมวก MX เน้นเบา มีช่องรับลมใหญ่ และเปิดหน้ากว้างเพื่อรองรับการใส่แว่นวิบาก

หมวกแบบนี้ออกแบบให้ใส่สบายทั้งในเส้นทางปกติและทางออฟโรด ด้วยชิลด์หน้าเต็มที่ออกแบบใช้งานร่วมกับแว่นวิบากได้ อย่างไรก็ตาม หมวกประเภทนี้ผสมผสานให้ใช้งานได้ดีพอทั้งทางดำ และทางฝุ่น แต่ไม่ได้ดีเท่าหมวกแบบสตรีท และโมโตครอสถ้าเทียบกับการใช้งานเฉพาะทางแบบตรงๆ

ถ้าให้เลือกกันจริงๆ เราคงต้องมีหมวกไว้หลายแบบให้เลือกใช้งานตามการขี่ได้ตลอด แต่โลกความเป็นจริงราคาหมวกแบรนด์ดีๆ มักแพง ทำให้ต้องเลือกหมวกที่คุ้มค่าต่อการลงทุนมากที่สุด งานนี้ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณของแต่ละคนเลย

ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าการออกทริปส่วนใหญ่ของคุณอยู่บนถนน มีทางออฟโรดน้อยมาก ก็ใช้หมวกแบบสตรีทได้เลย แต่ถ้าเป็นทริปทางไกลมีส่วนของทางดำ และออฟโรดพอๆ กัน ก็เลือกหมวกแบบแอดเวนเจอร์ หรือถ้าทริปส่วนใหญ่ของคุณเข้าแต่ป่า ทางฝุ่น ก็ต้องเลือกหมวกโมโตครอส

โดยส่วนตัวผมเลือกใช้หมวกแบบแอดเวนเจอร์ เพราะยังรู้สึกว่ารองรับการออกทริปได้ดีอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัดส่วนการขี่ทางดำมากกว่าทางฝุ่น แต่ต้องมีแว่นวิบากไว้ใส่สลับเปลี่ยนเวลาเข้าทางออฟโรด ไม่งั้นหายใจไม่ทัน

หมวกแอดเวนเจอร์ใช้ได้ทั้งทางออนและออฟโรด ขี่ทำความเร็วบนถนนดำสบายกว่า

แรกเริ่มเดิมทีผมพยายามเลือกเสื้อแจ็คเก็ตแอดเวนเจอร์ที่ดีสุดเท่าที่จ่ายได้ คิดว่าตัวเดียวจบกับทุกทริป แต่ในความเป็นจริงของดีสุด แพงสุด ไม่จำเป็นต้องเหมาะกับตัวเราเสมอไป

ส่วนใหญ่จะเป็นแบบครอบคลุมในเรื่องของการใช้งานหลากหลายฤดู มีตัวซับด้านในไว้ช่วยให้อุ่นขึ้นเวลาขี่ฝ่าอากาศหนาว และสามารถถอดออกได้ เมืองไทยอาจดูไม่ค่อยจำเป็นเท่าไร แต่การขี่ขึ้นดอยทางภาคเหนือในช่วงปลายปีอาจต้องใช้ หรือถ้ามีโอกาสไปออกทริปต่างประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นก็ช่วยได้ดี ส่วนการ์ดมักมีติดมาให้กับแจ็คเก็ตรองรับทั้งการขี่ออนและออฟโรด อย่างไรก็ตามการ์ดที่ให้มากับเสื้อแจ็คเก็ตมักเป็นระดับล่างที่ป้องกันไม่ได้มากนัก ถ้าให้ดีควรซื้อการ์ดเลเวลสูงกว่า หรือคุณภาพดีกว่าที่ขายแยกใส่แทนโดยเฉพาะการ์ดหลัง

แจ็คเก็ตแนวแอดเวนเจอร์มักมีเสื้อด้านในหลายชั้น เน้นกระเป๋าเยอะ
มีการ์ดในตัว แต่ไม่คล่องตัวถ้าขี่ทางวิบาก ตลอดจนระบายอากาศไม่ดีเท่า

จริงๆ เสื้อประเภทนี้ดูเหมือนเสื้อผ้าทั่วไป เพราะทำจากผ้าโพลีเอสเตอร์ซึ่งน้ำหนักเบา แต่มีสีสัน แฟชั่นให้เลือกมากมาย แต่ในการใช้งานจริงต้องใส่ทับเสื้อการ์ดข้างในอีกที หรืออาจเป็นเสื้ออินเนอร์แล้วใช้การ์ดแยก 4 จุด คือ อก, หลัง, ไหล่ และข้อศอก

การเลือกใช้เสื้อเจอร์ซีย์แบบนี้ แม้ใช้ร่วมกับชุดการ์ดแล้วก็ยังเบากว่าแจ็คเก็ตแอดเวนเจอร์ อีกทั้งยังระบายอากาศ และยืดหยุ่นเวลาขี่แบบออฟโรดได้ดีกว่าด้วย ที่สำคัญคือ เสื้อการ์ด หรือการ์ดแยกส่วนที่ใส่จะอยู่ตัวมากกว่าในแจ็คเก็ต

อย่างไรก็ตามเรื่องเสื้อไม่มีถูกผิดแล้วแต่ความชอบ และสไตล์ของแต่ละคน แต่ถ้าเป็นเจอร์ซีย์ก็จะมีให้เลือกมากกว่า ออกทริปติดต่อกันหลายวัน ก็มีเสื้อให้เปลี่ยนใหม่หลากหลายง่ายกว่าแจ็คเก็ต เพราะการ์ดข้างในก็ใช้ของเดิมซ้ำได้อยู่แล้ว

เสื้อเจอร์ซีย์ MX มักมีสีสันสดใสเน้นเบา คล่องตัว และระบายอากาศได้ดี

ในส่วนของกางเกงคงไม่ต่างจากการเลือกเสื้อ เพราะมักต้องใส่ให้เข้ากัน แต่ก็สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ต่างแบบได้เช่นกัน เช่น เสื้อเจอร์ซีย์+กางเกงแอดเวนเจอร์ หรือ แจ็คเก็ตแอดเวนเจอร์+กางเกงโมโตครอส 

โดยกางเกงแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อแตกต่างที่เหมือนกับเสื้อคือ ถ้าใส่การ์ดแบบแยกชิ้นมันจะติดตัวเราได้มากกว่า และเวลาออกทริปที่เน้นทางออฟโรดเยอะๆ ความคล่องตัวก็เป็นเรื่องสำคัญการใส่ชุดแบบโมโตครอสย่อมสะดวกกว่า

รองเท้าบูทเป็นอุปกรณ์แต่งกายที่สำคัญที่สุดของการขี่ทางออฟโรด เมื่อคุณล้ม (เรื่องปกติของทริปออฟโรด) บนทางหิน หรือโดนรถทับ ขา ข้อเท้า เท้า บูทยาวจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้เสมอ

  
รองเท้าบูทสไตล์แอดเวนเจอร์ ดูคล้าย MX แต่ตัวรัดน้อยกว่า ยืดหยุ่นดีกว่า เน้นเดินสะดวก

หลายคนที่รองใส่รองเท้าบูทยาวไม่ว่าแอดเวนเจอร์ หรือโมโตครอสมักบอกว่าไม่สบาย เดินไม่สะดวก และหนัก บูทแบบนี้หนักเพราะต้องมีพื้นแข็งไว้เหยียบบนเส้นทางออฟโรดสารพัดรูปแบบ และยืนบน PEGS โลหะ รอบตัวบูทก็จะมีการ์ดที่ทำจาก TPU เสริมตามจุดต่างๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รองเท้าบูทแนวออฟโรดจะหนัก และเดินไม่สะดวก แต่เดี๋ยวนี้ก็มีการพัฒนา มีรุ่นดีๆ ที่เบาขึ้นใส่เดินสบายขึ้น แม้ไม่เท่าบูทสำหรับถนนปกติก็ตาม อย่างไรแล้วเมื่อคุณใส่จนเข้าที่และชินกับมัน บูทยาวจะทำให้คุณสบายใจกว่าเมื่อออกทริป และที่สำคัญมันมีสีสัน ดูสวยงามที่สุดในบรรดารองเท้าขี่มอเตอร์ไซค์

ส่วนตัวผมมีทั้งรองเท้าบูทแอดเวนเจอร์ และโมโตครอส จากช่วงแรกที่คิดว่าแอดเวนเจอร์ใส่สบาย เดินสะดวกกว่า ปกป้องได้ดีเช่นกันถ้าไม่ได้ไปลุยทางหินหรือเข้าป่าแบบโหดๆ แต่หลังจากที่ได้ลองใส่สลับในทริปต่างๆ กันแล้ว บูทโมโตครอสที่ใส่จนชินเข้าที่กลับรู้สึกมั่นใจมากกว่าและกลายเป็นบูทหลักตอนนี้ไปเสียแล้ว

รองเท้าบูทสำหรับ MX มักมีส่วนการ์ดปกป้องหลายจุด มักเดินไม่สะดวก แต่หลายรุ่นใหม่ก็ทำให้เดินได้ดีขึ้น

การขี่มอเตอร์ไซค์บนเส้นทางออฟโรดนั้น มือเราทำงานต่างจากการขี่บนถนนดำชัดเจน เพราะต้องกำคลัตช์ และเบรกบ่อยครั้งกว่าขี่แบบถนน ถุงมือแบบถนนที่หนาจึงไม่เหมาะกับการนำมาใช้กับการขี่สายนี้ สำหรับถุงมือโมโตครอสที่ดูมีสีสันบางเบานั้น ถ้าเอามาใช้ออกทริปออฟโรดแบบเอนดูโรที่มีอุปสรรคระหว่างทางมากมาย เช่น ต้นไม้ ฯลฯ ก็ไม่เหมาะนัก แม้จะให้การควบคุมระหว่างก้านคลัตช์ และเบรกที่ดีเยี่ยมก็ตาม แต่เวลาล้มขึ้นมาไม่มีส่วนไหนป้องกันได้เลย (ในสนามแข่งโมโตครอสมีแต่ดินกับเนิน) ดังนั้นเรื่องถุงมือ จึงอยากแนะนำให้ใช้แบบแอดเวนเจอร์ที่ออกแบบมาให้ไม่หนาเกินไป มีนวมกันกระแทกตรงอุ้งมือ และการ์ดเสริมบริเวณสันหมัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นถุงมือทัวร์ริ่ง

ถุงมือสำหรับสายแอดเวนเจอร์ รัดกุม และปกป้องดี

ถุงมือ MX เน้นความยึดหยุ่นสูง เบาบาง เพื่อเน้นการเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง

เรื่องคุณสมบัติกันน้ำในอุปกรณ์ต่างๆ ถ้าเป็นบ้านเราที่ส่วนใหญ่อากาศร้อน แค่อยู่นิ่งๆ เหงื่อก็ออกแล้ว ฉะนั้นการกันน้ำจึงเปล่าประโยชน์ มันไม่มีทางที่ร่างกายของคุณจะแห้งได้อย่างที่คิดตลอดทริป หรือถ้าคุณเจอฝน ขี่ลุยธารน้ำ มันก็กันอะไรแบบนี้ไม่ได้อยู่แล้ว หรือเสื้อผ้าที่มีเทคโนโลยี Gore-Tex นอกจากทำให้ร่างกายร้อนโดยไม่จำเป็นในช่วงหน้าร้อนแล้ว ยังแพงอีกด้วย จริงๆ แค่ซื้อชุดกันฝนถูกๆ ก็กันน้ำได้ดีแล้ว

ถึงตรงนี้หลายคนน่าจะพอมองภาพออก รู้แนวของตัวเองแล้วว่าจะเลือกชุดอุปกรณ์แบบไหนให้เหมาะกับตัวเอง เรื่องแบบนี้ไม่มีถูก - ผิด แค่เลือกที่ชอบ ซื้อที่ใช่ ใช้ให้ถูก ! ก็พอแล้ว